หากเอ่ยถึงปัญหา “การตั้งครรภ์-ทำแท้งในเด็กวัยรุ่น” เชื่อว่า ผู้ใหญ่ในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยต่างกำลังหนักใจกับปัญหานี้กันอย่างมาก แต่จะยิ่งหนักใจมากขึ้นไปอีก กับข้อมูลจากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่พบความเชื่อมโยงของการทำแท้งกับความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่เพิ่มขึ้นของผู้เป็นแม่
       
       โดยงานวิจัยจาก the National Institute for Health and Welfare in Helsinki พบว่า คุณแม่ยังสาว หรือก็คือกลุ่มวัยรุ่นที่เคยผ่านการทำแท้งมาแล้ว 2 ครั้งก่อนจะมาตั้งครรภ์บุตรคนแรกนั้น มีโอกาสสูงที่จะคลอดก่อนกำหนด อีกทั้งเด็กทารกที่คลอดมานั้นก็เสี่ยงต่อการมีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ และต้องเข้ารับการดูแลเป็นพิเศษเป็นเวลานานกว่าจะสามารถมั่นใจได้ว่าสามารถมีชีวิตรอดได้
       
       นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า ในจำนวนของเด็กวัยรุ่นนับพันที่เข้ารับการทำแท้งนั้น บางรายเคยผ่านการตั้งครรภ์มาแล้วถึง 8 ครั้ง และ 13.8 เปอร์เซ็นต์ของคนที่เคยทำแท้ง (ในปี 2010) มาแล้วนั้น กลับมาทำแท้งใหม่อีกอย่างน้อย 1 ครั้ง
       
       อีกทั้งยังพบว่า ในกลุ่มของแม่ที่เคยผ่านการทำแท้งมาแล้ว 3 ครั้งเป็นอย่างน้อย เมื่อตั้งครรภ์ขึ้นมา ทารกในครรภ์จะมีความเสี่ยงมากขึ้น เช่น เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด เสี่ยงต่อการที่ทารกในครรภ์น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ เมื่อเทียบกับการตั้งครรภ์ของผู้หญิงที่ไม่เคยผ่านการทำแท้งมาก่อน
       
       งานวิจัยนี้ได้ตีพิมพ์ลงใน Human Reproduction โดย ดร.Reija Klemetti หัวหน้าคณะวิจัยได้ให้ความเห็นว่า สำหรับผู้หญิงวัยรุ่นที่ต้องการจะทำแท้งควรได้รับทราบถึงคำเตือนเกี่ยวกับอันตรายที่จะเกิดตามมาจากการทำแท้งซ้ำด้วย อย่างไรก็ดี แม้การวิจัยนี้ต้องการนำเสนอให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นที่จะเกิดกับแม่และเด็กทารกจากการเปิดโอกาสให้มีการทำแท้ง แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อความเสี่ยงเหล่านั้นด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาความยากจน การขาดแคลนอาหาร การสูบบุหรี่ การไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ ฯลฯ
       
       เรียบเรียงจากเดลิเมล
 
       ที่มา  http://www.manager.co.th/