จวก "ศิริราชมูลนิธิ" โปรโมทอาหารเสริม บ.เอกชน
2014-11-26 20:09:56
Advertisement
คลิก!!!

        นักวิชาการจวก "ศิริราชมูลนิธิ" จับมือบริษัทเอกชนขายอาหารเสริม หาเงินเข้ามูลนิธิ ชี้ไม่เหมาะสม เหตุเป็น ร.ร.แพทย์ ทำให้กลายเป็นการการันตีอาหารเสริมว่าดี ระบุควรรับเงินบริจาคโดยไม่มีภาระผูกพัน

        ผศ.ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการแผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา (กพย.) กล่าวถึงกรณีศิริราชมูลนิธิร่วมกับบริษัทเอกชนผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรายหนึ่ง จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายจะช่วยเหลือผู้ป่วยด้อยโอกาสในโรคที่ที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงและต้องใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ชั้นสูง ว่า ส่วนตัวมองว่าศิริราชมูลนิธิทำไม่เหมาะสม และไม่ถูกต้องตามมาตรฐานจริยธรรม เพราะเท่ากับเป็นการโฆษณาให้กับอาหารเสริมของเอกชน การทำเช่นนี้เหมือนเป็นการการันตีคุณภาพของอาหารเสริมตัวดังกล่าวและทำให้ประชาชนหลงเชื่อ และในฐานะที่ รพ.ศิริราชเป็นโรงเรียนแพทย์หลักของประเทศ จะต้องตระหนัก และระมัดระวังเรื่องผลประโยชน์ ต้องเป็นแบบอย่างให้กับที่อื่นๆ ทั้งนี้ แม้จะบอกว่าหักรายได้เข้ามูลนิธิก็จริง แต่จะได้สักเท่าไร หากอยากจะบริจาคก็ให้บริจาคเข้ามูลนิธิมาเลยโดยไม่ต้องมีภาระผูกพัน 
       
       “เราคงจะไม่ไปเรียกร้องให้เขาทำอะไรต่อไป แต่เป็นหน้าที่ของมหาวิทยาลัย หน้าที่ของโรงเรียนแพทย์ที่ต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ ต้องไตร่ตรองเรื่องนี้ว่าเป็นหน้าที่ของตัวเอง และจริยธรรมของการรับโฆษณาส่งเสริมการขายควรจะเป็นอย่างไร” ผ.ศ.ภญ.นิยดา กล่าว
       
       ด้าน นพ.สุธีร์ รัตนมงคลกุล อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ค่อยเหมาะสม เพราะศิริราชเป็นโรงเรียนแพทย์ มีความเกี่ยวโยงกับเรื่องสุขภาพ การทำเช่นนี้เหมือนการันตีว่าอาหารเสริมตัวนี้เป็นสิ่งดีมีประโยชน์ กลายเป็นการส่งเสริมการขาย ถ้าอย่างนั้นบริษัทอื่นมาขอทำด้วยได้หรือไม่ ทำไมถึงทำกับบริษัทนี้เท่านั้น เป็นเรื่องความเหมาะสมทางด้านจริยธรรมองค์กร จริงๆ ไม่มีใครทำเรื่องนี้ ถึงจะบอกว่าเป็นการทำบุญ เป็นการทำความดี เพราะ รพ.ศิริราชมีอิทธิพลต่อความคิดคนทำให้คนคล้อยตามได้ ดังนั้นต้องเป็นตัวอย่า แบบอย่างให้ดีกับโรงเรียนแพทย์แห่งอื่นด้วย ไม่อย่างนั้นจะไปสอนจรรยาบรรณแพทย์คนอื่นๆ ได้อย่างไรว่าให้หวังประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สองประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่หนึ่ง
       
       “ถ้าจะรับเป็นเงินบริจาคก็สามารถทำได้ไม่ได้ว่าอะไร แต่พอรับมาแล้วทำอย่างนี้คิดว่าไม่สมควร ต้องถามว่าคนให้ให้เพื่ออะไร ให้เพื่อโฆษณาหรือให้เพื่อบริจาค แต่กรณีนี้เป็นการให้เพื่อโฆษณามากกว่า เจตนาชัดเจนมากว่าเป็นการส่งเสริมการขาย อยากให้ทบทวนเพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั่งแรก และสภามหาวิทยาลัยควรคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย” นพ.สุธีร์ กล่าว


ที่มา  http://www.manager.co.th/

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X