Hail, Caesar! เป็นหนังตลกร้ายรับประกันคุณภาพจากฝีมือกำกับและเขียนบทของสองพี่น้องโคเอน อีธานและโจเอล โคเอน เจ้าของรางวัลออสการ์สี่ตัวจากหนัง Fargo (1996) และ No Country for Old Men (2007) เป็นตลกมีชั้นเชิง ไม่ใช่มุขฮาเบาสมองแบบ Zoolander ถ้าเป็นคนชอบดูหนัง (โดยเฉพาะหนัง Classic ยุคเก่าๆ ) จะยิ่งดูสนุก เพราะทั้งเสียดสีและจิกกัดวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูดยุคทอง (Golden Age) 1950s เป็นหนังซ้อนหนังที่ล้อเลียนค่ายหนัง ตัวหนังและดารายุคนั้นอย่างแสบสันต์

เอดดี้ แมนนิกซ์ (จอช โบรลีน) รับบท Fixer หรือผู้คอยแก้ปัญหาทุกอย่างของค่ายหนังแคปปิตอลพิคเจอร์ ค่ายหนังนี้ผลิตหนังหลายรูปแบบ แต่ละเรื่องล้วนมีปัญหาซึ่งเขาต้องหาทางออกให้ ตั้งแต่เกลี้ยกล่อมให้ผู้นำศาสนาเห็นชอบกับหนังเอพิคเกี่ยวกับพระเยซู แก้ปัญหาชู้สาวของดารา กันไม่ให้ตำรวจจับดาราข้อหาผิดจริยธรรม เอาดาราคาวบอยมาเล่นหนังดราม่า และเรื่องใหญ่สุดคือซูเปอร์สตาร์หนังเอพิคถูกลักพาตัว แค่เคลียร์ปัญหาเหล่านี้ก็สาหัสแล้ว เขายังต้องพยายามรักษาภาพลักษณ์ดารา ไม่ให้ถูกนำไปลงข่าวกอสซิปอีกด้วย

Hail,Caesar! แฉดราม่าเบื้องลึกในวงการฮอลลีวูด หน้าฉากงดงามยิ่งใหญ่ แต่หลังฉากมีแต่เรื่องอื้อฉาววุ่นวาย โคเอนเอาเรื่องจริงมาดัดแปลงให้ออกแนวตลกเสียดสี จอร์ช คลูนีย์ ทิ้งมาดหล่อมารับบท แบร์ด วิทล็อค ตัวเอกของหนังเอพิคยิ่งใหญ่อลังการ ที่ภาพลักษณ์ในจอเหี้ยมหาญ แต่ตัวจริงเป็นไอ้ขี้เมาสมองตื้อ นัยว่าล้อเคิร์ก ดักกลาส จากเรื่อง Spartacas (1960) และล้อหนัง Ben- Hur (1959) มุขนี้เป็นตลกร้ายที่เอาตัวละครที่เหมือนเป็นฮีโรมาทำเป็นตัวตลกที่บ้าๆ บวมๆ สการ์เลต โจแฮนสัน แสดงเป็นดีแอนนา โมแรม บทในหนังใสซื่อแต่ชีวิตจริงท้องไม่มีพ่อ แชนนิง ทาทัม ในบทเบิร์ท เกอร์นีย์ ดาราเท้าไฟ มาดแจ่มใสรื่นเริง แต่กลับเป็นดาราเอียงซ้ายที่นิยมลัทธิคอมมิวนิสต์ ทาทัมเคยโชว์ฝีเท้าในหนังหลายเรื่องเช่น Step Up , Magic Mike XXL มาเรื่องนี้โชว์การเต้นแท็ป ซึ่งต้องบอกว่าน่าดูมากถึงมากที่สุด บทนี้ล้อหนัง Singin’ in the Rain ที่จีน เคลลี่ เคยแสดง และยังมีดาราชั้นนำอีกหลายคนที่มาร่วมป่วนสตูดิโอแห่งนี้ เรล์ฟ ไฟนส์ ดาราหน้าซีเรียสรับบทผู้กำกับลอว์เรนซ์ ลอวเรนท์ซ จอมเฮียบที่ต้องกำกับให้นักแสดงหนังคาวบอยที่แทบจะไม่เคยแสดงบทพูด มาเล่นหนังดราม่าย้อนยุคที่มีบทพูดซับซ้อน

นอกจากจะสื่อว่าวงการมายานี่มันมายาจริงๆ แล้ว ยุคทองดังกล่าวเกิดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่นาน ยังมีเรื่องสงครามเย็นและความหวาดระแวงต่อ “ผีคอมมิวนิวสิสต์” ซุปตาร์ของหนังเอพิคยิ่งใหญ่ถูกกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า Future ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเขียนบทภาพยนตร์ที่ถูกนายทุนเอาเปรียบ ลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ ประเด็นนี้ถูกนำเสนอในแนวบ๊องๆ เป็นตลกร้ายที่ต้องอาศัยการตีความ แต่นี่คือสไตล์โคเอน

หนังเข้าใจยากบอกไม่ถูกว่าสนุกหรือไม่สนุก คนชอบดูหนังจะชื่นชอบเพราะโปรดักชั่นสวย เห็นเงาของหนังดังในอดีตหลายเรื่องที่ถูกนำมาล้อเลียน บทสนทนา “คม” แต่เป็นหนังที่ไม่น่าจะใช้รสนิยมคนไทย อยากดูต้องรีบไปเพราะคงเข้าฉายไม่นาน

Zootopia เป็นหนังแอนิเมชั่นที่ดีงามที่สุดเรื่องหนึ่งที่เคยดูมา ทั้งเนื้อหาสาระ ตัวละคร ภาพ เพลง เสียงพากย์ บทสนทนา และแนวคิดที่นำเสนอ ล้มล้างความคิดเดิมๆ ที่มักมองว่า แอนิเมชั่นเป็นหนังที่สร้างขึ้นสำหรับเด็กๆ Zootopia เป็นหนังที่ทุกเพศทุกวัยดูได้สนุก แต่ระดับของการรับรู้จะแตกต่างกัน เด็กๆ อาจเห็นแต่ภาพกระต่ายสาวผู้แจ่มใสมีชีวิตชีวา มีความมุ่งมั่นที่จะทำตามความฝัน นั่นคือการเป็นตำรวจของมหานครซูโทเปีย ซึ่งดูแล้วน่าจะสร้างกำลังใจให้เด็กๆ ไม่ย่อท้อที่จะทำตามความฝันของตน หรือเห็นเรื่องราวมิตรภาพระหว่างสัตว์สองชนิดที่ตามสัญชาตญาณเดิมแล้ว เป็นศัตรูกัน คือระหว่างสุนัขจิ้งจอกและกระต่าย

ส่วนผู้ใหญ่จะได้เห็นประเด็นที่ลึกและคมกว่านั้น ภาพจำลองความฝันของมนุษย์ที่จะอยู่ในโลกอุดมคติที่ทุกชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขและ “Anyone can be anything” ชื่อ “ซูโทเปีย” ล้อมาจาก “ยูโทเปีย” หนังสือที่เซอร์โทมัส มอร์ เขียนปี 1516 เป็นเรื่องของเกาะในจินตนาการ ที่ผู้คนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ไม่มีโจรผู้ร้ายหรือสิ่งชั่วร้าย แต่ยูโทเปียมาจากภาษากรีก ที่นอกจากจะหมายถึงเมืองที่ดีแล้ว ยังหมายถึงเมืองที่เป็นไปไม่ได้หรือไม่มีจริง

ฉันใดฉันนั้น ซูโทเปีย มหานครแสนสวยแสนสนุกที่ดูเหมือนว่า สัตว์นักล่าและผู้ถูกล่าอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข และ “Anyone can be anything” จึงเป็นแต่เพียงภาพลวงตา ในเมืองนี้ยังคงมีการแบ่งชนชั้น เหยียดเพศ เหยียดเผ่าพันธุ์ มีความหวาดระแวง มีอคติ ประหนึ่งคลื่นใต้น้ำที่รอวันประทุ กระต่ายสาวจอมแหกกฎ จูดี้ ฮอปส์ (พากย์เสียงโดย เจนนิเฟอร์ กู๊ดวิน) แม้สรีระจะกระจ่อยร่อย แต่ฝึกฝนตนเองอย่างหนัก จนเรียนตำรวจจบด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง ถูกมอบหมายงานแค่ตำรวจจราจร สัตว์ที่เป็นเหมือนพลเมืองชั้นนำยังคงเป็นสัตว์ใหญ่ เช่น สิงโตเป็นนายก ควายแอฟริกาเป็นสารวัตร ตำรวจที่ได้รับความไว้วางใจให้ทำคดีใหญ่จะเป็นสัตว์ประเภทควายป่า แรด ช้าง กระทิง สัตว์อ่อนแอเช่น แกะเป็นได้เพียงเลขาหน้าห้องที่มักถูกมองข้าม ส่วนสุนัขจิ้งจอก นิค ไวลด์ (พากย์โดยเจสัน เบทแมน) ก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นจอมเจ้าเล่ห์ กระต่ายสาวจูดี้จับมือกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นิค สืบคดีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่หายไป คดีที่แม้แต่สัตว์ชั้นผู้นำในสังคม ก็ยังหาร่องรอยไม่ได้

ซูโทเปียมีเนื้อหาที่ลึกซึ้งและแยบคายเกินหนังแอนิเมชั่น คนเราไม่ควรจะมีอคติหรือตัดสินคนจากเชื้อชาติ ดิสนีย์ให้ข้อคิดผู้ชม ผ่านตัวละครที่เป็นสัตว์หลากพันธุ์อย่างน่าสนใจ รูปลักษณ์ที่ปรากฏกับพฤติกรรมและความคิด อาจเป็นคนละเรื่องกัน กระต่ายจูดี้รูปร่างบอบบางแต่เธอเป็นตำรวจที่เก่งโดยใช้สมองไม่ใช่พละกำลัง เผ่าพันธุ์จิ้งจอกไม่จำเป็นต้องเจ้าเล่ห์ เหมือนคนคิดต่างหรือคนต่างศาสนาไม่ใช่จะเป็นคนเลวไปทั้งหมด หนังมีเนื้อหาหักมุมย้ำให้ผู้ชมได้คิดว่า คนเราไม่ควรด่วนตัดสินใจใครจากรูปกายภายนอก

หนังสนุกพร้อมมุขตลกและเนื้อหาดีๆ มากมาย เพลงก็ไพเราะโดยเฉพาะเพลง Try Everything ที่ชาคิลาร้อง และที่น่ารักมากๆ อีกอย่างคือการนำแบรนด์ดังต่างๆ มาล้อเลียนในเมืองซูโทเปีย เช่นมีป้าย DNKY ล้อจาก DKNY, Bearberry จาก Burberry ล้อ Nike ที่มีสโลแกนว่า Just Do It เป็น Just Zoo It หรือร้านกาแฟที่นี่ชื่อ Snarlbucks ล้อ Starbucks เป็นต้น

ที่มา  มติชนออนไลน์