“รัชตะ” มอบของขวัญปีใหม่ จัดหมอดูแลทุกครอบครัว-ทำ 3 กองทุนเท่าเทียม
2014-10-20 15:02:23
Advertisement
Pyramid Game

       วันนี้ (20 ต.ค.) ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วย สธ. และ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. ได้เข้าร่วมประชุมชี้แจงการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2558 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 21 ต.ค. 2557 โดยมีผู้บริหารระดับสูง ทั้งจากส่วนกลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) และตัวแทน ผอ.โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) จากทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 1,000 คน
       
       ทั้งนี้ ศ.นพ.รัชตะ ได้อภิปรายนโยบายการดำเนินงานของ สธ. ว่า การดำเนินงานของตนทั้ง 10 ข้อนั้น ถือเป็นการเตรียมของขวัญปีใหม่ 2558 ให้คนไทยได้รับบริการสาธารณสุขอย่างเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 1. พัฒนางานสาธารณสุขตามแนวพระราชดำริและโครงการเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เช่น ให้หญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากท้องทุกคนได้รับยาเสริมไอโอดีนครบ ใน เม.ย. 2558 ฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ดำเนินการ 19 จังหวัดในภาคอีสานภายใน ม.ค. 2558 ฉีดวัคซีนรวมป้องกันโรคหัด คามทูม หัดเยอรมัน ในประชากรเด็กอายุ 2.5-7 ปี ไม่น้อยกว่า 95% ใน พ.ค.- ธ.ค. 2558 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี บริการรากฟันเทียมแก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการผู้ด้อยโอกาส 8,400 ราย และให้บริการฟันเทียมผู้สูงอายุ 35,000 ราย ตามโครงการรากฟันเทียม และฟันเทียมพระราชทาน เนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ เป็นต้น
       
       ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า 2. พัฒนาระบบบริการสุขภาพให้ทุกคนเข้าถึงบริการ เช่น ทุกพื้นที่ต้องมีหมอประจำครอบครัวดูแลประชาชนทุกครัวเรือนในเขตชนบท โดย รพช. ต้องมีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวอย่างต่ำ 100 แห่ง และใน รพท. จะต้องมีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวแห่งละ 2 คน เพื่อเป็นที่ปรึกษา และประสานส่งต่อ เริ่มดำเนินการวันที่ 1 ม.ค. 2558 การสร้างความกลมกลืนในทุกกองทุนสุขภาพ แต่ไม่ใช่การยุบเป็นกองทุนเดียว แต่จะต้องทำให้สิทธิประโยชน์เท่าเทียม ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ การสร้างเสริมสุขภาวะสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง และผู้ป่วยระยะท้ายของชีวิต โดยให้มีผู้ดูแลอย่างพอเพียง จังหวัดละ 1 - 3 อำเภอ ดำเนินการทั้งประเทศใน เม.ย. 2558 ตรวจคัดกรองและผ่าตัดต้อกระจกใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ใน ธ.ค. 2557 และทั่วปรเทศใน ก.ย. 2558 พัฒนาหน่วยดูแลผู้ป่วยระยะท้ายแบบประคับประคองใน รพศ./รพท. ทุกแห่งใน ธ.ค. 2557 ก.ย. 2558
       
       ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า 3. สร้างเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตคนไทยทุกช่วงชีวิต โดยกำจัดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพตามกลุ่มวัย 4. สร้างเสริมความเข้มแข็งของกลไกนโยบายสาธารณะเน้นทำงานอย่างมีส่วนร่วม 5. พัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการบุคลากรสุขภาพ โดยผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการ ใช้แรงจูงใจทั้งการเงินและไม่ใช่เงิน วางแผนกำลังคนอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะพื้นที่ชนบทห่างไกล 6. พัฒนาความมั่นคงของระบบยา 7. จัดการโรคติดต่อและภัยคุกคามด้านสุขภาพ โดยให้ห้องปฏิบัติการ รพศ./รพท. ทุกแห่งที่มีสนามบินได้รับการรับรอง DRA ในการตรวจวินิจฉัยโรคติดต่ออุบัติใหม่ ใน ธ.ค. 2557 8. สนับสนุนการพัมนาระบบสุขภาพโลก 9. สนับสนุนการวิจัยสุขภาพอย่างครบวงจร และ 10. สร้างระบบธรรมาภิบาลใน สธ. โดยกำหนดกติกาโยกย้ายที่เป็นรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ กลไกเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล โดยทำให้ สธ. เป็นกระทรวงสีขาว มีแนวทางจัดซื้อจัดจ้างชัดเจน ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน
       
       ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอการบริหารงบหองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2558 ซึ่งยังมีความเห็นแตกต่างกัน ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ยังคงยืนยันตามมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ซึ่งการจัดสรรงบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปี 2558 ในไตรมาสแรกให้ดำเนินการตามแนวทางเดิมเหมือนปี 2557 ส่วนในไตรมาสสองให้คณะอนุกรรมการพัฒนาการระบบการเงินการคลัง ในบอร์ด สปสช. หารือให้ได้ข้อสรุปใน 2 เดือน


http://www.manager.co.th/

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X