กรมศิลปากรระบุวัตถุที่ยึดจากเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ บางส่วนไม่ใช่โบราณวัตถุ ไม่น่าเป็นของแท้
2014-11-28 12:57:29
Advertisement
Pyramid Game

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

กรมศิลปากร ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบโบราณวัตถุและศิลปวัตถุที่เป็นของกลางในคดี  และพวก โดยเตรียมแถลงความคืบหน้าบ่ายวันนี้ (28 พ.ย. 2557) ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงหลังเจ้าหน้าที่ 3 คนถูกพาดพิงว่าเกี่ยวข้องกับการรับส่วยน้ำมันเถื่อน

กรมศิลปากรส่งเจ้าหน้าที่กลุ่มงานทะเบียนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ภัณฑารักษ์ ร่วมตรวจโบราณวัตถุและศิลปวัตถุที่ตำรวจยึดเป็นของกลางภายหลังการจับกุม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางพร้อมพวก โดยเบื้องต้นพบว่าของกลางที่ตรวจยึดได้เป็นประเภทโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ กว่า 20,000 ชิ้น และเครื่องสังคโลก เครื่องเคลือบ เครื่องทอง ถ้วยจีน กว่า 10,000 ชิ้น รวมทั้งหมดกว่า 30,000 ชิ้น

นายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่ากรมศิลปากรได้ทำการแยกประเภทของแต่ละชิ้น โดยต้องตรวจสอบว่าเป็นโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุจริง หรือเป็นของที่ทำปลอมแปลงขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่พบว่าบางชิ้นไม่น่าจะเป็นโบราณวัตถุและศิลปวัตถุของแท้

สำหรับแนวทางการตรวจสอบ กรมศิลปากรได้ส่งคณะกรรมการตรวจพิสูจน์ ประเมินค่าทรัพย์สินโบราณวัตถุและศิลปวัตถุไปตรวจอย่างละเอียด โดยจะต้องตรวจสอบอ้างอิงหลักฐานทางวิชาการและประวัติศาสตร์ในแต่ละยุคสมัย ขณะเดียวกันจะสอบสวนถึงที่มาที่ไปของการครอบครองจากผู้ครอบครองเป็นรายบุคคล โดยกรมศิลปากรจะมีการแถลงข่าวถึงความคืบหน้าอีกครั้งช่วงบ่ายวันนี้ (28 พ.ย. 2557)

ด้าน นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่าได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีมีข้อมูลพาดพิงถึงเจ้าหน้าที่ดีเอสไออย่างน้อย 3 คน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์น้ำมันเถื่อนทางภาคใต้ และมีความเกี่ยวโยงกับนายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ ส่วนคดีที่กล่าวหา พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กับพวก ดีเอสไอมีหน้าที่สนับสนุนข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อเสริมการทำงานของตำรวจเท่านั้น

ขณะที่ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดี พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กับพวก ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมของกลาง โดยยังไม่มีการออกหมายจับเพิ่มเติม ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่ามีนายตำรวจระดับนายพล 3 คน และนายพัน 2 คนเกี่ยวข้องนั้น ยืนยันว่ายังไม่มีข้อมูล

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะกรรมการ 1 ชุดเพื่อดำเนินการเรื่องของกลางที่ยึดได้ในคดี ทั้งทรัพย์สินมีค่า งานศิลปะ และพระพุทธรูป ซึ่งเชื่อว่ายังมีทรัพย์สินอีกจำนวนมากที่มีการซุกซ่อนไว้ในในประเทศไทย เบื้องต้นยังไม่พบการเคลื่อนย้าย หรือเก็บทรัพย์สินในต่างประเทศ สำหรับทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ในขณะนี้ทั้งหมดจะตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงและเก็บดีเอ็นเอ เพื่อหาความเชื่อมโยงว่ายังมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องอีกหรือไม่

ภาพเพิ่มเติมจาก มติชนออนไลน์

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X