ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

        เครือข่ายสุขภาพหนุน พ.ร.บ.คุมยาสูบฉบับใหม่ ขอเป็นของขวัญปีใหม่ ชี้ 5.7 ล้านคนรอความตาย เผยตัวเลขตายปีละ 5 หมื่น ภาคประชาชนเผย พ่อค้าควันอำมหิตจากต่างชาติทุ่มสุดตัว หวังขอสิทธิ์ฆ่าคนไทยต่อ
       
       นพ.ทักษพล ธรรมรังสี ผู้อำนวยการสำนักวิจัยนโยบายสร้างเสริมสุขภาพ (สวน.) ในฐานะตัวแทน ภาคีเครือข่ายควบคุมโรคไม่ติดต่อ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผลักดันร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ ว่า ขณะนี้เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพ ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม จำนวนทั้งสิ้น 124 รายชื่อ ที่ห่วงใยกับปัญหาของสังคมไทยจากการบริโภคยาสูบ ขอยื่นหนังสือแสดงจุดยืนสนับสนุนการออกร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบและเพื่อขอขอบคุณ ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ที่ยืนหยัดในการผลักดันกฎหมายดังกล่าว เพื่อปกป้องสุขภาพของคนไทย พร้อมขอเรียกร้องต่อไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่อผ่านร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบโดยเร็ว และผลักดันอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ชิ้นโบแดง ที่เป็นรูปธรรมในการปกป้องสุขภาพและสังคมไทยจากฆาตกรอันดับหนึ่ง
       
       “เป็นที่ทราบกันดีว่า ยาสูบคร่าชีวิตคนไทยปีละ 5 หมื่นคน จากข้อมูลทางระบาดวิทยา พบว่า ในกลุ่มคนที่สูบบุหรี่นั้นหนึ่งในสองคนจะตายเพราะบุหรี่ หมายความว่า มีคนไทยจำนวน 5.7 ล้านคน กำลังรอความตายจากยาสูบ นอกจากนี้ หากคนที่สูบบุหรี่เริ่มสูบตั้งแต่เป็นเยาวชนจะทำให้อายุสั้นลงเฉลี่ย 4 ปี สังคมไทยสูญเสียมากเกินพอจากผลิตภัณฑ์ของพ่อค้าควันอำมหิตแล้ว องค์กรทางเศรษฐกิจอย่างธนาคารโลก ก็ยังแนะนำให้ใช้แนวทางควบคุมการบริโภคยาสูบเป็นอีกหนทางในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน” นพ.ทักษพล
       
       ด้าน ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า ขณะนี้ทราบว่าบริษัทบุหรี่ต่างชาติกำลังเป็นตัวการสำคัญในการชักใยเบื้องหลังการคัดค้าน พ.ร.บ. ฉบับนี้อย่างเต็มกำลังโดยการจัดตั้งสมาคมและหน่วยงานหน้าฉาก เพื่อแทรกแซงและขัดขวางการออกกฎหมาย รวมถึงการปลุกปั่นพี่น้องเกษตรกร ผู้ค้าปลีกด้วยข้อมูลที่บิดเบือนเกินเลยไปจากเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ เพื่อหวังจะได้สิทธิ์ในการหาผลกำไรจากการฆ่าคนไทยต่อไป จึงขอเรียกร้องให้ รัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติร่วมแสดงความกล้าหาญในการปกป้องสุขภาพและสังคมไทย โดยไม่หลงกลกลุ่มพ่อค้าความตายเหล่านี้
 

ที่มา  http://www.manager.co.th/