Bilberry
2014-10-24 18:20:25
Advertisement
คลิก!!!

 

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นักบินอังกฤษมักจะทานแยม Bilberry ก่อนออกไปทิ้งระเบิด ซึ่งเชื่อกันว่าสารที่พบใน Bilberry จะช่วยเพิ่มความสามารถในการมองเห็นในที่มืดได้ Bilberry จึงเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่นักวิจัยทั่วโลกให้ความสนใจไม่น้อยไปกว่าโสม แป๊ะก๊วย ฯลฯ 

สารสำคัญที่พบในพืชชนิดนี้ ได้แก่ Anthocyanosides1 (เป็น Bioflavonoids), glucoquinine, tannins, วิตามินเอ , วิตามินซี ฯลฯ จากงานวิจัยพบว่า สารในกลุ่ม Anthocyanosides ช่วยป้องกัน retina จากการถูกทำลายโดยกระบวนการ Oxidation ที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย และยังช่วยสร้าง rhodopsin ซึ่งเป็นสารสีที่พบได้ในส่วนนอกของ retinal rod นอกจากนี้ยังช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจกอีกด้วย2,3 Anthocyanosides ที่พบใน Bilberry เป็นที่รู้จักมากขึ้นเนื่องจากมีส่วนช่วยทำให้ประสาทตาดีขึ้น และยังทำให้การมองเห็นชัดเจนขึ้นโดยเฉพาะในตอนกลางคืน

นอกจาก Anthocyanosides แล้วยังพบสาร Tannins จำนวนมากในสารสกัด Bilberry สาร Tannin บางชนิดมีฤทธิ์ฝาดสมาน ฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย และไวรัส
คุณสมบัติอื่น ๆ ของ Bilberry ที่มีการรายงานจนถึงปัจจุบัน มีดังต่อไปนี้ :-

ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับหลอดเลือด และลดโอกาสการเกิดสภาวะหลอดเลือดแข็งตัว หรือหลอดเลือดเปราะ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหลายชนิด 

ช่วยลดความหนืดและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด 

ประกอบด้วยสารหลายชนิดที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านการเกิดปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น (Antioxidant) จึงลดการเสื่อมของเซลล์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกายได้

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ Bilberry มีวางจำหน่ายในท้องตลาดหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของ แคปซูล, เม็ด, สารสกัดเข้มข้น, แยม, ชาชง, ฯลฯ ขนาดที่แนะนำให้รับประทาน คือ วันละ 240 – 600 มก4 ของสารสกัดที่มี Anthocyanosides 25% ยังไม่พบอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง จากการใช้ Bilberry แต่การรับประทานเกินขนาดที่กำหนด อาจทำให้อาเจียนได้


ที่มา  http://siamdara.com/

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X