“เก๋ ชลลดา” โต้ “โย-บี” เปิดศึกตีกันหลังเวทีแฟชั่นวีก ลั่นแค่ข่าวลือมั่ว รับเพื่อนนางแบบไม่อึดอัด เพราะไม่เข้าข้างใคร พร้อมเป็นกาวใจ อยากให้ “โย-บี” กลับมาเป็นเพื่อนรักกันเหมือนเดิม ไม่เชื่อโยจะทิ้งแคตวอล์กเดินแฟชั่นวีกเป็นปีสุดท้าย

       เป็นอีกหนึ่งคนที่พยายามช่วยเป็นกาวใจสมานรอยร้าวให้กับคู่ “โย ยศวดี หัสดีวิจิตร” กับ “บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์” ที่กำลังมีปัญหาขัดแย้งกันอยู่ในตอนนี้ สำหรับ “เก๋ ชลลดา เมฆราตรี” ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นพี่นางแบบของทั้งคู่ ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเปิดใจว่าเพื่อนนางแบบอยากให้โยและบีกลับมาคืนดีกันเหมือนเดิม ยันข่าวลือมั่ว “โย-บี” ตีกันหลังเวทีแคตวอล์กแฟชั่นวีก
       
       “ก็ไม่ใช่แค่เก๋คนเดียวนะคะ เพื่อนๆ พี่ๆ นางแบบในวงการทุกคนก็อยากจะให้ทั้งสองกลับมาดีกัน เขาก็เป็นเพื่อนรักกันมาก่อน ก็อยากให้เขากลับมาดีกัน เราก็เหมือนเพื่อนทำงานในวงการเดียวกัน ฉะนั้นพอเห็นใครมีปัญหาเราก็อยากให้เขาเคลียร์กัน แต่ต้องบอกด้วยความสัตย์จริงว่าไม่ได้ทราบมาก่อนว่าเขามีปัญหาอะไรกัน และต้องบอกว่าเก๋เป็นอีกคนที่เป็นลูกค้าโย-บี ไดเอตฟู้ดส์มาตลอดนะคะ และชื่นชมกับธุรกิจของเขาทั้งสองคนว่าเขาน่ารักจังเลย เป็นเพื่อนรักกันที่ทำธุรกิจด้วยกัน ยังไงก็ขอให้เขาทั้งสองคนได้มีโอกาสพูดคุยกันก่อนดีกว่า ส่วนรายละเอียดเบื้องลึกอยากไปถามจากปากเจ้าตัวเขาดีกว่า”
       
       “ต้องบอกว่าในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาไม่ได้มีโอกาสคุยกับทั้งสองท่านนะคะ เพราะตอนเกิดเรื่องขึ้นก็มีเรื่องเศร้าของวงการคือเราสูญเสียพี่เป็ด (อภิชาติ นรเศรษฐาภรณ์) ก็ได้มีโอกาสเจอทั้งสองท่านที่งานศพเท่านั้นเอง และไม่ได้มีโอกาสพูดคุยถึงเรื่องนี้เลย แม้กระทั่งวันก่อนเก๋ก็อยากจะไปร่วมงานที่โยเปิดธุรกิจอาหารเสริมด้วย แต่ว่าพอดีเมื่อวานมีงานอยู่แล้ว ไม่สามารถไปได้จริงๆ แต่ตอนแรกก็รับปากว่าจะไปช่วยโยทำงานด้วย แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ไป”
       
       ยันนางแบบไม่มีการแบ่งพวก โต้ข่าวลือ “โย-บี” ลงไม้ลงมือหลังเวทีแฟชั่นวีก
       “แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนที่ไปงานจะแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันนะคะ คือเราเป็นเพื่อนกันหมด ทุกคนยังเป็นเพื่อนของทั้งคู่เหมือนเดิม เก๋มั่นใจเลยว่าคนที่ไปร่วมงานของคุณโยแล้ว อนาคตเกิดคุณบีทำธุรกิจอีกเก๋ก็มั่นใจว่าทีมเดิม เพื่อนคนเดิมหรือว่าคนทำงานคนเดิม น้องๆ สไตลิสต์เสื้อผ้าหน้าผมเขาก็ต้องไปงานคุณบีเช่นเดียวกันค่ะ ไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกขนาดนั้น”
       
       “เก๋อยากให้ฟังจากปากทั้งสองท่านมากกว่า เพราะความสัมพันธ์ของคนเราต้องมีเรื่องราวเป็นความทรงจำกันอยู่แล้ว แต่อาจต้องใช้เวลานิดหนึ่ง เหมือนเวลาเราโกรธกันหรืองอนกันใหม่ๆ เราอาจจะใช้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่พอเวลาผ่านไปเราก็จะคิดถึงความผูกพันความเป็นเพื่อนกัน แต่ข่าวที่ว่าถึงขั้นจะลงไม้ลงมือกันหลังเวทีแฟชั่น คงไม่ขนาดนั้นมั้งคะ เขาเป็นเพื่อนรักกันมาอยู่แล้ว ข่าวลือก็คือข่าวลือค่ะ รอให้เจ้าตัวทั้งสองคนออกมาชี้แจงอีกทีดีกว่า”
       
       “แต่อย่าใช้คำว่าเพื่อนๆ นางแบบอึดอัดเลย ใช้คำว่าเป็นห่วงดีกว่าค่ะ แต่ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าดีใจอยู่อย่างคือประชากรนางแบบไทยยังมีไม่ค่อยมากนัก เพราะฉะนั้นในการทำงานเราก็ต้องได้เจอ ได้ร่วมเวทีแคตวอล์กกันอยู่แล้ว เรียกว่าคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้วค่ะ ทุกคนก็อยากจะให้บรรยากาศในการทำงานเป็นเพื่อนกันหมดมากกว่า เขาก็เลยรู้สึกว่าเป็นห่วง ในส่วนของเก๋ก็ด้วยความที่เป็นพี่ เลยไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร เป็นห่วงด้วยซ้ำว่าถ้าเกิดเขาคุยกันได้ก็จะดีมากๆ เก๋ว่าความรักของเพื่อนเวลางอนกันก็เหมือนแฟนแหละค่ะ อาจจะต้องใช้เวลาแป๊บหนึ่งก่อนให้ทั้งสองคนใจเย็นค่ะ”
       
       ปัดไม่รู้จะกลับมาดีกันเหมือนเดิมได้หรือไม่ รอแค่เวลาช่วยเท่านั้น
       “แต่ก็ไม่กล้าตอบแทนทั้งสองคนจริงๆ ว่าจะกลับมาคืนดีกันได้ไหม อยากให้ทั้งสองท่านเป็นคนพูดเองดีกว่า แต่ล่าสุดงานแฟชั่นวีกเก๋ก็ได้เจอทั้งสองท่านนะคะ ก็ไม่เห็นมีอะไรไม่ดีเลย อันนี้พูดจริงๆ เพราะอย่างที่บอกว่ามันเป็นเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ งอนกัน แต่เดี๋ยวนี้โลกโซเชียลเน็ตเวิร์กมันมีอิทธิพลครอบคลุม ฉะนั้นข่าวสารบางอย่างมันก็ออกไปรวดเร็ว บางทีอ่านข่าวก็ยังตกใจ เก๋เองอ่านพาดหัวข่าวยังตกใจเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่พออ่านเนื้อข่าวก็เป็นความเข้าใจผิดเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งก็ให้โอกาสทั้งสองคนได้ชี้แจงปรับความเข้าใจกันดีกว่า พวกเราเป็นคนนอกก็ให้กำลังใจอยู่ห่างๆ”
       
       “เก๋ก็เห็นเขาทั้งสองคนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ก็อยากจะให้เขาพูดคุยกันดีกว่า แต่ด้วยความที่ใจร้อนทั้งคู่ เก๋เข้าใจนะเพราะคนเรารักกันมาก นิดๆ หน่อยก็เลยน้อยใจมากเป็นธรรมดา ก็ต้องใช้เวลา เก๋ว่าเขาสองคนเป็นเพื่อนกันอยู่แล้วก็คงต้องใช้เวลาแป๊บหนึ่ง ภาพของโยบีหลายๆ คนก็คงเห็นเป็นภาพติดตาของเพื่อนรักทั้งสองคน พูดเหมือนเขาเป็นแฟนกันเลย (หัวเราะ) ก็ต้องให้เวลาเขาสองคนตระหนักนิดหนึ่ง เพราะตอนนี้เรื่องมันอาจจะเพิ่งเกิดใหม่ๆ แต่พอห่างกันจากที่เคยคุยกันทุกวัน แมสเซสหากันทุกวัน ก็ต้องมีคิดถึงกันบ้างแหละ ผู้หญิงเขาไม่โกรธกันนานหรอกค่ะ”
       
       “ก็ไม่ได้กระทบวงการนางแบบขนาดนั้นนะคะ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของคนสองคนมากกว่า ก็ยังเห็นเขาเดินบนเวทีแฟชั่นโชว์เดียวกัน แบรนด์เดียวกันได้อยู่เลย มันไม่ใช่เรื่องราวใหญ่โตขนาดนั้นจริงๆ แต่อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้ไม่มีกระแสข่าวอื่นเท่าไหร่นัก (หัวเราะ) ทั้งสองท่านก็เลยต้องรับเรื่องนี้ไปเต็มๆ ยังไงก็เชื่อว่าเขาคงคุยกันได้ค่ะ เพื่อนๆ ทุกคนก็เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่”
       
       เชื่อ “โย ยศวดี” แค่พูดเล่นว่าจะเดินแบบแฟชั่นวีกเป็นปีสุดท้าย
       “โยบอกว่าจะเป็นแฟชั่นวีกปีสุดท้ายเหรอ แหม ไม่ใช่หรอก โยเขาเป็นคนถล่มตัว อย่างเก๋เองก็เดินแบบน้อยลง เพราะมีนางแบบรุ่นใหม่ๆ เข้ามา ก็ยังแซวกันอยู่เลยว่าเดี๋ยวนี้นางแบบรุ่นใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นมาเป็นเรื่องปกติธรรมชาติของธุรกิจนี้อยู่แล้ว คลื่นลูกใหม่มา คลื่นลูกเก่าก็ต้องไปทำอย่างอื่นบ้าง ตัวเก๋เองก็ทำพิธีกรอีเวนต์มากกว่าเดินแฟชั่นแล้ว โยเขาก็คงแซวตัวเองมากกว่า ยังบอกโยเลยว่าอีก 10 ปีโยก็ยังสวยเช้งอยู่ ความอ้วนกับโยไม่ใช่ของคู่กันอยู่แล้ว โยยังเป็นตัวอย่างในแบบซูเปอร์โมเดลในใจของหลายๆ คนอยู่แล้ว”
       
       “โยเขาไม่ทิ้งหรอก แต่ก็ต้องบอกว่าสุดแล้วแต่ดีไซเนอร์ด้วยนะคะ ไม่ใช่ว่าเราวันดีคืนดีอยากจะเลิกอาชีพนี้ ถ้ายังมีคนจ้างงานหรือว่าอยากให้พวกเราเป็นนางแบบให้อยู่ พวกเราก็เต็มใจอยู่เสมอ เก๋พูดทุกวันเลยนะคะว่าถึงตอนนี้เก๋จะเป็น MC แต่เก๋ก็ยังอยากเดินแบบอยู่นะคะ (หัวเราะ) แต่ตอนนี้อาจจะอ้วนไปแล้วก็ได้ (ยิ้ม)”