กัปตันเรือเซวอลรับ ปล่อยผู้ช่วยมือใหม่-ประสบการณ์น้อย มาคุมเรือแทน แล้วตัวเองเข้าไปนอนหลับในห้อง

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2557 สำนักข่าวบีบีซี รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการสืบสวนสาเหตุเรือเซวอลของเกาหลีใต้ล่มว่า กัปตันเรือเซวอลรับสารภาพ มอบหมายให้ผู้ช่วยต้นเรือผู้หญิงซึ่งมีประสบการณ์น้อยมากมาควบคุมเรือแทน ส่วนตัวเองไปนอนหลับในห้องหน้าตาเฉย จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมทางเรือครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี ของเกาหลีใต้

รายงานระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สืบสวนเหตุเรือเซวอลล่ม ได้ร้องต่อศาลให้ควบคุมตัวโดยนายลี จุนซอก วัย 69 ปี กัปตันเรือเซวอล และผู้ช่วยกัปตันอีก 2 คนไว้อีก 10 วัน เพื่อสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม หลังจากพบว่าความประมาทเลินเล่อของกัปตันที่นำไปสู่การล่มของเรือเซวอลนั้น มาจากการปล่อยให้ผู้ช่วยต้นเรือลำดับที่ 3 ซึ่งเป็นหญิงวัย 26 ปี ที่มีประสบการณ์การเดินเรือเพียง 6 เดือน และไม่เคยมีประสบการณ์ในการเดินเรือผ่านกระแสคลื่นแรงมาก่อน มาควบคุมเรือและทำหน้าที่แทนกัปตันทุกอย่าง ส่วนกัปตันไปนอนหลับในห้อง แม้สภาพท้องทะเลขณะนั้นจะคลื่นลมแรงก็ตาม

โดยจากการสอบสวนนายลี จุนซอก กัปตันเรือเซวอล ได้เปิดเผยว่า "ผมขอโทษชาวเกาหลีใต้ที่เป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ และขอก้มหัวเพื่อขอโทษครอบครัวของเหยื่อทุกราย ในวันเกิดเหตุ ผมชี้แนะผู้ช่วยต้นเรือเกี่ยวกับเส้นทางการเดินเรือ แล้วผมก็เข้าห้องนอนไป จากนั้นเรือก็ล่ม และในตอนที่เรือเริ่มเอียง ผมเห็นว่าคลื่นลมแรง น้ำในทะเลก็เย็นยะเยือก ผมคิดว่าถ้าปล่อยให้ผู้โดยสารอพยพจากเรือโดยไม่มีการชี้แนะที่เหมาะสม หรือไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพ พวกเขาอาจจะเจอกับอุปสรรคที่สาหัสในท้องทะเล และอาจถูกคลื่นลมพัดหายไปได้ ผมเลยไม่ได้สั่งอพยพ ผมยอมรับว่าผมเองก็มีส่วนผิดที่ตัดสินใจเช่นนั้น"

อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 5 ข้อหาหนักแก่กัปตันและผู้ช่วยทั้ง 2 ราย ได้แก่ ข้อหาละทิ้งเรือ, กระทำการโดยประมาทเลินเล่อ, ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตาย, ไม่พยายามขอความช่วยเหลือจากเรือลำอื่น และละเมิดกฎหมายเดินเรือ เนื่องจากกฎหมายเดินเรือระบุว่า หากเกิดเหตุเรืออับปาง ผู้เป็นกัปตันต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้โดยสารและลูกเรือเป็นคนสุดท้าย แต่ นายลีกับผู้ช่วยกลับหนีออกมาเป็นกลุ่มแรก ๆ ก่อนที่เรือจะจม และทิ้งผู้โดยสารหลายร้อยชีวิตไว้บนเรือ ซึ่งหาก นายลี ถูกพิพากษาว่ามีความผิดจริง เขาจะได้รับโทษจำคุก 5 ปี จนถึงจำคุกตลอดชีวิต

ทั้งนี้ สำหรับความคืบหน้าการสืบสวนความผิดพลาดของตัวเรือที่ทำให้เรือล่มนั้น ผู้เชี่ยวชาญยังคงเชื่อว่าน่าจะมาจากการหักเลี้ยวเรือกะทันหัน ทำให้เรือในเรือที่มีน้ำหนักมากกว่า 1,100 ตัน เคลื่อนตัวภายในท้องเรือและทำให้เรือเสียการทรงตัว ขณะเดียวกัน ทีมสืบสวนพบว่าเรือเซวอลอาจบรรทุกหนักเกินพิกัดด้วย โดยจากการตรวจสอบพบว่า ก่อนออกเรือ เรือเซวอลได้แจ้งทางการว่าบนเรือมีผู้โดยสารรวมลูกเรือ 274 คน, ยานพาหนะ 150 คัน และบรรทุกสินค้าหนักอีก 657 ตัน แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุ กลับเผยตัวเลขที่แท้จริงออกมาว่า เรือเซวอลมีผู้โดยสารและลูกเรือ 475 คน (ก่อนเปลี่ยนเป็น 476 คนในเวลาต่อมา), ยานพาหนะ 180 คัน, และบรรทุกสินค้าหนักถึง 1,157 ตัน แต่อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่าเรือลำนี้บรรทุกหนักเกินพิกัดหรือไม่ เหตุใดจึงไม่แจ้งน้ำหนักที่แท้จริงตั้งแต่แรก