ฮือประณาม "สัตวแพทย์สาว" หลังโพสต์ภาพยิงธนูฆ่าแมวโชว์หน้าตาเฉย!!
2015-04-18 19:59:15
Advertisement
Pyramid Game

 

เว็บไซต์เดลีเมลเผยแพร่เรื่องราวอันสุดแสนสะเทือนใจสำหรับคนรักแมว เมื่อ คริสเทน ลินด์เซย์ สัตวแพทย์สาววัย 31 ปีจากรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ถูกไล่ออกจากคลินิควอชิงตัน แอนิมอล ที่ทำงานอยู่ หลังเธอโพสต์ภาพตัวเองฆ่าแมวด้วยการยิงธนูทะลุหัว พร้อมเขียนคำบรรยายเป็นเชิงเยาะเย้ยว่า "เป็นลูกศรพิฆาตครั้งแรกของฉันเลยนะเนี่ย ปักทะลุหัวเลย ดีใจจริงๆที่ชั้นได้เป็นสัตวแพทย์แห่งปี"

 

 

 

 ตามรายงานระบุว่า แมวตัวดังกล่าวน่าจะชื่อไทเกอร์ เป็นแมวมีเจ้าของมาก่อน โดยหายตัวไปประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนจะถูกฆ่าอย่างโหดร้ายทารุณ สร้างทั้งความโกรธแค้น เสียใจ และผิดหวังให้ใครต่อใครหลายคน

 "เรื่องโหดร้ายแบบนี้ไม่สมควรเกิดขึ้นในสังคมเราเลย มันน่าเศร้าใจมาก ผมเห็นรูปแล้วรู้สึกแย่จริงๆ" แจ็ค แบรนเดส นายอำเภอประจำเทศมณฑลออสติน กล่าว

 

 

 

 ในขณะที่สมาคมสัตวแพทย์แห่งรัฐเท็กซัสก็ออกมากล่าวประนามคริสเทน โดยชี้ว่าการกระทำของเธอนั้นสวนทางมากกับอาชีพนี่น่าจะต้องรัก ดูแล และคอยช่วยชีวิตสัตว์มากกว่าการมาสังหารอย่างเลือดเย็น

 ด้านเพื่อนร่วมอาชีพคนอื่นๆก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟไม่แพ้กัน ทุกคนต่างพากันรุมสาปแช่งคริสแทนผ่านทางอินเตอร์เน็ต

 

 

 

 "ทำงานนี้มานาน แต่ผมไม่เคยเห็นการกระทำที่เลวทรามแบบนี้มาก่อน ไม่คิดด้วยว่าจะเป็นเพื่อนร่วมอาชีพของตัวเอง เธอสมควรถูกฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด" แลรี่ วอลเลซ ผู้ทำงานในวงการสัตวแพทย์มา 40 ปี โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก

 ในขณะที่ ไชลาห์ คริสเทนเซน สัตวแพทย์สาวอีกคน ออกแถลงในนามของคลินิคว่า "เธอจะต้องติดคุกข้อหาทารุณกรรมสัตว์ แล้วก็โดนยึดใบประกอบวิชาชีพซะให้หมด ให้ตายสิ! เธอทำอย่างงี้กับสัตว์ที่อยู่ในความดูแลของตัวเองได้ยังไงกัน ?!"

 ส่วนคลินิควอชิงตัน แอนิมอล ก็ได้โพสต์ข้อความขอโทษบนเฟซบุ๊ก โดยมีใจความดังนี้

 "เพื่อนๆ ชาวเมือง และลูกค้าที่รัก เราได้รับทราบเหตุซึ่งกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่แล้ว ต้องขอบอกว่าเราตกใจและรู้สึกแย่มาก รับไม่ได้จริงๆกับพฤติกรรมดังกล่าว จึงได้ประกาศแตกหักกับน.ส.คริสเทน ลินด์เซย์ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะเราประนามสิ่งที่เธอทำมาก และขอร้องว่าอย่าต่อว่าทางคลินิคหรือพนักงานคนอื่นๆด้วยเรื่องนี้เลย เพราะเราได้จัดการรับผิดชอบกับปัญหาอย่างรวดเร็วที่สุดแล้ว" 

 

ขอขอบคุณที่มา  ข่าวสดออนไลน์

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X