|
สาวชาวเมืองผู้ดีวัย 46 ปี เผยเรื่องราวชีวิตสุดขมขื่นในวัยเยาว์ ที่ถูกพ่อบังเกิดเกล้าข่มขืนจนตั้งท้อง ถูกทารุณและจับทำแท้ง ไปจนถึงเอาปืนไล่ยิง
จูดี แวน นีเคิร์ก สาวใหญ่วัย 46 ปีจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษเล่าว่า หลังจากที่แม่ของเธอจากไป เธอก็ทำหน้าที่ดูแลผู้เป็นพ่ออย่างดี ทั้งทำอาหาร ทำความสะอาดบ้านและอื่นๆ เธอมีความทรงจำที่ดีกับพ่อเหมือนเด็กทั่วไป เช่น พ่อสอนให้เธอว่ายน้ำ พาไปปิคนิคนอกบ้าน
จนกระทั่งอายุได้ 6 ขวบพ่อก็มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ภายหลังจากที่แม่ของเธอหนีไปเพราะทนเป็นกระสอบทรายให้เขาไม่ไหว เธอถูกพ่อทารุณกรรมโดยบังคับให้ทำงานหนัก ทำร้ายร่างกายไปจนถึงข่มขืนเธอ
“ฉันไม่ได้ไปโรงเรียนเพราะพ่อไม่อนุญาต ฉันต้องอยู่บ้านและเป็นพี่เลี้ยงเด็ก 5 คน ต้องตื่นแต่เช้า ทำอาหารและเตรียมอาหารกลางวันให้ทุกคน ไหนยังต้องซักผ้าด้วยมือเพราะที่บ้านไม่มีเครื่องซักผ้า พ่อใช้มีดขู่บังคับให้ฉันทำงานหนักจนสายตัวแทบขาด
ตอนกลางคืนพ่อยังบังคับให้ฉันนอนกับเขา แล้วก็ลวนลามและข่มขืนฉัน ทำให้ฉันทุกข์ทรมานทั้งกายและใจ ไม่มีใครรู้ว่ามีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับฉัน แม้แต่ตอนที่ตั้งท้องพ่อยังคงบังคับให้ฉันทำงานหนักจนแท้งลูก
กระทั่งฉันอายุ 14 ปี เราทะเลาะกันรุนแรง พ่อโกรธจัดจึงเอาปืนไล่ยิงถูกที่หน้าอก ฉันเกือบต้องตายแล้วแต่เพื่อนบ้านมาช่วยพาฉันส่งโรงพยาบาลได้ทัน เมื่อตำรวจสอบสวนเขาก็โกหกว่าฉันยิงตัวเอง
เราต้องย้ายบ้านไปเรื่อยๆ จึงไม่ค่อยมีเพื่อนบ้านที่สนิทกัน ฉันก็ไม่ได้เรียนหนังสือจึงไม่มีเพื่อน เมื่อพ่อรู้ว่าฉันท้องเป็นหนที่ 2 เขาก็ต่อยที่ท้องไม่ยั้งจนฉันตกเลือด สุดท้ายเขาเอาไม้แขวนเสื้อยัดเข้าไปในช่องคลอดจนฉันแท้งลูกอีกครั้ง”
หลังจากนั้นเมื่ออายุได้ 20 ปี เธอสบโอกาสหลบหนีจากพ่อที่โหดร้าย และได้พบกับคนรัก ซึ่งแนะนำให้เธอแจ้งความเอาผิดพ่อใจโฉด กระทั่งพ่อของเธอถูกจับในข้อหากระทำชำเราและอนาจาร ต้องโทษจำคุก 15 ปี
4 ปีต่อมาพ่อของเธอป่วยหนักจากโรคมะเร็งปอด สิ่งที่เธอทำก็คือ ไปเยี่ยมพ่อ บอกว่ารักพ่อและให้อภัยกับทุกสิ่งที่พ่อเคยทำไว้ เพื่อให้พ่อจากไปอย่างสงบ แล้วตัวเธอเองก็ยังสามารถลบความทรงจำอันเลวร้ายไปได้จนหมดสิ้นด้วย
ขอขอบคุณที่มา http://www.springnews.co.th