เมื่อแฟนที่จากไป 6 เดือน ยังเป็นห่วง และมาบอกลาครั้งสุดท้าย...
2014-10-23 10:33:00
Advertisement
คลิก!!!

 

     กลายเป็นเรื่องเศร้าที่เรียกน้ำตาจากชาวเน็ตและถูกส่งต่อพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง สำหรับเรื่องราวความรัก ความห่วงใย ของ "คนที่จากไป" กับ "คนรัก" ที่ยังอยู่ แม้ว่าเขาและเธอมีอันต้องพรากจากกันไปกว่า 6 เดือนแล้ว แต่กลับมีคนเห็นว่าฝ่ายชายยังคงตามไปส่งแฟนสาวที่ทำงานในทุกเช้าเย็น...

            เรื่องราวข้างต้นนั้นบอกเล่าจาก คุณสมาชิกหมายเลข 1745208 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ผ่านกระทู้ "แฟนเสียไป 6 เดือนแล้วแต่มีคนเห็นว่าแฟนยังมารับมาส่งเราอยู่" เธอบอกว่าความรักครั้งนี้ได้มีการวางแผนการแต่งงานไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ทุกอย่างมีอันต้องจบลงเมื่อแฟนของเธอประสบอุบัติเหตุ และเรื่องทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ดังข้อความต่อไปนี้ 

            "ก่อนอื่นต้องขออนุญาตบอกก่อนว่าควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน เพราะเรื่องที่จะเล่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อของแต่ละบุคคล..

            เรื่องราวมีอยู่ว่า..

            เรากับแฟนคบกันมาได้ 3 ปีแล้วค่ะ ด้วยความที่เราค่อนข้างโตกว่าแฟน และทำให้แฟนเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดี มีความรับผิดชอบมากขึ้น ครอบครัวเขาเลยดูชอบเรามาก ช่วงที่คบกันเข้าปีที่ 2 เราเริ่มย้ายมาอยู่กับแฟนที่บ้านของเขาค่ะ ตั้งแต่ที่คบกันมาทะเลาะกันบ่อยมากค่ะ แทบจะทะเลาะกันทุกกวัน แต่พออีกวันก็จะหายโกรธหายงอนกันอย่างไม่มีเหตผล มันทำให้เรามั่นใจมากว่าไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ก็ไม่สามารถทำให้เราเลิกกัน
 
            การคบหาของเรากับแฟนเป็นที่ยอมรับของครอบครัวทั้งสองฝ่าย ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายมาคุยกันเรื่องแต่งงาน แต่แฟนเราขอบวชในเดือนกรกฏาคมก่อน หลังจากนั้นจะแต่งงานตอนไหนก็ตามแต่ผู้ใหญ่เห็นสมควร ทุกอย่างถูกวางแพลนเอาไว้หมดแล้ว เราดีใจและตื่นเต้นมากค่ะ 

            ..ก่อนวันเกิดเรา 2 วัน แฟนซื้อทองให้เป็นของขวัญวันเกิด ตอนนั้นดีใจมาก เพราะตั้งแต่คบกันมา แฟนไม่เคยให้ของขวัญวันเกิดเลย มีแต่ซื้อเค้กเป่าเทียน กินข้าวด้วยกันเฉย ๆ หลังจากวันนั้นแฟนก็ดูน่ารักเป็นพิเศษค่ะ มันบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไม แต่มันรู้สึกว่าเขาทำให้เรารู้สึกว่า อยากให้ถึงงานแต่งงานไวไวจัง จนกระทั่ง..เมื่อวันที่ 2 เมษายน เป็นวันเกิดพ่อเราค่ะ เราตกลงกับแฟนไว้ว่า วันนี้เราจะซื้อเค้กไปเซอร์ไพรส์พ่อของเรา และเขาก็บอกกับเราว่าจะไปให้คำสัญญากับพ่อเราว่าจะดูแลเราอย่างดีที่สุด และขอเราแต่งงานต่อหน้าพ่อ 

            ..เมื่อประมาน 10 โมงเช้า ในขณะที่เรากำลังจะไปซื้อเค้กให้พ่อ เราก็ต้องมารู้ว่า แฟนได้รับอุบัติเหตุ (ขออนุญาตไม่บอกนะคะว่าอุบัติเหตุอะไร) เรารีบไปหาเขาที่โรงพยาบาล พอไปถึงเราก็เห็นเขานอนอยู่ที่พื้นหน้าห้องฉุกเฉิน โดยที่มีคนล้อมรอบเกือบ 10 คน อาของแฟนดึงเรามากอด ไม่ให้หันไปมอง เราได้แต่ช็อคและร้องไห้ค่ะ พอเขายกร่างแฟนเข้าห้องฉุกเฉินได้ไม่ถึง 5 นาที ก็มีเจ้าหน้าเดินมา วอรายงานความเคลื่อนไหว จุดนี้ทำให้เราช็อคจนเป็นลมไปเลยค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่า "ตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตมี 1 ราย เป็นเพศชาย เสียชีวิตก่อนมาถึงโรงพยาบาล หมอปล่อยแล้ว.." ตอนนั้นเหตุการณ์ในโรงพยาบาลวุ่นวายมากค่ะ (เรื่องที่เกิดเป็นอุบัติเหตุใหญ่ มีคนเจ็บและเสียชีวิตอยู่หลายคน) ได้ยินแต่เสียงคนเจ็บและเสียงคนร้องไห้โวยวาย ตอนนั้นทุกช่องทีวีรายงานข่าวอุบุติเหตุนี้หมด และทุกครั้งที่รายงานจะเอ่ยชื่อผู้เสียชีวิต ซึ่งแน่นอนค่ะ เราต้องได้ยินชื่อแฟนเราทุกครั้งที่ข่าวเสนอ มันเจ็บปวดจนทนฟังไม่ได้ ต้องวิ่งออกมาข้างนอกหรือปิดหูตลอด หัวใจมันแหลกสลายมาก มันบรรยายไม่ถูกมันยิ่งกว่าความเสียใจ เพราะเหตุการณ์ครั้งนั้นเราไม่ได้สูญเสียแค่แฟนไปคนเดียว..

            หลังจากวันนั้น..ก็จัดงานศพให้แฟนที่ต่างจังหวัดค่ะ สวด 3 คืนแล้วเผา ตลอดระยะเวลา 3 คืน ได้แต่ภาวนาขอให้เขาฟื้นขึ้นมา พยายามไม่ร้องไห้ พยายามเข้มแข็ง ไม่ให้เขาห่วง แอบไปเคาะโลงศพ นั่งพูดอยู่คนเดียวหลายครั้ง จิตใจตอนนั้นย่ำแย่มากค่ะ แต่คนที่แย่กว่าเราแน่นอน ต้องเป็นแม่ของเขา เราสงสารแม่แฟนมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงเพื่อบรรเทาความเศร้าเสียใจให้แม่ได้ เพราะเราเองก็เศร้าเหมือนกัน 

            หลังจากเสร็จงานศพแฟน.. ก็กลับมากรุงเทพฯ กลับมาทำงานที่เดิม โดยที่ปกติทุกเช้า-เย็น แฟนจะคอยมารับ-มาส่ง ตอนนี้เรากลับไปอยู่ที่บ้านเราแล้วค่ะ เริ่มต้นใช้ชีวิตตัวคนเดียวมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างทำใจได้ยาก แต่ด้วยเพราะครอบครัวและเพื่อนที่คอยอยู่ข้าง ๆ ก็ช่วยทำให้ลืมเรื่องราวร้าย ๆ ไปได้บ้าง แต่พอต้องอยู่คนเดียว ก็เป็นธรรมดาที่ต้องฟุ้งซ่านและร้องไห้อยู่บ่อยครั้ง ทุกอย่างเริ่มเป็นปกติของการใช้ชีวิต จนมีอยู่วันนึงพี่ร้านขายข้าวที่ข้าง ๆ ที่ทำงาน เริ่มมาพูดคุยกับเรา ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยคุยกันเลย เขาพยายามถามถึงแฟนเรา ซึ่งเราก็ไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไร เพราะตอนนั้นมันกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนจะพูดถึงเรื่องนี้ แต่เราเริ่มรู้สึกว่าพี่เขาถามถึงแฟนเราแปลก ๆ จนเราเริ่มสงสัยเลยถามว่าพี่เขาต้องการจะสื่ออะไร.. พี่เขาคงอึดอัดอยากจะพูดมานานเลยบอกกับเราว่า 

            "ตั้งแต่เรากลับมาทำงานเนี่ยรู้ไหม ว่าเขาเห็นแฟนเรามารับมาส่งเหมือนเดิมเป็นปกติทุกวัน เมื่อเช้าก็เห็น.." 

            ตอนนั้นอึ้งไปนิดนึงค่ะ แต่อีกใจก็คิดว่าเขาเอาความเสียใจเรามาล้อเล่นหรือเปล่า เลยแกล้งถามกลับไปว่าแฟนแต่งตัวยังไง.. เขาก็บอกว่า "เสื้อยืดคอวีสีฟ้าน้ำทะเล กางเกงยีนส์ รองเท้าเตะ" ตอนนั้นเริ่มเชื่อค่ะเพราะชุดที่แฟนใส่ตอนเสียคือชุดนี้ และพี่คนนี้ก็ไม่เคยเห็นแน่ ๆ เพราะเสื้อตัวนั้นแฟนเพิ่งใส่เป็นครั้งแรก เราเป็นคนซื้อให้แฟนก่อนหน้าที่เขาจะเสียแค่ไม่กี่วัน ตอนนั้นด้วยความคิดถึงแฟนก็เลยถามพี่เขาเยอะมาก พี่เขาบอกว่าเขาเป็นคนชอบนั่งสมาธิและจะเห็นอะไรแบบนี้บ่อย ๆ พี่เขาอธิบายต่อว่า ในตอนช้าเขาจะเห็นแฟนเราก็ต่อเมื่อเราเดินมาแล้วแฟนเราก็จะเดินตามหลังจนกระทั่งเราเดินเข้าที่ทำงานแฟนเราจะยืนมองอยู่ข้างหน้าแล้วค่อย ๆ หายไป ตอนเย็นก็จะเห็นว่าแฟนเรามายืนรอที่เสาไฟข้าง ๆ ที่ทำงาน (เป็นที่ประจำของแฟนในตอนที่เขายังอยู่เขาก็จะมายืนรอเราตรงนี้ค่ะ) พอเราเดินออกมาจากที่ทำงานจะกลับบ้าน แฟนเราก็จะเดินตามเราไป.. เราเลยถามพี่เขาว่าที่เห็นเนี่ยเห็นเป็นรูปร่างแบบไหน เป็นคนตัวเป็น ๆ หรือยังไง เขาก็บอกว่า "เห็นเป็นร่างโปร่งแสงเป็นลาง ๆ แต่ใบหน้าเรียบเฉยไม่มีเลือดไม่มีบาดแผลอะไรเป็นร่างปกติ" 

            มีหลายครั้งที่แฟนเราไปเข้าฝันเขาให้มาสื่อกับเราและแม่ของแฟนว่าเป็นห่วงมาก แต่พี่เขากลัวถ้าเอามาเล่าให้ฟังแล้วเราจะไม่เชื่อ ด้วยความที่เราอยากเจอแฟนค่ะ อยากสื่อสารกับแฟน เลยขอร้องให้พี่เขาช่วยสื่อสารกับแฟนให้ได้ไหม พี่เขาดูหนักใจค่ะ เพราะการที่จะสื่ออะไรแบบนี้ได้ คนที่สื่อจะรู้สึกทรมานและร่างกายอ่อนแอ (อันนี้ไม่รู้ว่าจริงไหมเขาบอกมาแบบนี้) และถ้าสื่อให้ 1 คน วิญญาณอื่น ๆ ที่ต้องการสื่ออีกจะมาขอให้ช่วยซึ่งมันไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ พี่เขาแนะนำว่าให้จุดธูปบอกเขาซะ ขอให้เขาไปเกิด บอกให้เขาหมดห่วง .. ในใจตอนนั้นคิดคัดค้านเขามากค่ะ เพราะเราอยากเจอแฟน อยากเห็นแฟน อยากสื่อสารกับแฟนได้ พยายามจะขอร้องให้เขาช่วยสื่อให้หลายครั้ง จนกลับมาคิดดูดี ๆ ว่า ถ้าเราทำแบบนั้นมันจะเป็นการทรมานแฟนเราหรือเปล่า จะทำให้แฟนเรามีห่วงและไม่สงบสุขหรือเปล่า เลยตัดใจค่ะ จุดธูปกลางแจ้งบอกแฟนว่า.. "ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องมาคอยรับคอยส่งอีกแล้ว ไปเกิดได้แล้ว เราดูแลตัวเองได้ เราจะเข้มแข็ง ถึงแม้ว่ามันจะทำได้ยาก แต่เราจะทำมันให้ได้ เราจะทำอะไรด้วยตัวเองให้ได้ เราจะไม่งอแง และอ่อนแออีก ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วแต่เขาจะยังอยู่ในความทรงจำที่แสนดีของเราเสมอ.." พอพูดจบ ปักธูปลงพื้น..จู่ ๆ ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่มีเค้า ตอนนั้นแอบคิดมโนไปเองว่าแฟนเราคงรับรู้แล้ว มันโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่มันก็ใจหายอย่างบอกไม่ถูกอีกเหมือนกัน.. 

            หลังจากวันนั้นเราก็ฝันถึงแฟนค่ะ ฝันถึงชีวิตประจำวันของเรากับเขาที่อยู่ด้วยกัน กินด้วยกัน นอนด้วยกัน ก่อนนอนเรากับแฟนจะต้องจุ๊บกันและบอกรักกันทุกครั้ง แต่ในฝันตอนนั้นเหมือนเราเผลอหลับไปก่อน แล้วแฟนก้มาลูบหัวเราจูบที่หน้าผาก แล้วพูดว่า.. "เค้าไปก่อนนะ.." ตอนนั้นพอได้ยินแบบนั้นก็พยายามจะตื่น พอลุกขึ้นได้ก็ได้ยินเสียงประตูห้องปิดแบบเบา ๆ เรารีบลุกวิ่งไปที่ประตูทันที เห็นประตูปิดไว้ไม่สนิท (ก่อนนอนเรามั่นใจแล้วว่าเราล็อกประตูไว้) เลยวิ่งออกไปที่หน้าบ้าน แต่ก็ไม่เห็นอะไรไม่เจออะไรแล้ว ตอนนั้นน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว เราได้แต่มองไปรอบ ๆ เหมือนมองหาว่าเขาอยู่ที่ไหน จนแม่เราเดินตามออกมา แล้วกอดเราไว้ก่อนจะพูดว่า.. "เขาไปแล้ว เขาไปดีแล้ว.." มารู้ทีหลังว่าที่แม่พูดแบบนั้นเพราะแม่ฝันเห็นแฟนเราเหมือนกัน แม่ฝันว่าแฟนเรามาขอโทษที่ไม่ได้อยู่ดูแลเราเหมือนที่เคยให้สัญญากับแม่ไว้ แล้วก็มาบอกแม่เราว่าฝากดูแลเราด้วย เขาต้องไปแล้ว.. 

            ตอนนี้แฟนเราก็เสียไปได้ 6 เดือนกว่าแล้ว จริง ๆ ถ้าเขายังอยู่เดือนหน้าเราจะได้แต่งงานกัน เพราะฤกษ์ที่ผู้ใหญ่หามาให้คือวันที่ 2 พ.ย. 57

            น่าเสียดายที่เราไม่มีโอกาสได้ใส่ชุดเจ้าสาวแต่งงานกับเจ้าบ่าวคนนี้.. ตอนนี้ไม่ว่าเวลามันจะทำให้เราเข้มแข็งขึ้นแค่ไหน มันก็ไม่ได้ทำให้ความรักและความคิดถึงที่มีให้เขาลดลงเลย มันอาจจะเป็นเรื่องไม่ดีที่เราคอยไปโพสต์คิดถึงในเฟซเขาบ่อย ๆ ยังคงส่งไลน์บอกเล่าเรื่องราวในแต่ละวันให้เขารับรู้ ก่อนแฟนจะเสีย แฟนเคยพูดไว้ว่าเขาอยากเห็นเราใส่ชุดแต่งงานแล้วสวยที่สุดอยากให้เราลดน้ำหนัก ตอนที่แฟนบอกเราน้ำหนัก 68 กิโลกรัมค่ะ ตอนนั้นลดให้ตายยังไงน้ำหนักก็ไม่ลง แต่พอหลังจากเขาเสีย น้ำหนักเราลดฮวบไปเกือบ 20 กิโลกรัม..ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตรอมใจหรืออยากจะทำตามความตั้งใจของแฟน ตอนนี้น้ำหนักเราเหลือ 49 กิโลกรัมแล้ว น่าเสียดายที่แฟนเราไม่มีโอกาสได้เห็นเราตอนผอม ยังมีอะไรอีกหลาย ๆ อย่างที่เรากับแฟนตั้งใจจะทำด้วยกันอีกเยอะเลยแต่มันก็คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว เศร้า

            อยากฝากถึงคนที่มีความรักดี ๆ อยู่ตอนนี้นะคะ รักษามันไว้ดี ๆ และรีบทำในสิ่งที่อยากทำก่อนจะไม่มีโอกาสได้ทำเหมือนอย่างเรา.."

 

 

 

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X