ปฏิเสธไม่ได้ว่า ยุคสมัยนี้ หลาย ๆ ครอบครัว ต้องเผชิญกับความเครียดรอบด้าน ทั้งปัญหาในบ้าน และนอกบ้าน โดยเฉพาะยุคข้าวยากหมากแพงที่หันซ้ายแลขวาก็เจอแต่สินค้าราคาสูง จะหยิบจะจ่ายอะไรก็ต้องคิดแล้วคิดอีก รวมไปถึงข่าวภัยธรรมชาติที่เริ่มเข้ามาประชิดตัวมากขึ้นทุกที
       
       เมื่อสภาวะต่าง ๆ เหล่านี้มารุมเร้า หรือกดดัน เป็นไปได้ที่จะทำให้คนเราวิตก หรือจิตตกจนเกิดความเครียดได้ง่าย ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นกับทุกคนในบ้าน วันนี้ ทีมงาน Life & Family มีหลักคิดยิ้มละไมให้ความเครียด จาก พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต พระนักเทศน์ชื่อดัง มาส่งต่อกัน
       
       สำหรับปัญหาที่รุมเร้าเข้ามาในแต่ละวัน ไม่ว่าจะภายในครอบครัว หรือภายนอกตัว มีลักษณะของปัญหาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งพระนักเทศน์ท่านนี้ กล่าวว่า ความสุขไม่ได้อยู่ที่เราไม่มีปัญหา แต่ความสุขอยู่ที่เรามีวิธีจัดการปัญหานั้น ๆ ได้ดีหรือไม่ต่างหาก นั่นถึงจะเรียกว่าความสุข
       
       "มีโฆษณาชิ้นหนึ่งที่คุณพ่อเจอวิกฤตเศรษฐกิจแล้วคิดอยากจะฆ่าตัวตาย แต่กลับคิดได้เพราะหันไปเห็นลูกที่นั่งเล่นตัวต่ออยู่ข้างหลัง แล้วพูดออกมาว่า พังอีกแล้ว เริ่มใหม่ก็ได้ ซึ่งอาตมากำลังจะบอกว่า ทุกอย่างมันเริ่มใหม่ได้ อย่าท้อ หรือยอมแพ้ แล้วความสุขจะเกิดตามมาเอง" พระนักเทศน์กล่าว
       
       อย่างไรก็ตาม เมื่อปัญหามากระตุ้นให้เกิดความเครียด ทั้งในบ้าน และนอกบ้าน การลดความเครียดจึงจำเป็นต้องรู้วิธีที่ถูกต้องเหมาะสม โดยวิธีคิดที่เหมาะสมนั้น พระมหาสมปองได้ให้เทคนิคในหนังสือยิ้มครั้งแรกโลกแตกก็ยอมไว้ 5 ข้อหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
       
       1. คิดในแง่ยืดหยุ่นให้มากขึ้น 
       
       อย่าเอาจริงเอาจัง หรือตัดสินถูกผิดตัวเอง หรือผู้อื่นตลอดเวลา หัดรู้จักผ่อนหนัก ผ่อนเบา ผ่อนสั้น ผ่อนยาว ลดทิฐิมานะ และที่สำคัญ ควรรู้จักการให้อภัยก็จะทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้น และมีความเครียดน้อยลง
       
       2. คิดอย่างมีเหตุผล
       
       ไม่ด่วนเชื่ออะไรง่าย ๆ และไม่ด่วนสรุปอะไรง่าย ๆ ให้พยายามใช้เหตุผล ตรวจสอบข้อเท็จจริง ความเป็นไปได้ ไตร่ตรองให้รอบคอบ เพราะนอกจากจะไม่ทำให้ตกเป็นเหยื่อให้ใครหลอกเอาง่าย ๆ แล้ว ยังตัดความกังวลใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้อีกด้วย
       
       3. คิดหลาย ๆ แง่มุม มองหลาย ๆ ด้าน (ทั้งดี และไม่ดี)
       
       พึงระลึกไว้เสมอว่า ทุกอย่างมีข้อดี และข้อไม่ดี ประกอบกันทั้งสิ้น จึงไม่ควรมองด้านใดด้านหนึ่งเพียงด้านเดียวให้ใจเป็นทุกข์ และที่สำคัญ ควรหัดคิดหัดมองในมุมของคนอื่นด้วย อย่างที่เขาเรียกว่า เอาใจเขามาใส่ใจเรา ก็จะช่วยให้เรามองอะไรได้กว้างกว่าเดิม

       4. คิดแต่เรื่องดี ๆ
       
       หากเราคิดแต่เรื่องร้าย ๆ เรื่องความล้มเหลว ผิดหวัง หรือเรื่องที่เป็นทุกข์ ก็จะทำให้เครียดมากขึ้น ควรคิดถึงเรื่องดี ๆ ให้มาก ๆ นอกจากไม่ทำให้เครียดแล้ว ยังทำให้สบายใจได้มากขึ้นด้วย
       
       5. คิดถึงคนอื่นบ้าง
       
       อย่าหมกมุ่นแต่เรื่องของตัวเอง เปิดใตให้กว้าง รับรู้ความรู้สึก รับรู้ความเป็นไปของคนอื่น และคนใกล้ชิด ใส่ใจที่จะช่วยเหลือแก้ไขปัญหาของผู้อื่นในสังคม บางครั้งจะพบว่า ปัญหา หรือความเครียดที่กำลังเผชิญอยู่นั้น เป็นเรื่องเล็กนิดเดียวเมื่อเทียบกับปัญหาของผู้อื่น ซึ่งความรู้สึกแบบนี้ จะทำให้เครียดน้อยลง ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น และยิ่งถ้าสามารถช่วยให้ผู้อื่นแก้ไขปัญหาได้ ก็จะทำให้สุขใจมากขึ้นแบบไม่มีประมาณ
       
       วันนี้คุณ "อย่า-ทำ-นม-หก" แล้วหรือยัง
       
       ทิ้งท้ายนี้ พระมหาสมปองได้ให้คาถาเสริมพลังใจกับทุกครอบครัวที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาว่า วันนี้คุณ "อย่า-ทำ-นม-หก" แล้วหรือยัง โดยความหมายในแต่ละคำนั้น อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คือ อย่าท้อเมื่อพลาดพลั้งทำความหวังขึ้นมาใหม่ นมนานสักปานใด หกล้มไปเพียงชั่วคราว
       
       "ยกตัวอย่างง่าย ๆ หากลูกสอบเข้าโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยที่ตั้งใจไม่ได้ ก็มีที่อื่นให้เลือกอีกมากมาย ดังนั้นหากเราเป็นพ่อแม่ที่เข้มแข็ง และฝ่าฟันปัญหานั้นไปให้ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือ ลูกก็จะเห็นตัวอย่าง และพลังความเข้มแข็ง ไม่ย้อท้อของคุณพ่อคุณแม่ทำให้ลูกผ่านปัญหาไปได้อย่างมีสติ ฉะนั้น วันนี้คุณ "อย่า-ทำ-นม-หก" แล้วหรือยัง" พระมหาสมปองให้หลักคิดคุณพ่อคุณแม่
       
       เป็นเรื่องจริงที่ควรยอมรับว่า ทุกคนหลีกหนีความเครียดไปไม่ได้ แต่หากเครียดอย่างพอดี และจัดการกับความเครียดอย่างเหมาะสม เชื่อว่าจะทำให้ทุกท่านมีพลังต่อสู้กับอุปสรรคได้อย่างแน่นอน
       
       หากท่านใดเคยเผชิญหน้ากับความเครียดไม่ว่าจะรูปแบบใด ๆ ก็ตาม แล้วอยากจะบอกเล่า แลกเปลี่ยน หรือมีวิธีจัดการความเครียดในช่วงนั้น ๆ จนผ่านพ้นมาได้อย่างไร เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันได้ ทางทีมงานยินดีน้อมรับด้วยความขอบคุณมากครับ


ที่มา  http://www.manager.co.th/