ทำไม แบยงจุน (Bae Yong Joon) ถึงขาย KeyEast ที่บริหารมาถึง 14 ปี ให้ SM กันนะ?
2018-03-17 10:40:15
Advertisement
Pyramid Game

แบยงจุน (Bae Yong Joon) ที่ผันตัวเองจากนักแสดงฮันรยูสู่นักธุรกิจ ได้ขายบริษัท KeyEast ของตนเองให้ SM Entertainment แล้ว

SM ได้หุ้นที่แบยงจุนซึ่งเป็น CSO และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ KeyEast มาจำนวน 19,455,071 หุ้น ในราคา 50,000 ล้านวอน เนื่องจากแบยงจุนเป็นผู้ถือหุ้น KeyEast มากที่สุด คิดเป็น 25.12% ของส่วนแบ่งรายคน SM จึงได้สิทธิในการบริหาร KeyEast จากวิธีการรับโอนหุ้นเก่าโดยซื้อหุ้นส่วนแบ่งรายคนของเขา ด้วยเหตุนี้ SM จึงได้ครอบครองทั้ง KeyEast และ Digital Adventure(หรือ DA) ที่เป็นบริษัท Hallyu Broadcast Content Platform ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและเป็นบริษัทลูกของ KeyEast ด้วย พร้อมกันนี้ แบยงจุนก็ได้รับโอนหุ้นใหม่ของ SM จำนวน 919,238 หุ้น ในราคา 99,986,850 วอน กลายเป็นผู้ถือหุ้นหลักของ SM และยังได้กำไรจากการขาย KeyEast ให้ SM ถึง 40,000 ล้านวอน

แบยงจุนเดบิวท์ในละครเรื่อง 'Salut D'Amour' ปี 1994 จากนั้นก็ขึ้นแท่น Hallyu Star จากผลงานเรื่อง 'Our Sunny Days of Youth' 'First Love' 'Hotelier' 'Winter Sonata' ต่อมาเขาก็ผันตัวเองมาเป็นนักธุรกิจในปี 2004 ตั้งบริษัท Entertainment Agency BOF และในปี 2006 ก็ได้เข้าร่วมในการระดมทุน Auto Wintech ซึ่งก็คือ Tuneboom Korea เดิม โดยได้ลงทุน 9,000 ล้านวอน จากเงินลงทุน 13,000 ล้านวอน และรับโอนกิจการมา หลังจากนั้นจึงได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น KeyEast และเริ่มต้นธุรกิจ Entertainment Agency อย่างเป็นทางการ หลังจากที่แบยงจุนรับโอนกิจการในเดือนกรกฎาคม ปี 2006 ก็ได้ย้ายบริษัท BOF ของตนเองมาเป็นบริษัทลูกของ KeyEast และได้ตั้งบริษัทจำกัด Holyim ร่วมกับ JYP Entertainment ในเดือนมกราคม ปี 2009 ต่อมาในปี 2010 ก็ได้ขยายขนาดของ KeyEast ด้วยวิธีการควบรวมกิจกรรม BOF ที่เคยเป็นบริษัทลูก และเดินหน้าทำกิจกรรมในฐานะนักธุรกิจอย่างเต็มที่ โดยได้ชวนเหล่านักแสดงรุ่นน้อง อาทิ คิมฮยอนจุง, คิมซูฮยอน มาร่วมสังกัด อีกทั้งก็ได้รวม BOF International เข้ากับ DA ที่เป็นธุรกิจหมุนเวียน Digital Content ญี่ปุ่นเพื่อลุยตลาดญี่ปุ่น

แต่แบยงจุนกลับขาย KeyEast ให้ SM ทั้งที่บริหารมา 14 ปี ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเก็บเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอด โดยบอกให้พนักงานบริษัททราบเรื่องการขายบริษัทเพียงบางส่วนเท่านั้น จึงทำให้เกิดความสงสัยถึงเหตุผลเบื้องหลังขึ้น โดยผู้เกี่ยวข้องคนหนึ่งกล่าวว่า "ที่ผ่านมา แบยงจุนรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างหนักกับการดูแล KeyEast โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข่าวลือเรื่องการใช้อภิสิทธ์ในโรงพยาบาลเมื่อปีที่แล้ว ได้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมาก โดยในตอนนั้น แบยงจุนได้รับความเสียหายอย่างมากจนถึงขั้นครุ่นคิดว่าจะยุติทุกสิ่งทุกอย่างเลยทีเดียว"

แบยงจุนแต่งงานกับพัคซูจิน นักแสดงสาวจากสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป Sugar เมื่อปี 2015 และได้ลูกชายในปี 2016 แต่ในระหว่างการคลอดลูกชาย ก็มีข่าวลือว่ามีการใช้อภิสิทธิ์ในการคลอดในโรงพยาบาล ถึงแม้ว่าพัคซูจินจะออกมาเขียนจดหมายขอโทษด้วยตนเองแล้ว แต่การวิพากษ์วิจารณ์ก็หนักข้อขึ้น สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์เป็นอย่างมาก แบยงจุนจึงได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างหนัก และถึงขั้นคิดที่จะยุติทุกสิ่งทุกอย่าง

ในทางกลับกัน ในวงการธุรกิจต่างกล่าวกันว่าการตัดสินใจของแบยงจุนเป็นการเลือกที่ชาญฉลาดในฐานะนักธุรกิจที่ไม่เอาปัญหาส่วนตัวมาเกี่ยวข้อง โดยผู้เกี่ยวข้องคนหนึ่งกล่าวอธิบายว่า "บริษัทบริหารจัดการนักแสดงมีขอบเขตจำกัดในเรื่องโครงสร้างรายได้ ซึ่งบริษัทบริหารจัดการนักร้องสามารถทำโครงสร้างธุรกิจได้หลากหลาย อาทิ โชว์การแสดง สินค้า MD แฟนมีทติ้ง ร้านคาราโอเกะ คลิปวิดีโอ ตรงกับข้ามกับบริษัทนักแสดงที่มีความลำบากในการทำธุรกิจหลากหลายด้านเช่นนั้น อีกทั้งถ้าเป็นบริษัทจดทะเบียนก็จะมีความเสี่ยงสูง ปัจจุบัน KeyEast ได้ร่วมมือเชิงกลยุทธ์และทำสัญญากับ Sohu.com ประเทศจีนโดยมีคิมซูฮยอนเป็นหลัก แต่คิมซูฮยอนก็เข้ากรมทหารแล้ว จึงเกิดขอบเขตจำกัดเรื่องรายได้ขึ้นจริง และมีความไม่มั่นคงสูงในสถานะของบริษัทจดทะเบียน เขาคงจะตัดสินใจโดยวิเคราะห์ว่าหุ้นส่วนแบ่งรายคนมีคุณค่าสูงสุดในสถานการณ์เช่นนี้"

ถ้าอย่างนั้น ทำไมแบยงจุนถึงเลือกจับมือกับ SM กันนะ เหล่าผู้เกี่ยวข้องต่างก็วิเคราะห์กันว่าอาจจะเป็นความสัมพันธ์กันแบบ 'Win-Win' โดยผู้เกี่ยวข้องคนหนึ่งกล่าวว่า "ตอนนี้ SM กำลังธุรกิจบริษัทบริหารจัดการ MC และนักแสดง รวมถึงการทำรายการโทรทัศน์ แต่ SM เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานในเรื่องการวางแผนทางด้านเพลง เปรียบเทียบกับบริษัทบริหารจัดการนักแสดงแล้วยังถือว่าอ่อนมาก ตรงข้ามกับ KeyEast ที่เป็นบริษัทที่โดดเด่นท่ามกลางบริษัทบริหารจัดการนักแสดง สามารถช่วยเพิ่มพลังความสามารถให้กับ SM ได้ และ KeyEast ก็สามารถเสริมสร้างความมั่นคงในการบริหารจากรายได้หลากหลายช่องทางได้เช่นกัน เมื่อ SM ที่สูญเสียนักแสดงหลักไป อาทิ จางดงกอน คิมฮานึล ได้จับมือกับ KeyEast ที่มีนักแสดงมากมาย อาทิ คิมซูฮยอน จองรยอวอน อูโดฮวาน ก็จะสามารถสร้าง Content Power ได้ และมีจุดแข็งที่ KeyEast สามารถใช้ Hallyu System ของ SM ได้ เมื่อมองจากหลายๆ แง่มุมแล้ว จึงเป็นการตัดสินใจที่ต่างฝ่ายต่าง Win-Win"

ต่อไปแบยงจุนจะอยู่ในตำแหน่งไหนกันนะ แบยงจุนที่กลายเป็นผู้ถือหุ้นหลักของ SM จากการรับโอนหุ้นใหม่ในครั้งนี้จะทำกิจกรรมในฐานะ Marketing ของ SM Group และ Global Strategic Advisor ของ KeyEast เรียกว่าเป็นการถอยฉากจากการบริหาร ซึ่งเขาจะอยู่ในบริษัทในฐานะนักแสดงในสังกัดแทน ไม่ใช่ 'ประธานบริษัท' ของ KeyEast โดยผู้เกี่ยวข้องจาก KeyEast กล่าวว่า "หลังจากรวมบริษัทกัน จะไม่มีการเปลี่ยนกำลังคนภายในบริษัทแต่อย่างใด แบยงจุนยังคงอยู่กับ KeyEast ในฐานะนักแสดงในสังกัด"

อย่างไรก็ตาม จากการรวมบริษัทกันในครั้งนี้ทำให้ SM กลายเป็นยักษ์ใหญ่ในแวดวงบันเทิงที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยคิมยองมิน CSO จาก SM ได้เปิดเผยเกี่ยวกับการร่วมมือและรับโอนกิจการในครั้งนี้ว่า "SM Group กับ KeyEast Group เคยร่วมงานกันทางธุรกิจมาแล้วมากมายจากการลงทุนเกี่ยวกับ DA ในครั้งนี้เราได้รวมเป็นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งเราก็จะคงจุดแข็งของ KeyEast และ Digital Adventure เอาไว้ให้มากยิ่งขึ้น และพัฒนาเป็นบริษัท Hallyu Media และบริษัทบริหารจัดการศิลปินที่ยอดเยี่ยมที่สุด รวมถึงจะเริ่มธุรกิจ Global Entertainment Platform ที่มี Entertainment Content ต่างๆ รวมถึงดารา และ MCN, UCG Content เป็นพื้นฐาน ซึ่งเราจะเริ่มลงทุนและร่วมมือกับบริษัท Global Online/Mobile Platform ต่างๆ เพื่อการนี้"

ที่มา : Nate
แปลโดย : http://www.popcornfor2.com

onlyfans leaked xxx onlyfans leaked videos xnxx 2022 filme porno filme porno
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X