ที่ไหนก็หมดเกลี้ยง! ปรากฏการณ์ "กูลิโกะ" ปัง เขย่าเจ้าตลาด 1.2 หมื่นล้าน
2016-02-06 20:57:46
Advertisement
คลิก!!!

กระแสความแรงของไอศกรีม "กูลิโกะ"ยังคงฮิตติดลมบนไม่สร่างซา เพราะทันทีที่ลงสินค้าทั้ง 4 แบรนด์ได้แก่ "พาลิตเต้" "ไจแอนด์โคน""พาแนปป์" และ "เซเว่นทีน ไอซ์" ตามร้านสะดวกซื้อในกรุงเทพฯและปริมณฑลอย่างเป็นทางการเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ก็เกิดปรากฏการณ์ตู้แช่ "เกลี้ยง" แทบทุกจุดจำหน่าย

จนมีกระแสตามล่าหาพิกัดตู้แช่ไอศกรีมสัญชาติญี่ปุ่นแบรนด์นี้คึกคักไปทั้งโลกโซเชียลทำเอาตู้ของคู่แข่งเจ้าเก่าอย่าง "วอลล์" หรือ"เนสท์เล่" แอบเหงาหงอยไปชั่วขณะ

สอดคล้องกับการสำรวจของผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า ตู้แช่กูลิโกะในร้านสะดวกซื้อหลาย ๆ จุด เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อาทิ แฟมิลี่มาร์ทหรือแม็กซ์แวลู พบว่าสินค้าหมดทุกที่ โดยบางสาขาหมดตั้งแต่ช่วงเช้า หลังลงไอศกรีมกูลิโกะ 13 ลัง (ลังละ 24 ชิ้น) ช่วง 5 ทุ่มของคืนก่อนหน้า โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น นักเรียนนักศึกษา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ร้านให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าจะมีสินค้าทยอยเข้ามาเป็นระยะ ๆ

การตอบรับที่เกิดขึ้นในเวลานี้อาจทำให้ "เอซากิ กูลิโกะ" บริษัทแม่จากประเทศญี่ปุ่นใจชื้นมากขึ้น หลังจากที่ตั้งบริษัทลูก "กูลิโกะ โฟรเซ่น(ประเทศไทย)" ลุยธุรกิจไอศกรีมในไทยอย่างเต็มรูปแบบในเวลาที่สภาพเศรษฐกิจกำลังซื้อไทยไม่ได้คึกคักมากนัก

ก่อนหน้านี้ "คิโยทะคะ ชิมะโมริ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท กูลิโกะ โฟรเซ่น (ประเทศไทย) จำกัด ได้เล่าถึงกลยุทธ์ในฐานะน้องใหม่ของตลาดไอศกรีมในไทยว่า กูลิโกะจะสร้างความแตกต่างกับคู่แข่งที่แข็งแรงในตลาดอย่างวอลล์ ด้วยการนำเสนอสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในแบบที่ผู้เล่นเดิมยังไม่ค่อยมี

ดังนั้น ไอศกรีมที่กูลิโกะยกทัพมาเจาะตลาดเมืองไทย ทั้งในรูปแบบแท่ง โคน ถ้วย จึงมีคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน ขายในช่วงราคา 20-35 บาท หนีจากช่วงราคาส่วนใหญ่ในตลาดที่มีราคาต่ำกว่า 15 บาทถึง 55% ซึ่งหมายถึงไอศกรีมที่อยู่ในช่วงราคาสูงยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก หากราคานั้นสอดคล้องกับคุณภาพและรสชาติที่ผู้บริโภคจะได้รับ

"เราเน้นเจาะตลาดกลาง-บน มองง่าย ๆ คือไอศกรีมกูลิโกะพรีเมี่ยมกว่าแพนเดิลป็อปแต่เข้าถึงได้ง่ายกว่าแม็กนั่ม"

สำหรับที่ญี่ปุ่น กูลิโกะมีไอศกรีมอยู่กว่า 200 รายการ ซึ่งในอนาคตอาจพิจารณานำตัวเลือกที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคไทยมาทำตลาดเพิ่มเติม แต่ระยะแรกนี้จะโฟกัสที่สินค้าทั้ง 8 รายการของ 4 แบรนด์นี้ก่อน

อย่างไรก็ตาม ไอศกรีมกูลิโกะที่จำหน่ายในไทยได้จ้างบริษัท จอมธนา จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายไอศกรีม "ครีโม" ผลิตในประเทศภายใต้การควบคุมสูตรและคุณภาพโดยกูลิโกะ โฟรเซ่น (ประเทศไทย) เพื่อให้สามารถทำราคาแข่งขันกับตลาดได้ ขณะที่การตั้งโรงงานผลิตเองในไทยนั้นยังไม่มีแผนในตอนนี้

ส่วนภารกิจสำคัญในเวลานี้คือการสร้างการรับรู้ไปยังผู้บริโภค โดยมีคีย์แมสเสจคือ สื่อสารให้รู้ว่าไอศกรีมกูลิโกะมีจำหน่ายในไทยแล้ว โดยเฉพาะการสื่อสารผ่านสื่อออนไลน์เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ ที่ชอบทดลองสิ่งใหม่ ๆ ควบคู่กับการใช้สื่อวิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ (ฟรีก๊อบปี้) สื่อนอกบ้าน สื่อในร้านค้า โดยมี "พิมฐา" เน็ตไอดอลคนดังเป็นพรีเซ็นเตอร์ 

ตลอดจนมีหน่วยรถวากอนตระเวนแจกชิมและจำหน่ายสินค้าตามโรงเรียน มหาวิทยาลัย ห้างสรรพสินค้าที่มีโซนฟู้ดทรัก ฯลฯ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น

การสื่อสารจะมุ่งเป้าไปในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลเป็นหลัก ตามการกระจายตัวของตู้จำหน่ายที่ยังอยู่ระหว่างขยายพื้นที่ทั้งในโมเดิร์นเทรดและเทรดิชั่นนอลเทรด แต่ในช่วงกลางปีนี้อาจเริ่มขยับไปตั้งตู้ตามหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างรอความพร้อมเรื่องการผลิตและขนส่งระยะยาว มีเป้าหมายเพิ่มตู้แช่ให้ครบ 1 หมื่นตู้ กระจายตัวอยู่ในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดภายในปี 2563 ที่จะทำยอดขายประมาณ 800-900 ล้านบาท และจะทำให้กูลิโกะมีส่วนแบ่งในตลาดไอศกรีมกว่า 10% ภายใน 5 ปีต่อจากนี้

ทั้งนี้ การที่เอซากิ กูลิโกะ บริษัทแม่จากญี่ปุ่น เข้ามาลงทุน 100% ตั้งบริษัทกูลิโกะ โฟรเซ่น (ประเทศไทย) ขึ้นมาเมื่อมิถุนายน 2558 ถือเป็นการลุยธุรกิจไอศกรีมนอกญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก หลังจากแอบมาศึกษาตลาดเมื่อปี 2557 ด้วยการกระจายตู้แช่ 70 ตู้ในร้านค้าละแวกโรงงานกูลิโกะย่านบางกะดี 3 เดือน ซึ่งได้การตอบรับที่ดีมาก

สำหรับตลาดไอศกรีมในไทยมูลค่า 12,800 ล้านบาท (อ้างอิงข้อมูลจากยูโรมอนิเตอร์) ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี แม้ปีที่ผ่านมาจะค่อนข้างทรงตัวตามสภาพเศรษฐกิจ แต่ไทยยังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจ ด้วยเป็นประเทศที่สำคัญในอาเซียน และมีอากาศร้อนเอื้อต่อการบริโภคไอศกรีมได้ตลอดทั้งปี 

และที่ "กูลิโกะ" เปิดตัวได้ "ปัง" ขนาดนี้ อาจทำให้รุ่นพี่ต้องเตรียมการรับน้องขนานใหญ่ ท่ามกลางบรรยากาศการแข่งขันที่ดุเดือดจนทะลุจุดเยือกแข็ง!

 
 
ที่มา  http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1454725592
 
 
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X