"เอมมา วัตสัน" พูดเรื่องสิทธิสตรียัน "เฟมินิสต์" ไม่ได้เกลียดผู้ชาย
2014-09-23 23:02:26
Advertisement
คลิก!!!

นักแสดงสาวผู้โด่งดังจากหนังชุด Harry Potter มีโอกาสขึ้นพูดในฐานะทูตสันถวไมตรีเพื่อสตรีแห่งสหประชาติ โดยเธอยืนยันว่าตนเองสนับสนุนแนวคิดเพื่อ "สิทธิสตรี" ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการ "เกลียดผู้ชาย" แน่นอน
       
       นักแสดงสาวชาวอังกฤษ เอมมา วัตสัน ซึ่งเพิ่งจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตสันถวไมตรีเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ ได้รับคำชมกับการกล่าวสุนทรพจน์อันทรงพลังที่สร้างความประทับใจให้กับคนมากมาย ที่นิวยอร์กเมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา ในงานเปิดโครงการ HeForShe ที่มีเป้าหมายต่อสู้กับความไม่เท่าเทียมกันทางเพศ
       
       "ฉันได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตสันถวไมตรีเพื่อสตรีตั้งแต่ 6 เดือนก่อน และยิ่งได้มีโอกาสพูดเพื่อสิทธิสตรีเท่าไหร่ ก็เริ่มรู้สึกว่าบ่อยครั้งเลยที่การพูดเพื่อสิทธิของผู้หญิงจะถูกตีความไปว่าเป็นการเกลียดผู้ชาย ซึ่งนี่เป็นเรื่องหนึ่งที่ฉันแน่ใจเลยว่าควรจะหยุดคิดแบบนี้ได้แล้ว"
       
       "โดยความหมายแล้ว สิทธิสตรี ก็คือความเชื่อที่ว่าผู้หญิง และผู้ชายควรจะมีทั้งสิทธิ และโอกาสที่เท่าเทียมกัน เป็นทฤษฎีเพื่อความเท่าเทียมทั้งทางการเมือง, เศรษฐศาสตร์ และทางสังคม ซึ่งฉันเองก็เริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้มานานมากๆ แล้วค่ะ"
       
       โดยนักแสดงสาววัย 24 ปี ยังเล่าถึงประสบการณ์ที่เปลี่ยนให้เธอมีความคิดในแบบสตรีนิยมว่า "ตอนฉันอายุได้ 8 ขวบ ฉันก็เริ่มสับสนแล้ว เพราะถูกเรียกว่าเป็นพวกชอบ "เจ้ากี้เจ้าการ" เพียงแค่ฉันอยากจะกำกับละครเวทีที่พวกเราจะต้องแสดงให้พ่อแม่ดูเท่านั้นเอง แต่พวกเด็กผู้ชายไม่อยากทำกัน ... ตอนอายุ 14 สื่อก็เริ่มเสนอภาพของฉันเป็นวัตถุทางเพศแล้ว พออายุได้ 15 ก็มีเพื่อนผู้หญิงหลายๆ คนที่เลิกเล่นกีฬาที่พวกเธอชอบ เพียงเพราะไม่อยากดู "แมน" เกินไป ... กระทั่งตอนอายุได้ 18 เพื่อนผู้ชายของฉันก็เริ่มถึงวัยที่ไม่กล้าเปิดเผยความรู้สึกในจิตใจอะไรออกมาอีกแล้ว นั่นจึงทำให้ฉันตัดสินใจสนับสนุนสิทธิสตรีค่ะ"
       
       "ความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องนี้สำหรับฉันแล้วไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย แต่พอลองค้นหาข้อมูลดูกลับพบว่าคำว่า "สิทธิสตรี" ดูจะไม่ใช่เรื่องที่เป็นที่นิยมนัก ... ผู้หญิงหลายคนเลือกที่จะบอกว่าพวกเธอไม่ได้สนับสนุนสิทธิสตรี กลายเป็นว่าฉันได้กลายเป็นหนึ่งในผู้หญิงประเภทที่แสดงออกอะไรอย่างสุดโต่งไปแล้ว เป็นผู้หญิงที่แสดงออกอย่างก้าวร้าว, โดดเดี่ยวตัวเอง และเกลียดชังผู้ชาย เป็นผู้หญิงที่ไม่น่าหลงไหลเท่าไหร่นัก ทำไมโลกถึงอยู่ได้ยากแบบนี้นะ?"
       
       เธอยังยืนยันว่าปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศนั้น ถือว่าเป็นปัญหาสำหรับผู้ชายด้วยเช่นเดียวกัน "ฉันมองเห็นเรื่องนี้จากพ่อของฉันเองค่ะ ที่หน้าที่ในฐานะผู้ปกครองของท่านมักจะถูกให้คุณค่าจากสังคมน้อยกว่า ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วฉันต้องการท่านมากเท่ากับที่ต้องการคุณแม่ ... ฉันเห็นคนหนุ่มต้องทนทุกข์ทรมานจากปัญหาในจิตใจ โดยไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้ เพียงเพราะว่าการขอความช่วยเหลือจะไปลดทอนคุณค่าความเป็นผู้ชายของพวกเขาเท่านั้นเอง .... ฉันได้เห็นผู้ชายที่ทั้งเปราะบาง และสูญเสียความั่นใจ เมื่อคำว่าความสำเร็จของผู้ชาย กลายเป็นสิ่งที่ถูกบิดเบือนความหมายไป"
       
       "ผู้ชายก็ไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากแนวคิดแบบนี้เลย ปกติเราคงไม่อยากจะพูดถึงเรื่องที่ว่าผู้ชายก็มักจะถูกกักขังด้วยทัศนคติทางเพศเท่าไหร่นัก แต่ฉันเชื่อว่าผู้ชายก็พบกับปัญหาเช่นเดียวกัน ... มันถึงเวลาแล้วที่เราทั้งหมดจะมองเพศสภาพเป็นเพียงความแตกต่างของเฉดสี แทนที่จะมองว่าเป็นอะไรที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงอย่างที่เป็นอยู่ ควรจะหยุดได้แล้วที่จะนิยามผู้อื่นในสิ่งที่พวกเขาไม่ได้เป็น แต่เริ่มนิยามตัวเองว่าเราเป็นใครกันแน่แทน เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเสรีกว่านี้ค่ะ ซึ่งนี่ก็คือความหมายของโครงการ HeForShe นี่คือเรื่องของเสรีภาพ"
 
เอมมา วัตสัน พูดเรื่องสิทธิสตรียัน เฟมินิสต์ ไม่ได้เกลียดผู้ชาย
       
 
เอมมา วัตสัน พูดเรื่องสิทธิสตรียัน เฟมินิสต์ ไม่ได้เกลียดผู้ชาย

http://www.manager.co.th

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X