นางพรชนก ไชยะปะ ประวัติมือฆ่าครูญี่ปุ่น พบมีสามีญี่ปุ่นหลายคน
2014-10-22 16:44:39
Advertisement
คลิก!!!

 

 

  นางพรชนก ไชยะปะ หญิงมือฆ่าครูญี่ปุ่น พบประวัติเคยมีสามีญี่ปุ่นหลายคน และเคยได้เงินประกัน 3 ล้านบาท จากการเสียชีวิตของสามีญี่ปุ่นคนแรก ตำรวจเตรียมรื้อคดีใหม่ นอกจากนี้ พบจดหมายทวงเงิน 3 ล้าน จากชาวญี่ปุ่นที่เคยคบหากันด้วย 

           จากกรณีการหายตัวไปของ นายโยชิโนริ ชิมาโตะ ครูสอนภาษาญี่ปุ่น อายุ 79 ปี เมื่อปลายเดือนกันยายน 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่หลายคนให้ความสนใจ เนื่องจากมีเงื่อนงำและข้อสงสัยหลายอย่าง เกี่ยวกับนางพรชนก ไชยะปะ สาวคนสนิท เนื่องจากพบว่านางพรชนกได้นำบัตรเอทีเอ็มของนายโยชิโนริไปกดเงินจำนวน 7 แสนบาท 

          ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นางพรชนก ไว้ได้ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา และยังควบคุมตัว นายสมชาย แก้วบางยาง สามีของนางพรชนกด้วย แต่ในเบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ จนกระทั่งช่วงเย็นของวานนี้ (21 ตุลาคม) นางพรชนก ก็ยอมรับสารภาพว่าร่วมกับสามีหั่นศพนายโยชิโนริแล้วแยกชิ้นส่วนใส่ถุงดำและเททรายลงไปเพื่อถ่วงศพ ก่อนจะนำไปทิ้งในคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ย่านบางเสาธง โดยอ้างว่าไม่ได้ลงมือฆ่าแต่นายโยชิโนริช็อกและเสียชีวิตเอง ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

         อย่างไรก็ดี เมื่อตรวจสอบประวัติของนางพรชนก ก็พบว่าเคยพัวพันกับคนญี่ปุ่นหลายรายด้วยกัน คนแรกคือ  นายคาชิโตชิ ทานากะ ซึ่งนางพรชนกเคยอยู่กินด้วยกัน จนกระทั่งมีลูกสาว 1 คน ก่อนที่ในปี 2546 นายคาชิโตชิ จะประสบอุบัติเหตุตกบันไดเสียชีวิต ด้วยผลข้างเคียงจากโรคประจำตัว ซึ่งเจ้าคดีนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงความเห็นว่าเป็นอุบัติเหตุ ถึงแม้ว่าทางญาติจะไม่ปักใจเชื่อ แต่คดีนี้ก็ได้ปิดไปพร้อมกับที่นางพรชนกได้เงินประกันจำนวน 3 ล้านบาท ซึ่งในส่วนคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมศึกษารายละเอียดเพื่อพิจารณาอีกครั้งว่าจะสามารถรื้อคดีได้หรือไม่ 

         ส่วนคนญี่ปุ่นคนที่ 2 ที่นางพรชนกเคยพัวพันนั้น คือนายโนบูรุ อิฮิซาวะ และคนที่ 3 คือ นายคามาการิ ซึ่งได้แนบจดหมายไว้ที่บ้านพักของนางพรชนกเมื่อปี 2553 โดยจดหมายฉบับนี้เพื่อนบ้านได้เก็บไว้ และเนื้อความในจดหมายนี้ก็กลายเป็นประเด็นสำคัญ เนื่องจากมีการทวงเงินจำนวน 3 ล้านบาท จากนางพรชนก โดยตอนนั้นนางพรชนกใช้ชื่อว่า "เพ็ญศรี" 

          สำหรับใจความในจดหมายระบุว่า.. "ถึงคุณบัวทอง ไชยะปะ สวัสดีครับผมชื่อ คามาการิ เป็นคนญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้ผมเคยเจอคุณมาแล้ว 4 ครั้ง ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันครับ ตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว ผมกับเพ็ญศรี ลูกสาวของคุณ เราคบหาดูใจกันถึงขั้นจะแต่งงานกัน โดยผมได้เข้าไปพักอยู่ที่บ้านของเพ็ญ กับเพ็ญและลูกสาว ที่บ้านของเขาที่บางนา ตั้งแต่เดือนเมษายน จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม ตลอดระยะเวลาที่ผมอยู่กับเพ็ญทั้งรักและไว้ใจเขามาก ถึงขั้นฝากเงินให้เขาเก็บไว้ เงินนั้นสะสมตั้งแต่เราคบกันจนถึงตอนนี้เป็นจำนวน 3 ล้านบาท แต่ว่าตั้งแต่สิ้นเดือนกรกฎาคม เพ็ญชอบออกไปเที่ยวนอกบ้านบ่อย ๆ จนในที่สุด เขาได้นำเงินที่ผมฝากไว้ทั้งหมดไป ตอนนี้ผมไม่มีเงินที่จะมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแล้ว เพราะเงินที่เก็บจะใช้ยามที่ลำบากเพ็ญได้เอาไปหมดแล้วผมเคยเอาเรื่องนี้ไป ปรึกษากับสมชาย แต่ก็ไม่ได้ความอะไรเลยและเรื่องก็ยังคงเงียบอยู่"

         "ประมาณเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ผมมีโอกาสได้เจอกับเพ็ญที่บ้านของน้อย ตอนนั้นที่ผมได้เจอเพ็ญ ผมถามและต่อว่าเขาเกี่ยวกับเรื่องที่เอาเงินที่ผมฝากเอาไว้ไป 3 ล้านบาท เขาได้แต่พูดขอโทษและเขาได้บอกผมว่า เขาจะขายบ้านที่บางนา เพื่อเอาเงินมาคืนให้ผม แต่จนถึงบัดนี้บ้านนั้นก็ยังไม่ถูกขายและไม่มีการประกาศขายแต่อย่างใด ผมคิดว่านี่เป็นการเลี่ยงที่จะไม่คืนเงินของเขาเฉย ๆ นะครับ และตอนนี้ก็ไม่มีใครพักอยู่ที่บางนาเลย ผมก็ได้แต่เสียใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมเพ็ญถึงได้ทำแบบกับผม และตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้ว ผมก็ได้แต่ขอความเห็นใจจากคุณ อยากให้คุณเห็นใจผมด้วย เพราะเงินที่จะใช้ในชีวิตประจำของผมนั้น ถ้าเป็นไปได้ช่วยกรุณาคืนเงินให้ผม ตอนนี้ผมต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก ถ้าคุณสงสารและอยากช่วยเรา สามารถเจอกันได้โดยที่ผมสามารถไปพบคุณได้นะครับ กรุณาติดต่อกับผมตามเบอร์ที่ให้มานี้ 25/1/2553 คามาการิ"

        ส่วนนายสมชาย แก้วบางยางนั้น เป็นสามีชาวไทยของนางพรชนกซึ่งเคยอยู่กินกันมานาน และมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน โดยนางพรชนกได้คบกับนายสมชายไปพร้อม ๆ กับนายโยชิโนริ  

        ด้าน พล.ต.ท. เรืองศักดิ์ จริตเอก รักษาการรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ภายหลังจากนำกำลังตำรวจและชุดประดาน้ำ ลงพื้นที่คลองนางทิ้ม ภายในซอยนวมินทร์ 16 ถนนบางนาตราด ต.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ทำการค้นหาชิ้นส่วนศพตามคำให้การของผู้ต้องหา โดยกระจายกำลังงมชิ้นส่วนของผู้เสียชีวิตภายในคลองนางทิ้ม ใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมง ก็พบกระสอบปุ๋ยตามที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

        โดยถุงแรก เป็นชิ้นส่วนอวัยวะภายใน มีดินกับหินถ่วงอยู่ ส่วนถุงที่ 2 เป็น ชิ้นส่วนของฝ่ามือ เท้า และศีรษะ ถูกแยกบรรจุอยู่ในถุงดำ 2 ถุง โดยจุดที่พบอยู่ห่างจากจุดแรกประมาณ 50 เมตร 

        ทั้งนี้แพทย์นิติเวชได้เข้ามาทำการชันสูตร พร้อมกับนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อทำการชันสูตรอย่างละเอียด และจะได้เปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของญาติผู้ตาย ว่าศพที่พบคือ นายโยชิโนริ หรือไม่
 

 
 
 
 
ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X