ตั้ง Core Team ประสาน 5 กระทรวงสาง "ป่องวัยเรียน" ดันขึ้นวาระชาติ

2015-01-28 18:06:18

<p>Your browser does not support iframes.</p> <p>ขออภัยด้วยค่ะ ไม่สามารถแสดงผลบนเบราเซอร์ของคุณได้ค่ะ</p>
	คลิก!!!

สสส.เล็งตั้งหน่วยงานกลาง Core Team ประสานนโยบาย 5 กระทรวงด้านสังคมและภาคีเครือข่าย แก้ปัญหาป่องวัยเรียน ด้านรองนายกฯ เตรียมนำเข้าที่ประชุม รมต. ผลักดันเป็นวาระแห่งชาติ ชี้ต้นเหตุปัญหาเด็กพัฒนาการล่าช้ากว่า 1 ล้านคน การติดต่อโรคทางเพศสัมพันธ์ และความรุนแรงทางเพศ

นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (บอร์ด สสส.) กล่าวว่า การประชุมบอร์ด สสส. เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบแผนควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ 4 เรื่อง คือ 1.สุขภาวะทางเพศ 2.เสริมสุขภาพจิต 3.สิ่งแวดล้อมและสุขภาวะ และ 4.คุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพและการพัฒนาระบบยา ดำเนินการระหว่างปี 2558-2560 เน้นดำเนินงานร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่าย อย่างแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ จะตั้งหน่วยงานกลาง (Core Team) เพื่อบูรณาการเชิงนโยบายระหว่างหน่วยงานในส่วนกลาง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงแรงงาน และภาคีเครือข่ายอื่นๆ เพื่อแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ผ่านโครงการพัฒนาจังหวัดต้นแบบ 24 จังหวัด และเน้นพัฒนาผู้นำเปลี่ยนฐานคิด (Change Agent) เข้าไปสื่อสาร กระตุ้นให้เกิดฐานคิดใหม่เรื่องเพศในสังคมและในหน่วยบริการทุกระดับ

“ปัจจุบันมีวัยรุ่นคลอดปีละ 1.29 แสนคน หรือคิดเป็นแม่วัยรุ่นกว่า 1 ล้านคนในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเด็กเหล่านี้มีแนวโน้มพัฒนาการช้า จึงเป็นไปได้ว่าขณะนี้มีเด็กที่อาจมีพัฒนาการช้ากว่า 1 ล้านคน ซึ่งนอกจากปัญหาแม่วัยรุ่นแล้ว การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ยังนำไปสู่ปัญหาสุขภาพหลายอย่าง โดยเฉพาะโรคเอดส์ ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อ 1.2 ล้านคน และกว่าครึ่งไม่รู้ตัว รวมถึงปัญหาความรุนแรงทางเพศ ซึ่งนอกจากจะเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่ทำให้ประชาชนไทยสูญเสียปีสุขภาวะ ยังก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างสูง” รองนายกฯ กล่าว

นายยงยุทธ กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นด้วยว่า เพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น ดังนั้น การผลักดันสร้างการเรียนรู้เพศศึกษาที่เหมาะสมในระบบการศึกษาจึงเป็นเรื่องสำคัญ และควรมีการกำหนดตัวชี้วัดร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนประเด็นนี้อย่างจริงจังทั้งในระดับนโยบายและระดับพื้นที่ โดยตนจะนำประเด็นดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมร่วมรัฐมนตรี 5 กระทรวงหลักด้านสังคม เพื่อให้การทำงานด้านสุขภาวะทางเพศ โดยเฉพาะการปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ได้รับการผลักดันในระดับชาติต่อไป

ที่มา http://www.manager.co.th/