-
-
-
Login with facebook
-
-
Login with facebook
“ตุ๊ก” ลั่นไม่คิดฟ้อง “บ๊วย” เอาค่าเลี้ยงดูลูก บอกจะไปเอาอะไรกับคนไม่มี
| ||||
|
“ตุ๊ก” แจงยังไม่ได้เคลียร์กับ “บ๊วย” เรื่องที่อดีตสามีจะไม่ส่งเสียค่าเลี้ยงดูลูก รับส่วนตัวมีกังวลบ้างกลัวรับภาระทั้งหมดไม่ไหว แต่ป่วยการที่จะฟ้องร้อง บอกจะไปเรียกร้องอะไรกับคนที่ไม่มี อีกทั้งคิดถึงจิตใจลูกที่คงไม่อยากเห็นพ่อ-แม่ทะเลาะกัน ปัดไม่ทราบอดีตสามีถังแตกเพราะเอาเงินไปลงทุนธุรกิจแล้วขาดทุนรึเปล่า หลังจากมีข่าวว่าอดีตสามีหนุ่ม “บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ” จะไม่ส่งเสียค่าเลี้ยงดูลูกตามที่ระบุในสัญญาหย่า ที่ตกลงกันไว้ว่าจะให้เดือนละ 8 หมื่นบาท เมื่อสอบถามกับซิงเกิลมัมสาว “ตุ๊ก ชนกวนันท์ รักชีพ” เจ้าตัวก็ยอมรับว่ามีการพูดคุยกันจริง เนื่องจากอดีตสามีต้องการจะขายบ้านที่ตนและลูกๆ อาศัยอยู่ในปัจจุบันเพราะขาดสภาพคล่องทางการเงิน ตนเลยยื่นข้อเสนอจะขอรับผ่อนต่อเอง เพื่อหวังให้บ้านหลังนี้เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่จะเก็บไว้ให้กับลูกๆ สองคน และหนุ่มบ๊วยก็ยื่นข้อเสนอกลับมาว่าหากเป็นเช่นนั้นตนขออนุญาตที่จะไม่ส่งเสียค่าเลี้ยงดูลูกอีกต่อไป และล่าสุดเมื่อสอบถามความคืบหน้าปัญหาดังกล่าวกับสาวตุ๊ก เจ้าตัวก็เผยว่ายังไม่ได้รับการติดต่อจากหนุ่มบ๊วย ทำให้ยังไม่ได้ตกลงกันจริงจังว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน “หลังจากที่ให้ข่าวไปวันนั้นก็ยังไม่ได้คุยกันเลย อาจจะยุ่งด้วยกันทั้งสองคน เดี๋ยวสงกรานต์ต่างคนก็ต่างมีทริปอีก สงสัยจะได้คุยก็คงอีกพักนึงแน่เลย เห็นว่าหลายที่ติดต่อไปสัมภาษณ์เขา แต่เขาก็ไม่สะดวก ถามว่าเครียดไหม ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์วันนั้นก็เครียดเหมือนกัน เรากังวลว่าจะดูแลต่อไม่ได้มากกว่า แต่ล่าสุดที่ดูในรายการคันปากก็เหมือนไม่เครียด ก็เลยไม่แน่ใจจริงๆ ค่ะ” จากปัญหาครั้งที่ผ่านมาสังคมก็มอง “บ๊วย” ว่าเป็นผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบ และยิ่งมาทำตัวแบบนี้อีกฝ่ายชายก็ยิ่งดูแย่ไปเลย กับเรื่องนี้ “ตุ๊ก” โดดป้องว่าอดีตสามีคงพยายามรับผิดชอบอย่างเต็มที่แล้ว “ตุ๊กว่าเขาก็คงพยายามจะรับผิดชอบเต็มที่แล้ว มันน่าจะถึงคราวลำบากจริงๆ ตอนนี้ก็น่าจะไม่ไหว ก็ไม่ได้กังวลอะไรว่าใครจะมองยังไง เพราะสุดท้ายแล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เชื่อว่าเขาก็คงพยายามที่สุดแล้ว เขาเองก็คงไม่อยากจะเป็นอย่างนี้ เขาก็คงอยากจะดูแลลูกให้ได้เท่าเดิม” “ตุ๊กเองก็ไม่รู้ว่าทุกคนรู้เรื่องนี้กันได้ยังไง อาจจะมีบางคนที่พอรู้บ้าง ก็คิดว่าเขาไม่น่าจะโกรธนะคะ แต่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันเพราะยังไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่วันนั้น ตุ๊กคงไม่ได้พูดแน่ๆ เพราะก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นอย่างนั้นตามที่เขาว่ารึเปล่า เพราะเดือนสุดท้ายเขาก็ยังให้อยู่ ถ้าเกิดจะไม่เริ่มต้นให้ก็ยังไม่ได้เริ่มเลย แล้วเราก็ยังไม่ได้คุยสรุปสุดท้ายกันด้วยว่าจะออกมาเป็นยังไง” “สำหรับบ้านมันก็เหลือเป็นเปอร์เซ็นต์ไม่เยอะ แต่ด้วยไซต์ของบ้านมันก็ไม่ได้น้อย แต่เราก็คิดว่ากำลังการทำงานของเรามันยังไหว แต่ถ้าไม่ไหวก็คงต้องค่อยมาว่ากันอีกทีนึง สำหรับค่าใช้จ่ายสำหรับลูก ก็เด็กเล็กเนอะ ก็คงไม่อะไรมาก ของเล่นที่ลูกเล่นก็ทั่วไป แต่เรื่องแบบนี้มันก็ไม่ได้น้อยอยู่แล้ว แต่คิดว่ามันก็คงอยู่ในกำลังที่พอจะทำได้” ปัดไม่ทราบอดีตสามีเอาเงินไปลงทุนธุรกิจแล้วขาดทุนรึเปล่า จึงขาดสภาพคล่องทางการเงิน “อันนี้ไม่ทราบรายละเอียดนะ แต่การทำงานใครๆ ก็คงหวังให้มันกำไร สมมติว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ มันก็เป็นเรื่องที่เราคาดเดาไม่ได้ แต่เราไม่รู้เรื่องผลประกอบการของเขา” ยันไม่คิดฟ้องเพื่อเอาค่าเลี้ยงดู บอกจะไปเอาอะไรกับคนที่ไม่มี ที่สำคัญลูกๆ คงไม่อยากเห็นพ่อ-แม่บาดหมางกัน “การที่เราไปฟ้องร้องจากคนที่เขาบอกว่าไม่มีมันจะได้อะไรล่ะค่ะ คิดว่าคงไม่ได้อะไรนอกจากความบาดหมาง สำหรับตุ๊กแล้วธีมของตุ๊กคือยืนอยู่บนอนาคตของลูก ยืนอยู่บนความสบายใจของลูก คิดว่าถ้าตุ๊กทำแบบนั้นลูกๆ คงไม่สบายใจแน่ๆ ลูกคงรู้สึกไม่ดีแน่ๆ ถ้าเห็นพ่อแม่ทะเลาะกัน ถ้าไม่ให้ก็ไม่เป็นไร เราก็ดูแลกันได้ ทำไงได้ในเมื่อมันไม่มี ทำแบบนั้นไปมันก็คงไม่ได้อะไร” |
|||
|
|||
|
http://www.manager.co.th
