หลังจากอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของคนดังมาแล้วมากมาย เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในฐานะ “คนเบื้องหลัง” ในหลากหลายหน้าที่ในวงการบันเทิง แล้วก็ถึงวาระที่ สมเกียรติ เรือนประภัสสร์นักเขียน นักทำสารคดี ช่างภาพ ผู้สื่อข่าว ผู้สร้างหนังและละครมาแล้วมากมาย จะลุกขึ้นมากำกับภาพยนตร์ด้วยตนเองเป็นครั้งแรก ประเดิมด้วยภาพยนตร์เรื่อง “ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์” ที่เจ้าตัวประกาศกร้าวว่า
       
       "นี่คือ ภาพยนตร์สนองคุณแผ่นดิน ที่สร้างด้วยพลังศรัทธาอันเต็มเปี่ยมที่มีต่อ สมเด็จพุฒจารย์โต พรหมรังสี หรือ สมเด็จโต ผู้เขียนพระคาถา ชินบัญชร ที่ชาวไทยรู้จักกันดี โดยได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก 2ไฮโซล้านนา พันเอก (พิเศษ) ศักดิ์สุธี- คุณจรัลรัตน์ คงพ่วงพันธ์ ที่ร่วมสนับสนุนเงินทุนสร้างด้วยศรัทธาต่อ สมเด็จโตฯ อย่างแรงกล้าเช่นกัน อำนวยการสร้างร่วมโดย คุณสุพัทชฏา คงพ่วงพันธ์"
        
       สมเกียรติ เรือนประภัสสร์ หนึ่งในผู้บริหารบริษัท อกาลิโกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และ ผู้กำกับภาพยนตร์สนองคุณแผ่นดิน “ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์” สุดปลาบปลื้มยินดีที่ได้กำกับภาพยนตร์เรื่องแรก ก็ได้มีโอกาสร่วมงานกับ 3 บรมครูต่างสาขาอาชีพ คือ ครูฉลวย ศรีรัตนา บรมครูทางด้านงานกำกับการแสดง ในฐานะ ที่ปรึกษาอาวุโสของภาพยนตร์เรื่องนี้ , อาต้อย - เศรษฐา ศิระฉายา นักร้อง นักแสดง พิธีกร มากฝีมือที่ได้รับการยกย่องให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2554 ที่มารับบทเป็น สมเด็จพุฒาจารย์โตฯ ช่วงวัยชรา และ อ.ศัลยา สุขะนิวัตต์ บรมครูด้านการเขียนบทละครโทรทัศน์ ที่มาเขียนภาพยนตร์ให้เป็นครั้งแรกในชีวิตของท่าน
       
       ผู้กำกับหน้าใหม่ แต่เก๋าประสบการณ์ สมเกียรติ เรือนประภัสสร์เปิดใจว่า “ผมเองเป็นลูกศิษย์ของ ครูฉลวย ศรีรัตนา มานานหลายปี ทุกครั้งที่ทำงานหนัง ละคร ก็มาจะขอเชิญท่านมาร่วมงานกันเสมอ รวมทั้งหนังเรื่อง “ขรัวโตฯ” นี้ท่านก็มาช่วยเป็นที่ปรึกษาตั้งแต่เริ่มแรก ตั้งแต่การวางโครงเรื่อง การเขียนบท งานกำกับงานแสดง ก่อนที่ท่านจะไม่สบาย ครูฉลวย ให้เกียรติมาช่วยงานหนังเรื่องมาตลอด และท่านเองที่เป็นคนแนะนำผมบอกว่า บทภาพยนตร์เรื่องนี้ คนเดียวเท่านั้นที่จะเขียนออกมาได้ดีที่สุดก็คือ อ.ศัลยา ผมก็ถามท่านไปว่า อ.ศัลยา จะมาเขียนให้ผมหรือ เพราะงานท่านเยอะมาก ครูฉลวย ก็บอกกับผมว่า เดี๋ยวผมจะไปขอท่านให้
       
       เมื่อไปขอให้ อ.ศัลยา มาเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ ท่านปฏิเสธเลยตั้งแต่แรก บอกว่าไม่เคยเขียนบทภาพยนตร์มาก่อน และไม่มีเวลา แต่ครูฉลวยท่านก็บอกว่า “ผมมองไม่เห็นใครอีกแล้ว บทภาพยนตร์เรื่องนี้ต้อง อ.ศัลยา เท่านั้น” อ.ศัลยา ท่านได้ตอบรับ กอร์ปกับท่านก็มีความศรัทธาต่อ สมเด็จโต อยู่แล้ว แต่หลังจากนั้นพักใหญ่ ท่านก็บอกว่า ท่านเขียนไม่ได้จริงๆ แต่ผมยังมีความหวัง จึงแนะนำท่านไปว่า อยากจะให้อาจารย์ลองไปสักการะที่ วัดระฆังโฆสิตาราม อันเป็นวัดประจำของ สมเด็จโตฯ อาจารย์ศัลยา ท่านก็ไปจริงๆ และหลังจากนั้นท่านก็เขียนบทอย่างฉลุย ยอมรับว่าเรารอบทอยู่นานทีเดียว แต่เมื่อได้บทมา ทุกคนต่างลงความเห็นว่า คุ้มค่ากับการรอคอยเหลือเกิน บทภาพยนตร์เรื่องแรกของท่าน เนื้อหาเข้มข้น กระชับ ใช้คำน้อย แต่ได้เนื้อมาก หลายคนที่ได้อ่านต่างบอกว่า อ่านแล้วร้องไห้ทุกครั้ง
       
       และเมื่อถึงขั้นตอนการหานักแสดง ก็คิดกันอยู่ว่า จะเลือกใครมาเล่นรับบท สมเด็จโต ดี ซึ่งมีโจทย์อยู่ว่า ต้องวัยได้ ภาพลักษณ์ดี เป็นนักแสดงมีฝีมือ นั่นเป็นโจทย์ในขั้นแรกที่ผมนึกไว้ กระทั่งคืนหนึ่งเปิดค้นหารูปนักแสดงในกูเกิ้ล จู่ๆรูปของ คุณต้อย เศรษฐา ก็เด้งขึ้นมา และเมื่อนำมาภาพมาเปรียบเทียบกับ สมเด็จโต ปรากฏว่า ใบหน้าทั้งสองท่านมีความคล้ายคลึงกันมาก พอบอกทุกคนว่าจะเลือก อาต้อย เศรษฐา มารับท สมเด็จโต ทุกคนต่างยอมรับโดยดุษฏี บอกว่าเหมาะสมมากทุกประการ แต่ก็มาติดที่ว่า ท่านจะตอบรับเล่นหรือเปล่า เพราะว่าต้องโกนศรีษะ ต้องมีเวลาว่างมากพอ
       
       ปรากฏว่า เกินคาด อาต้อย-เศรษฐา ตอบรับด้วยความยินดี และที่ดียิ่งกว่านั้นก็คือ อาต้อย เตรียมตัวเองด้วยการ บวชอีกครั้ง เพื่อเป็นพุทธบูชา และเสริมสร้างบารมี โดยเดินทางไปบวชถึง วัดพุทธคยา ประเทศอินเดีย ก่อนจะกลับมาเคลียร์คิวให้กับทีมงานเป็นพิเศษ และถ้าใครที่ได้ศึกษาประวัติของ สมเด็จโต ก็จะพบว่า ตัวจริงของ สมเด็จโต ท่านมิได้เป็นคนซีเรียส หากแต่เป็นคนที่ใจดี มีเมตตา มีอารมณ์ขัน ซึ่งอารมณ์ขันของท่านปรากฏอยู่หลายตอน การเลือก อาต้อย เศรษฐา จึงเป็นตัวเลือกที่ลงตัวมากๆ เพราะอาต้อยเอง ก็เป็นคนที่ใจดี มีเมตตา ใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอด ทั้งมีอารมณ์ขันเป็นเลิศ การเลือก อาต้อย มารับบทนี้ เป็นสิ่งที่ผมภาคภูมิใจมาก
       
       การที่ได้ร่วมงานกับ 3 บรมครูต่างสาขา ครูฉลวย ศรีรัตนา, อาต้อย เศรษฐา, อาจารย์ศัลยา ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมถือเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าและมีความหมายกับผมมาก และผมรับรองว่า ผลที่ออกมารับรองว่า คุ้มค่าต่อการชมแน่นอน และทั้งนี้ก็ขอขอบคุณ 2 ผู้อำนวยการสร้าง พันเอก(พิเศษ)ศักดิ์สุธี และ คุณจรัลรัตน์ คงพ่วงพันธ์ ที่ให้การสนับสนุนในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างเต็มที่ และอยากให้ชาวไทยทุกคนติดตามรอชมภาพยนตร์เรื่องนี้โดยพร้อมเพรียงกัน"
       
       “ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์” ภาพยนตร์สนองคุณแผ่นดิน อำนวยการสร้างโดย พันเอก (พิเศษ) ศักดิ์สุธี - จรัลรัตน์ คงพ่วงพันธ์ และ สุพัทชฏา คงพ่วงพันธ์ กำกับด้วยพลังศรัทธาโดย สมเกียรติ เรือนประภัสสร์ รับบท สมเด็จโต พรหมรังสี (สมเด็จโต) โดย เศรษฐา ศิระฉายา ศิลปินแห่งชาติปี 2554 บทภาพยนตร์ครั้งแรกโดย อ.ศัลยา สุขนิวัฒน์, ที่ปรึกษาอาวุโสโดย ครูฉลวย ศรีรัตนา

ที่มา  http://www.manager.co.th/