บัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน พล.อ. ปรีชา จันทร์โอชา และภรรยา ยอดรวมเงินฝาก 10 บัญชี กว่า 89 ล้านบาท พบมีเงินเข้า-ออก หมุนเวียนหลังรัฐประหารหลายสิบล้าน
วันที่ (25 ตุลาคม 2557) สำนักข่าวอิศรา มีรายงานว่า จากการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.อ. ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พบว่า มีเงินไหลเวียนเข้า-ออก หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำรัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นจำนวนหลายสิบล้านบาท
โดยจากบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.อ. ปรีชา แจ้งว่า มีบัญชีเงินฝาก 10 บัญชี รวมมูลค่า 89,048,764 บาท แบ่งเป็นของ พล.อ. ปรีชา 5 บัญชี 42,051,468 บาท และของ นางผ่องพรรณ จันทร์โอชา คู่สมรส เป็นบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์กองทัพภาคที่ 3 จำนวน 5 บัญชี 46,997,296 บาท
จากการตรวจสอบเอกสารประกอบบัญชีเงินฝากของ พล.อ. ปรีชา พบรายละเอียดดังนี้
1. บัญชีธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 314-2-369xx-x จำนวนเงิน 342,043 บาท (ไม่ได้แนบเอกสารประกอบบัญชีเงินฝาก)
2. บัญชีธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 496-2-280xx-x จำนวนเงิน 2,051,468 บาท (ไม่ได้แนบเอกสารประกอบบัญชีเงินฝาก)
3. บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 056,1125xx-x จำนวนเงิน 40 ล้านบาท พบว่า ในช่วงปี 2557 มีเงินเข้า-ออก ดังนี้
- เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2557 มีเงินเข้า 3 ล้านบาท
- เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2557 มีเงินเข้า 3 ล้านบาท
- เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2557 มีเงินออก 6 แสนบาท (ราคาต่อหน่วย 10 บาท)
- เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2557 มีเงินออก 6,645,240 บาท (ราคาต่อหน่วย 10 บาท)
4.บัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 549-0549xx-x จำนวนเงิน 10,098 บาท
5.บัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 723-0055xx-x จำนวนเงิน 19,968 บาท
โดยทั้งบัญชีธนาคารกรุงเทพฯ ทั้ง 2 บัญชีดังกล่าว ยอดเงินนิ่งอยู่ที่จำนวนเดิมมาตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2557 อย่างไรก็ดี พล.อ. ปรีชา ยังเป็นเจ้าของกองทุนเปิดบัวหลวงธนทวี เลขที่ 888-2888xx-x จำนวน 289 บาท และกองทุนเปิดบัวหลวงตราสานหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ เลขที่ 889-0817xx-x จำนวน 79,089 บาท อีกด้วย
ขณะที่บัญชีเงินฝากของนางผ่องพรรณ พบรายละเอียดดังนี้
1. สหกรณ์ออมทรัพย์กองทัพภาคที่ 3 เลขที่ 02-02663 จำนวนเงิน 26,363,709 บาท พบว่า ในช่วงปี 2557 มีเงินเข้า-ออก ดังนี้
- เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2557 เงินเข้า 218,094 บาท คงเหลือ 21,489,251 บาท
- เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2557 มีเงินเข้า 4.5 ล้านบาท คงเหลือ 25,989,251 บาท
- เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2557 มีเงินออก 1 ล้านบาท คงเหลือ 24,989,251 บาท
- เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2557 มีเงินเข้า 2 ล้านบาท คงเหลือ 26,989,251 บาท
- เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2557 มีเงินเข้า 226,653 บาท คงเหลือ 27,215,904 บาท
- เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2557 มีเงินเข้า 2 แสนบาท คงเหลือ 27,415,904 บาท
- เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2557 มีเงินเข้า 247,804 บาท คงเหลือ 27,663,709 บาท
- เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2557 มีเงินเข้า 2 ล้านบาท คงเหลือ 29,663,709 บาท
- เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2557 มีเงินเข้า 6.2 ล้านบาท เงินออก 2.9 ล้านบาท คงเหลือ 26,363,709 บาท
2. สหกรณ์ออมทรัพย์กองทัพภาคที่ 3 เลขที่ 02-03258 จำนวนเงิน 1,942,800 บาท พบว่า ในช่วงปี 2557 มีเงินเข้า-ออก ดังนี้
- เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 มีเงินออก 1,999,000 บาท คงเหลือ 8,269,979 บาท
- เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2557 มีเงินเข้า 2 ล้านบาท คงเหลือ 10,269,979 บาท
- เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2557 มีเงินเข้า 84,099 บาท คงเหลือ 10,354,078 บาท
- เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2557 มีเงินเข้า 2 ล้านบาท คงเหลือ 12,354,078 บาท
- เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2557 มีเงินเข้า 2 ล้านบาท คงเหลือ 14,354,078 บาท
- เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2557 มีเงินออก 8.5 ล้านบาท คงเหลือ 5,854,078 บาท
- เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2557 มีเงินเข้า 88,722 บาท คงเหลือ 5,042,800 บาท
- เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2557 มีเงินเข้า 4 ล้านบาท คงเหลือ 9,942,800 บาท
- เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2557 มีเงินออก 8 ล้านบาท คงเหลือ 1,942,800 บาท
3. สหกรณ์ออมทรัพย์กองทัพภาคที่ 3 เลขที่ 02-06883 จำนวนเงิน 9,158,487 บาท พบว่า ในช่วงปี 2557 มีเงินเข้า-ออก ดังนี้
- เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2557 มีเงินเข้า 1.5 ล้านบาท คงเหลือ 1.5 ล้านบาท
- เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2557 มีเงินเข้า 5 แสนบาท คงเหลือ 2 ล้านบาท
- เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2557 มีเงินเข้า 2 ล้านบาท คงเหลือ 4 ล้านบาท
- เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2557 มีเงินเข้า 14,050 บาท คงเหลือ 4,014,050 บาท
- เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2557 มีเงินออก 1 แสนบาท คงเหลือ 3,914,050 บาท
- เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2557 มีเงินเข้า 5,928,000 บาท คงเหลือ 9,842,050 บาท
- เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2557 เงินเข้า 5 แสนบาท คงเหลือ 10,342,050 บาท
- เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2557 เงินเข้า 44,437 บาท คงเหลือ 10,386,487 บาท
- เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2557 เงินออก 1,028,000 บาท คงเหลือ 9,358,487 บาท
- เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2557 เงินออก 2 แสนบาท คงเหลือ 9,158,487 บาท
4. สหกรณ์ออมทรัพย์กองทัพภาคที่ 3 เลขที่ 02-06972 จำนวนเงิน 3 ล้านบาท พบว่า ในช่วงปี 2557 มีเงินเข้า-ออก ดังนี้
- เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2557 มีเงินเข้า 3 ล้านบาท คงเหลือ 3 ล้านบาท
5. สหกรณ์ออมทรัพย์กองทัพภาคที่ 3 เลขที่ 02-07014 จำนวนเงิน 6,530,300 บาท พบว่า ในช่วงปี 2557 มีเงินเข้า-ออก ดังนี้
- เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2557 มีเงินเข้า 5 ล้านบาท คงเหลือ 5 ล้านบาท
- เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2557 มีเงินเข้า 4 ล้านบาท คงเหลือ 9 ล้านบาท
- เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2557 มีเงินเข้า 30,300 บาท คงเหลือ 9,030,300 บาท
- เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2557 มีเงินออก 5 แสนบาท คงเหลือ 8,530,300 บาท
- เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2557 มีเงินออก 2 ล้านบาท คงเหลือ 6,530,300 บาท
ทั้งนี้หากนับรวมยอดในบัญชี พล.อ. ปรีชา และนางผ่องพรรณ ภายหลังการรัฐประหาร ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2557 พบมียอดรวมเงินเข้าทั้งสิ้น 25,239,263 บาท ขณะที่ยอดเงินออกทั้งสิ้น 30,373,240 บาท
ทางด้าน พล.อ. ปรีชา เคยให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า กรณีบัญชีเงินฝากที่เกินมากว่า 46 ล้านบาทนั้นเป็นของคู่สมรส และคู่สมรสเป็นลูกเศรษฐีเชียงรายเก่า นอกจากนี้บิดายังขายที่ดินแบ่งให้ลูก ๆ คนละ 80 ล้านบาท ซึ่ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พี่ชาย พล.อ. ปรีชา ก็ได้รับส่วนแบ่งนี้ด้วย
อย่างไรก็ดี ยังคงเป็นที่น่าสังเกตว่า บัญชีเงินฝากของนางผ่องพรรณ คู่สมรส มีอยู่ 3 บัญชีที่เพิ่งเปิดในปี 2557 และมีเงินไหลเวียนเข้าออกเป็นจำนวนมาก ขณะที่บัญชีเงินฝากของ พล.อ. ปรีชา ไม่มียอดเงินฝากเพิ่มเติมมากนัก
ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม