เตือนพ่อแม่..ระวังการใช้ยาลดไข้ในเด็ก!
2014-10-30 14:48:11
Advertisement
คลิก!!!

        ในช่วงหน้าฝน ถือเป็นช่วงที่เด็ก หรือแม้แต่ผู้ใหญ่เองมีการเจ็บป่วยมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นไข้ ตัวร้อน ซึ่งพ่อแม่ และผู้ปกครองส่วนใหญ่มักจะให้ลูกหลานกินยาลดไข้เอง แต่ไม่ค่อยได้ศึกษาข้อมูลในการเลือกใช้สูตรยาลดไข้อย่างถูกต้องและปลอดภัย เมื่อเป็นเช่นนี้ อาจเกิดอันตรายตามมาได้
       
       แพทย์หญิง วิลาวัณย์ จึงประเสริฐ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โดยปกติร่างกายของคนเราจะมีอุณหภูมิ 37.5 องศาเซลเซียส เมื่อเด็กมีไข้อุณหภูมิในร่างกายจะสูงกว่าปกติ ควรใช้ปรอทในการวัดไข้ ไม่ควรซื้อยาให้เด็กกินเอง เนื่องจากยาลดไข้สำหรับเด็กมีหลากหลายยี่ห้อและหลากหลายชนิด สิ่งที่ควรระวังคือ ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ซึ่งอาจให้ผลในช่วงแรกว่าอาการไข้ดีขึ้น แต่ผลเสียคือ สเตียรอยด์จะกดภูมิต้านทานของร่างกาย ทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อราได้ง่าย นอกจากนี้ อาจบดบังอาการแสดงของโรคติดเชื้อ เมื่อตรวจพบโรคอาจมีอาการรุนแรง และเป็นสาเหตุทำให้อาการทรุดหนัก ผู้ปกครองควรสังเกตอาการของเด็กอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจุบันมีหลายโรคที่เป็นอันตราย และมีอาการแสดงที่คล้ายกัน เช่น โรคมือ เท้า ปาก โรคไข้เลือดออก หากผู้ป่วยด้วยโรคในกลุ่มนี้ได้รับสเตียรอยด์หรือแอสไพริน ตัวยาจะไปกระตุ้นให้เด็กเป็นอันตรายมากขึ้น ในกรณีเด็กมีไข้สูงมากกว่า 2 วัน ร่วมกับอาเจียน หรือหอบ เหนื่อย ซึม กระตุก ควรรีบพาไปพบแพทย์
       
       ดังนั้น การเลือกใช้ยาลดไข้ในเด็กควรเลือกตัวยาที่ไม่มีอันตรายและมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด เช่น ยาพาราเซตามอลซึ่งมีหลายรูปแบบ คือ ยาน้ำเชื่อมทั่วไปจะมีปริมาณของตัวยาเท่ากับ 120 มิลลิกรัม ต่อ 5 ซีซี หรือ 1 ช้อนชา หรือแบบน้ำเชื่อมชนิดแขวนตะกอนจะมีปริมาณของตัวยาเท่ากับ 120 มิลลิกรัม และ 160 มิลลิกรัมต่อ 5 ซีซี หรือ 1 ช้อนชา ยาน้ำเชื่อมชนิดเข้มข้นประกอบด้วยตัวยาพาราเซตามอล 250 มิลลิกรัมต่อ 1 ช้อนชา ยาน้ำเชื่อมแบบหยดมีปริมาณตัวยาเท่ากับ 10 มิลลิกรัม ต่อ 0.1 ซีซี ยาเม็ดสำหรับเด็กในหนึ่งเม็ดมีปริมาณตัวยาเท่ากับ 325 มิลลิกรัม


        ส่วนขนาดของยาที่ใช้ในเด็กก็มีความสำคัญเช่นกัน ซึ่งมีข้อควรคำนึง 2 ประการ คือ อายุ และ น้ำหนักตัวเด็ก วิธีที่เหมาะสมและสามารถลดไข้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ ควรให้เด็กได้รับยาในปริมาณ 10-15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ตัวอย่างคือ เด็กมีน้ำหนัก 10 กิโลกรัมต้องได้รับยาปริมาณ 100-150 มิลลิกรัม หากไม่ทราบน้ำหนักควรใช้การคำนวณขนาดยาตามอายุของเด็กเช่น เด็กอายุ 1-6 ปี ให้ยาพาราเซตามอลแบบน้ำเชื่อม 120 มิลลิกรัม หรือในปริมาณ 1-2 ช้อนชาในเด็กโตอาจให้ยาในปริมาณ 500 มิลลิกรัม โดยอาจให้ยาเพียงครึ่งหรือหนึ่งเม็ดคิดตามน้ำหนักและอายุสำหรับเวลาในการให้ยาที่ถูกต้องปลอดภัย คือ ทุก 4-6 ชั่วโมง และภายใน 1 วัน ไม่ควรให้ยาเกิน 5 ครั้ง เพราะจะเป็นอันตรายต่อตับและไต ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้เด็กเสียชีวิตได้
       
       “พาราเซตามอลเป็นยาที่ออกฤทธิ์ได้ค่อนข้างช้า อาการไข้จะลดลงภายหลังรับประทานยาประมาณครึ่งชั่วโมง ในช่วงนี้ควรระวังไม่ให้ไข้ขึ้นสูงเพราะอาจเกิดอาการชักได้ จึงควรเช็ดตัวเด็กด้วยน้ำเย็น หรือน้ำธรรมดาโดยเช็ดตามข้อพับและซอกต่างๆ ของร่างกาย เพื่อช่วยระบายความร้อนและลดไข้ หากให้ยาและเช็ดตัวแล้วอาการไข้ยังไม่ลดควรรีบพาไปพบแพทย์” แพทย์หญิง วิลาวัณย์ ทิ้งท้าย


ที่มา  http://www.manager.co.th/

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X