เมื่อโลกหมุน ลูกต้องรอด ทัศนะจาก "โอคาเบะ ชินอิจิ"
2014-10-20 15:33:21
Advertisement
คลิก!!!

        หากจะกล่าวว่า การเลี้ยงลูกให้เติบโต และไปได้กับโลกเบี้ยว ๆ ใบนี้ถือเป็นการบริหารความเสี่ยงอย่างหนึ่งก็คงไม่ผิดนัก เพราะสังคมโลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยภัยอันตรายที่ล้วนสร้างความหนักอกหนักใจให้แก่พ่อแม่อยู่มากมายหลายเรื่อง เมื่อโลกหมุนไปหนึ่งองศา อาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงในหลายสิ่งหลายอย่าง หากไม่มีการเตรียมพร้อมเด็กสำหรับอนาคต อาจเสี่ยงต่อการถูกเหวี่ยงไปตามความเปลี่ยนแปลงนั้นได้ตลอดเวลา 
       
       ประเทศ "ญี่ปุ่น" นับเป็นตัวอย่างของหลาย ๆ ประเทศที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพประชากรตั้งแต่วัยเด็ก เพราะถือเป็นการเตรียมเด็กเพื่อพร้อมรับกับสิ่งที่ไม่แน่นอนในอนาคต ดังนั้น ความเข้มแข็ง ความมีระเบียบ และความรับผิดชอบ คือคุณลักษณะนิสัยที่อยู่ในกรอบการเลี้ยงดูของครอบครัวในดินแดนปลาดิบนี้
       
       ทีมงาน Life & Family ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณโอคาเบะ ชินอิจิผู้เชี่ยวชาญระดับสูงด้านการบริหารความเสี่ยง หนึ่งในคณะกรรมการองค์กรช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิในประเทศญี่ปุ่นซึ่งได้เดินทางมาประเทศไทยในโอกาสที่มีการมอบรางวัลไทโย อวอร์ด 2554 ของบริษัทโตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เมื่อเร็ว ๆ นี้ และคุณโอคาเบะได้มาเปิดเผยถึงอีกหนึ่งด้านที่น่าสนใจของตัวเขา นั่นก็คือ ครอบครัว และเทคนิคการเลี้ยงดูเด็ก ๆ ในยุคโลกหมุนเร็วให้ดี โดยเขากล่าวว่า
       
       “อนาคตของประเทศขึ้นอยู่กับคุณภาพของเด็กในวันนี้ หากพวกเขาไม่เข้มแข็ง ขาดความมีระเบียบวินัย ไม่สามารถเข้าใจตัวเอง และผู้อื่น รวมไปถึงพึ่งพาตัวเองได้ดี อนาคตของประเทศมีปัญหาแน่นอน ซึ่งพ่อแม่คือหนึ่งในปัจจัยชี้ขาดที่สำคัญ”
       
       "การเลี้ยงลูกของพ่อแม่ชาวญี่ปุ่น เราพยายามฝึกให้เด็กรู้จักเอาตัวรอด และช่วยเหลือตัวเอง นอกจากนั้น ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ เด็กต้องรู้ว่า เรื่องไหนอันตรายและไม่อันตราย ทางไหนปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัย ยกตัวอย่างการฝึกซ้อมเพื่อรับมือแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นที่มักผูกติดกับอัคคีภัย เพราะอารามส่วนใหญ่เป็นเรือนไม้ เด็กจะสวมหมวกกันสะเทือนซึ่งทนไฟและหนักมาก ฝึกให้รู้จักวิ่งหนีอย่างชาญฉลาด หลบหลีกท่อแก๊สและท่อน้ำ มุ่งไปหาที่โล่งแจ้ง" คุณโอคาเบะเล่าพร้อมกับยกตัวอย่างให้เห็นภาพถึงการฝึกเด็กให้รู้จักเอาตัวรอดเมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน
       
       เช่นเดียวกับการเลี้ยงลูกของเขาที่จะไม่หลุดกรอบความเข้มแข็ง และความมีระเบียบวินัย แต่ถึงที่สุดแล้ว ลูกต้องรู้จักคิด และสามารถพึ่งพาตัวเองได้ดีโดยไม่เป็นภาระ หรือทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนด้วย
       
       "คนภายนอกอาจมองว่าญี่ปุ่นเป็นชาติที่มีระเบียบวินัยมาก แต่สำหรับผม ผมมองว่า บางอย่างมันก็เคร่งเครียดกันเกินไป ซึ่งไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะ มันดี แต่ถ้ามากไป ทั้งพ่อแม่ และตัวลูกเองอาจตกอยู่ในวังวนของความเครียดได้ ดังนั้นผมจะไม่สร้างกรอบให้ลูกมากจนเกินไป ซึ่งแน่นอนว่า ระเบียบวินัยยังคงมีอยู่ แต่ผมจะให้อิสระให้เขาได้ทำ ได้คิด และทำอะไรด้วยตัวเองมากขึ้น เพราะผมอยากให้ลูกเติบโตบนพื้นฐานของความสุข และพึ่งพาตัวเองได้ดี" คุณโอคาเบะเผย


        ถึงกระนั้น การให้อิสระในความหมายของเขา ไม่ได้หมายถึงการปล่อยให้ลูกทำอะไรก็ได้ แต่ในความเป็นอิสระนั้น ลูกต้องมีมารยาท และทักษะการเข้าสังคมที่ดีด้วย
       
       "การเลี้ยงลูกให้เติบโตเป็นคนคุณภาพ ไม่ใช่เน้นแค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ควรมีหลาย ๆ ด้านผสมผสานกันไป ถึงแม้ผมจะให้อิสระกับลูก แต่ท้ายที่สุดแล้ว ลูกจะต้องมีความนอบน้อม และเอาใจเขามาใส่ใจเรา ที่สำคัญ ลูกต้องยึดถือความเป็นตัวเอง และมีเป้าหมายในชีวิตด้วย" นี่คือสิ่งที่คุณพ่อท่านนี้เตรียมพร้อมให้กับลูก
       
       สำหรับบทบาท "พ่อของลูก" ในวันนี้ เขาไม่เคยลืมที่จะกลับไปขอบคุณต้นแบบของเขา นั่นก็คือพ่อที่ไม่เคยเข้มงวดกับเขาเลย แต่จะให้อิสระในการทำสิ่งต่าง ๆ อย่างหลากหลาย ทำให้เขาซึมซับ และนำแนวทางเหล่านั้นมาสอนลูกให้เติบโตเป็นคนที่เข้มแข็ง และกล้ายอมรับในความผิดพลาดเช่นเดียวกับเขา
       
       "พ่อผมเป็นคนใจเย็นมาก แต่ถ้าผิดก็คือผิด ส่วนใหญ่แล้วท่านจะตั้งบทลงโทษเอาไว้เลย เช่น ถ้าทำผิด ก็อาจจะให้ไปอยู่นอกบ้าน หรืออยู่คนเดียวในห้องตั้งแต่เวลาเท่านี้ถึงเท่านี้ แต่ไม่ใช่ขัง หรือปล่อยให้อยู่แบบนั้นไปตลอดนะครับ ท่านไม่ได้โหดร้ายกับลูกขนาดนั้น เพียงแต่กฎต้องเป็นกฎ ถ้าทำผิดก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ทำ" คุณโอคาเบะเล่าย้อนถึงแนวการสอนของคุณพ่อที่หล่อหลอมให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็ง และมีทักษะการใช้ชีวิตที่ดี
       
       ท้ายนี้ ในฐานะคุณพ่อคนหนึ่ง เขาไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายเข้มงวดกับลูกมากเกินไป ตรงข้าม การให้ลูกได้เรียนรู้ และมีประสบการณ์ชีวิตหลาย ๆ อย่างระหว่างที่เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่นั้น คือสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ
       
       "ประสบการณ์ในวัยเด็กเป็นสิ่งสำคัญมาก หากเขาได้รับโอกาสอย่างหลากหลาย และไม่ถูกจำกัดขอบเขตมากเกินไป เด็กก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่กล้าคิด กล้าทำ และอยู่ในโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุข ผมอยากให้คุณพ่อคุณแม่มอบประสบการณ์ดี ๆ ให้แก่ลูกหลาย ๆ ด้าน และต้องฝึกเด็กให้รู้จักคิดด้วยว่า เมื่อเขาพบเจอเหตุการณ์ต่าง ๆ เขาจะแก้ไขอย่างไร ไม่ใช่เข้าไปครอบงำ และแก้ปัญหาให้ทุกอย่าง ซึ่งแน่นอนว่า พ่อแม่ทุกคนต่างก็มีความรัก และความเป็นห่วงลูก แต่เราไม่ได้อยู่กับเขาไปตลอด ถ้าไม่เตรียมเด็กให้พร้อม เขาก็จะประคับประคองชีวิตในมิติต่าง ๆ ให้ผ่านพ้นไปได้ยาก" คุณโอคาเบะกล่าวทิ้งท้าย


ที่มา  http://www.manager.co.th/

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X