ด.ช.เคอิโงะ ซาโต เด็กชายวัย 9 ชวบ ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ชาวพิจิตร เคยเป็นข่าวโด่งดังเมื่อปี 2553 เพราะถือรูปถ่ายตามหาพ่อชาวญี่ปุ่น ที่หน้าโบสถ์หลวงพ่อเพชร ภายในวัดท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่งสร้างความสะเทือนใจให้ผู้ที่พบเห็น และกลายเป็นข่าวคึกโครมในห้วงเวลานั้น โดยน้องเคอิโงะระบุว่าไม่เคยได้พบเจอหน้าบิดา ส่วนนางทิพย์มณฑา แม่ก็เสียชีวิตไปแล้ว โดยมีเพียงรูปถ่ายบิดาชาวญี่ปุ่น จึงใช้วิธีถือรูปเดินถามนักท่องเที่ยวต่างชาวญี่ปุ่นว่ามีใครรู้จักพ่อหรือไม่ สร้างความเวทนาแก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง

 ต่อมามีสื่อมวลชนทุกแขนงเสนอข่าวชีวิตของหนูน้อยเคอิโงะ และมีความพยายามของหน่วยงานราชการโดยเฉพาะกระทรวงต่างประเทศช่วยประสานงานกับสถานทูตไทยที่ประเทศญี่ปุ่น

 จนในที่สุดความฝันของหนูน้อยเคอิโงะ เพราะหลายเดือนต่อมา นายคัทซูมิ ซาโต พ่อชาวญี่ปุ่นที่พลัดพราก ได้บินลัดฟ้ามาพบหน้าลูกชายครั้งแรก ซึ่งอยู่ได้กันพักใหญ่ นายคัทซูมิก็บินกลับญี่ปุ่น แต่ยังบินมาเยี่ยมลูกชายเป็นประจำ

 
 ล่าสุดสำนักข่าวไทย Thainewsagency Mcotได้ทำสกู๊ปของหนูน้อยเคอิโงะในวัน 15 ปี ซึ่งโตเป็นหนุ่มรูปหล่อ เรียนอยู่ชั้น ม.4โรงเรียนพิจิตรพิทยาคม หลังเลิกเรียนยังไปช่วยนางปัทมา ป้าซึ่งรับอุปการะเลี้ยงดู ขายปลาปล่อยริมแม่น้ำน่านในวัดท่าหลวงเป็นประจำทุกวัน

 พอถามถึงพ่อ ที่ปีหนึ่งจะได้พบหน้ากันสักครั้ง เคอิโงะถึงกับน้ำตาคลอเบ้า นอกจากความคิดถึงพ่อ เรื่องการเรียนก็เป็นสิ่งที่เคอิโงะกังวลอยู่ไม่น้อย เพราะฝันไกลอยากจะไปทำงานถึงญี่ปุ่น หรืออย่างน้อยก็อยากเก็บเงินส่งไปให้พ่อ สำหรับเคอิโงะ พ่อที่เขามุ่งมั่นตามหามาตั้งแต่เด็ก ยังเป็นแรงผลักดันให้เขาก้าวไปตามฝันโดยไม่หยุดนิ่ง

ขอบคุณ สำนักข่าวไทย