วิจัยพบ ทารกเริ่มเรียนรู้ภาษาตั้งแต่อายุ 30 สัปดาห์ในครรภ์
2014-09-20 14:37:05
Advertisement
คลิก!!!

       วิจัยใหม่เผย ความสามารถในการเรียนรู้ความแตกต่างของสำเนียงของแต่ละภาษาของมนุษย์เรานั้นเริ่มตั้งแต่ยังเป็นทารกในครรภ์มารดาแล้ว!
       
       แม้จะมีหลายท่านออกมาชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวนั้น เป็นที่รับทราบกันมานาน แต่จากข้อมูลงานวิจัยในอดีตนั้น ปรากฏแค่ว่า เด็กทารกจะเริ่มเรียนรู้ภาษาในช่วงเดือนแรกๆ หลังคลอด ดังนั้น นี่จึงเป็นการวิจัยครั้งแรกที่เผยว่า ทารกในครรภ์ก็มีความสามารถในการเรียนรู้ และจดจำภาษาต่างๆ ได้นั่นเอง โดยพบว่าความสามารถนี้เกิดขึ้นในช่วง 10 สัปดาห์สุดท้ายของการตั้งครรภ์
       
       “แม้จะมีผู้เชื่อว่า มนุษย์เราได้ยินเสียงต่างๆ ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ แต่งานวิจัยนี้ก็เป็นงานวิจัยชิ้นแรกที่ยืนยันความเชื่อดงกล่าวว่าเป็นความจริง” ศาสตราจารย์ Christine Moon จากมหาวิทยาลัย Pacific Lutheran เจ้าของผลการวิจัย กล่าว
       
       โดยนักวิจัยพบว่า เด็กทารกหลังคลอดเพียง 1 ชัวโมง ก็สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างภาษาแม่กับภาษาต่างประเทศได้แล้ว การศึกษานี้จึงชี้ว่า ทารกในครรภ์นั้นเริ่มได้ยินเสียงต่างๆ รวมถึงจดจำภาษาที่ผู้เป็นแม่พูดได้ตั้งแต่ก่อนคลอด ซึ่งเร็วกว่าที่เคยมีข้อมูลก่อนหน้านี้
       
       สำหรับทารกที่เข้าร่วมการศึกษานี้ มีทั้งหญิงและชาย และมีอายุเฉลี่ยประมาณ 30 ชั่วโมง โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 40 คน การทดลองเริ่มโดยนักวิจัยจะให้เด็กจะได้ฟังเสียงสระของภาษาสวีเดนและภาษาอังกฤษ
       
       ผลการทดลอง พบว่า ทารกแรกเกิดแสดงอาการตอบโต้ด้วยการดูดจุกนมปลอมนานขึ้นเมื่อได้ยินเสียงภาษาต่างประเทศ แต่ถ้าเป็นเสียงจากภาษาแม่จะดูดสั้นลง ซึ่งจุกนมดังกล่าวได้รับการต่อเชื่อมเข้าสู่คอมพิวเตอร์เพื่อเก็บผล แต่ทั้งนี้ นักวิจัยเผยว่า ขึ้นอยู่กับในช่วงระหว่างตั้งครรภ์ แม่ได้พูดกับลูกมากน้อยแค่ไหนด้วย
       
       ด้าน Patricia Kuhl ผู้เชี่ยวชาญ และผู้อำนวยการ the Institute for Learning & Brain Sciences มหาวิทยาลัยวอชิงตัน เผยว่า “เราคิดว่า เด็กทารกนั้นเกิดมาพร้อมกับความสามารถในการเรียนรู้ แต่ตอนนี้เรารู้เพิ่มขึ้นแล้วว่า พวกเขาเรียนรู้ได้เร็วกว่าที่เราคิด และเราต้องการรู้ว่า อะไรคือความมหัศจรรย์ที่ทำให้เด็กทารกเรียนรู้ได้เร็ว แบบที่ผู้ใหญ่ไม่สามารถทำได้ ซึ่งถ้าค้นพบจะทำให้เราใช้เวลาในช่วงแรกของชีวิตพัฒนาศักยภาพของสมองได้อย่างเหมาะสมมากขึ้นนั่นเอง”

       
       งานวิจัยชิ้นนี้เผยแพร่ในวารสาร Acta Paediatrica

       ที่มา  http://www.manager.co.th/

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X