คุณทำร้ายกระดูกของคุณหรือเปล่า?
2014-11-24 14:26:21
Advertisement
คลิก!!!

อาหารขยะ
จากสถิติพบว่า การมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าที่ควร ทำให้กระดูกเสื่อม การอดอาหารมากเกินไปอาจทำให้ร่างากยได้รับไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายไม่เพียงพอ ซึ่งจะเป็นผลให้ประจำเดือนขาดหายไป และเป็นผลให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนอื่นๆที่ผลิตในรังไข่มีปริมาณลดลง ฮอร์โมนเหล่านี้จำเป็นต่อการรักษาระดับความหนาแน่นของกระดูก คุณจึงควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และอุดมไปด้วยแคลเซียม

 

เครื่องดื่มที่มีฟองฟู่
เครื่องดื่มพวกคาร์บอเนตจะผสมกรดฟอสฟอริก ซึ่งสามารถทำให้กระดูกไม่แข็งแรง เพราะดึงเอาแคลเซียมออกมา ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มประเภทมีฟองที่ผสมด้วยคาเฟอีนด้วย เพราะคาเฟอีนจะทำให้แคลเซียมดูดซึมได้น้อยลง และเลือกดื่มแต่เครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อกระดูก เช่น นมไขมันต่ำ นมถั่วเหลือง โยเกิร์ตปั่น

 

โปรตีนมากเกินไป
โปรตีนจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนสึกหรอกของร่างกาย แต่โปรตีนจากสัตว์มีผลเสียต่อความหนาแน่นของกระดูก ด้วยการเพิ่มความเป็นกรดในเลือด โปรตีนทำให้ร่างกายคุณ "ขโมย" แคลเซียมออกจากกระดูก เพื่อทำให้กรดเหล่านั้นมีความเป็นกลางเพิ่มขึ้น

 

สูบบุหรี่และดื่มเหล้า
การสูบบุหรี่จะทำให้แคลเซียมดูดซึมได้น้อยลง และลดปริมาณของเอสโตรเจนนิโคตินจะไปขัดขวางออกซิเจนที่ไปเลี้ยงกระดูก และมีผลเป็นพิษต่อเซลล์กระดูกและมันยังทำให้เซลล์ที่ใช้ในการสร้างกระดูก (ออสติโอบลาส) มีการผลิตที่ช้าลง รวมทั้งยับยั้งขบวนการต่างๆของกระดูกด้วย จากการศึกษาพบว่า กระดูกของพวกที่สูบบุหรี่มีคุณสมบัติทางไบโอเคมีด้อยกว่ากระดูกของพวกที่ไม่สูบบุหรี่ ดังนั้นมันจึงหักง่าย การดื่มไวน์มากกว่าสองแก้วต่อวันก็สามารถทำให้กระดูกของคุณเปราะบางได้

 

ชีวิตที่เคร่งเครียด
เพื่อที่จะต่อสู้กับความเครียด ร่างกายต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นในรูปของน้ำตาลกลูโคส ดังนั้นมันจึงปล่อยฮอร์โมนชื่อคอร์ติซอลออกมา "คอร์ติซอลทำให้กล้ามเนื้อของคุณปลดปล่อยโปรตีนออกมากเพื่อใช้ในการผลิตกลูโคส" สิ่งนี้จะนำไปสู่การที่กล้ามเนื้อค่อยๆเล็กลงและทำให้มีการสูญเสียแร่ธาตุของกระดูก ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องลดระดับความเครียดลง และออกกำลังกายช่วย

 

ยาบางชนิด
ยาบางอย่างรบกวนการดูดซึมของแคลเซียม ซึ่งได้แก่ยาขับปัสสาวะ ยาแก้อักเสบที่มีส่วนผสมของสเตอรอยด์ ยารักษาโรคหืดหอบที่มีส่วนผสมของสเตอรอยด์ และยาปฎิชีววนะหลายชนิด การที่รับประทานยาตัวใหม่ๆให้หาดูว่ามันจะรบกวนการดูดซึมของแคลเซียมหรือไม่ ถ้าใช่ และคุณก็จำเป็นต้องใช้ ให้ปรึกษาแพทย์ดูว่าคุณจะหาอะไรที่ดีที่สุดแทนได้บ้าง

 

 

ที่มา  http://siamdara.com/

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X