สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ฟาร์มเนื้อสุนัขของนายกง อินยัง ซึ่งเปิดมานานนับสิบปี มีสุนัขเกือบ 200 ตัว และมีหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งถูกเลี้ยงให้กลายมาเป็นอาหารโดยเฉพาะ และอาศัยอยู่แต่ในกรงตั้งแต่เกิด ในที่สุดฟาร์มแห่งนี้ถูกปิดตัวลงเมื่อวานนี้ (27 เม.ย. 59) โดยสมาคมมนุษยธรรมนานาชาติ หรือ เอชเอสไอ นายกง เปิดเผยว่า ในอดีตผู้คนรับประทานสุนัขเพราะไม่มีอะไรให้กิน แต่ทุกวันนี้ หนุ่มสาวรุ่นใหม่ไม่รับประทานสุนัขกันแล้ว และมันกลายมาเป็นเรื่องแปลกสำหรับผู้คน

ทั้งนี้ เชื่อกันว่า ชาวเกาหลีใต้บริโภคเนื้อสุนัขปีละประมาณ 1.5- 2.5 ล้านตัว แต่อุตสาหกรรมการทำฟาร์มเนื้อสุนัขได้รับความนิยมลดลง โดยโพลสำรวจความคิดเห็นเมื่อปีที่แล้ว ระบุว่า มีเพียงร้อยละ 20 ของผู้ชายวัย 20 ปีเศษเท่านั้นที่รับประทานเนื้อสุนัขในปีที่ผ่านมา

ส่วนเมื่อปีที่แล้ว หน่วยงานเอชเอสไอ ช่วยเหลือสุนัขได้ถึง 225 ตัว และปิดฟาร์มเลี้ยงเนื้อสุนัขไป 4 แห่ง ซึ่งสุนัขส่วนใหญ่ถูกส่งไปยังสหรัฐฯและแคนาดา เพื่อหาผู้รับเลี้ยงต่อไป ส่วนเจ้าของฟาร์มจะได้รับเงินมากถึง 60,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2,160,000 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนสุนัขที่เลี้ยงเอาไว้ ซึ่งเงินจำนวนนี้จะถูกใช้เป็นต้นทุนสำหรับทำไร่และฟาร์มอื่นๆต่อไป ขณะที่ผู้จัดการการรณรงค์โครงการดังกล่าว หวังว่าการที่เกาหลีใต้กำลังเตรียมจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 2018 นั้น อาจจะเป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นได้

ที่มา  http://www.springnews.co.th/global/288977