|
เมื่อ 7 ก.พ. เอเอฟพีรายงานว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ประชุมฉุกเฉินที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตามคำร้องของทางการเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น หลังเกาหลีเหนือยิงจรวดพิสัยไกลปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรของโลก เมื่อเวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ท่ามกลางการประณามของชาติมหาอำนาจ ซึ่งเชื่อว่าเกาหลีเหนือใช้การส่งดาวเทียมบังหน้าโครงการทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกล โดยเกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากทางการเกาหลีเหนือเลื่อนกำหนดปล่อยดาวเทียมจากเดิมระหว่างวันที่ 8-25 ก.พ. เป็น 7-14 ก.พ.
นายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่าการยิงจรวดของเกาหลีเหนือถือเป็นการกระทำยั่วยุ และเข้าข่ายละเมิดมติของยูเอ็นเอสซี พร้อมระบุว่ายูเอ็นจะเร่งประสานงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดความตึงเครียด และปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีให้ได้ เช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกา โดยนายจอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่าถึงเวลาแล้วที่จะประชาคมโลกจะต้องหาข้อสรุปถึงมาตรการรับมือกับโครงการนิวเคลียร์ และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นความท้าทายที่ไม่อาจยอมรับได้ในความพยายามทำลายสันติสุขและความมั่นคงของโลก
ด้านประธานาธิบดีปาร์ก กึนเฮ ผู้นำเกาหลีใต้ แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์เรียกร้องให้ยูเอ็นตอบโต้การยิงจรวดของเกาหลีเหนืออย่างเด็ดขาด และรวดเร็ว หลังเพิ่งทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ไฮโดรเจน หรือเอช-บอมบ์ เมื่อต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน นางหัว ชุนอิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน กล่าวว่ารู้สึกผิดหวังกับการยิงจรวดของเกาหลีเหนือ และขอให้ทุกฝ่ายรับมืออย่างสงบสุข
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือเริ่มโครงการทดสอบขีปนาวุธตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1970 โดยยิงขีปนาวุธแบบสกั๊ด-บี ของสภาพโซเวียต เมื่อปี 2527 ก่อนขยายโครงการทดสอบนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกในปี 2549 และอีก 3 ปีให้หลังยิงจรวดพิสัยไกลโดยอ้างว่าเพื่อส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศ จากนั้นในปี 2555 ทำการยิงจรวดส่งดาวเทียมอีกครั้ง ก่อนละเลยคำเตือนของยูเอ็นเอสซี และยิงจรวด
ที่มา ข่าวสดออนไลน์