Summer in Japan เน้นกิน Day 6 : Blue Pond, Tomita Farm, Furano Delice, Sapporo Ramen Kyowakoku
2015-09-04 14:55:26
Advertisement
คลิก!!!

สวัสดีครับ กลับมาพบกับรีวิวตอนที่ 5 Day 6 ครับ

วันนี้ก็จะพาไปเที่ยวฟุราโนะ ดูทุ่งลาเวนเดอร์ พาไปกินขนมอร่อยๆ ที่ Furano Delice
แล้วกลับเข้าเมืองซัปโปโรไปกินราเม็งครับ

ถ้าพร้อมแล้วตามผมมาเลยครับ


วันนี้ออกจากโรงแรม ตี 4 กว่า ขับรถเช่าไปเที่ยว Blue Pond ก่อนครับ แล้วจะได้ไป Farm Tomita เช้าๆ คนจะได้ไม่เยอะ ถ่ายรูปจะได้ไม่ร้อน
(ที่ญี่ปุ่นหน้าร้อนนี่ สว่างเร็วครับ เร็วมากด้วย)
GPS เช่าพร้อมรถ มีประโยชน์มากๆ ครับ แค่ใส่ Map Code หรือเบอร์โทรก็ได้ละ
ทางระหว่าง Asahikawa กับ Furano ขับง่ายครับ ขับตรงตลอด
(ผมเป็นคนขับรถครับ เลยไม่มีภาพบรรยากาศระหว่างทาง)
พอเข้าเขต Biei ก็เลี้ยวซ้ายเพื่อไป Blue Pond ครับ
มีลานจอดรถกว้างเหมือนกัน แล้วเดินเข้าไปอีกนิดหน่อย


ขนาดมาเช้า คนก็ยังมาเที่ยวกันพอสมควรนะครับ แสดงว่าทุกคนคิดเหมือนกัน


น้ำสีฟ้าสวยดีครับ แต่อยากกลับมาอีกที ตอนมีหิมะ น่าจะสวยกว่านี้


ท้ายน้ำครับ ไม่ค่อยมีคนถ่ายเนาะ




ตามแผนคือว่าจะเก็บ Patchwork Road ให้หมด แต่เนื่องจากใช้เวลาที่ Blue Pond นานเกินไป 
เลยได้แค่ Mild Seven Hills


เห็นเวลาไม่เหลือแล้ว เลยรีบขับรถไป Tomita Farm ครับ กลัวคนเยอะ
ระหว่างทางเจอสวนอีกเยอะเลย ก็บอกเพื่อนร่วมทริปว่า เดี๋ยวค่อยกลับมาเก็บ

พอถึง Tomita Farm คนเยอะมาก รถเยอะมาก รถทัวร์ก็เยอะมาก ทั้งๆ ที่พึ่งถึงเวลาเปิดเอง
บันไดทางขึ้นเต็มไปด้วยดอกไม้




เนื่องจากข้าวเช้ายังไม่ได้กินครับ หิวกันละ แต่มาถึงนี่ต้องลองเมลอนก่อนเนาะ




หวาน อร่อยดีครับ แต่มีความรู้สึกว่า ที่มาเป็นครึ่งลูก กับเป็นชิ้น รสชาติไม่เหมือนกันครับ
รู้สึกว่าครึ่งลูกหวานกว่า


ฝั่งที่ขายเมลอนก็อยู่อีกด้าน




พอมีแรงละ เดินไปสวนกันครับ


ร้านอาหารซ้ายมือ


ขวามือร้านข้าวโพด ไม่ได้ลองอ่ะ ลืม


ผมไปปลายเดือนสิงหาละ ทำให้ลาเวนเดอร์โรยไปเยอะแล้วครับ น่าเสียดาย


ฟ้าหม่นๆ หน่อย แต่ดีที่ฝนไม่ตกครับ







สีซีดไปหน่อยนะครับ ขออภัย


อีกด้านนึงดอกไม้สีสดหน่อย
















ดอกไม้สวยๆ เยอะมากครับ คนก็เยอะมากเช่นกัน

ไม่ได้ถ่ายคู่กับรถเลย


ไปดูร้านของฝากกันครับ




สินค้าเกี่ยวกับลาเวนเดอร์เยอะมากครับ แต่ไม่ได้ซื้อเลย 555










จากนี้เราไปต่อกันที่ Cheese Factory ครับ




ด้านในทำเป็นข้อมูลเรื่องชีสต่างๆ






ของขายก็ผลิตภัณฑ์จากชีส












มีให้ลองชิมด้วย คนมุงใหญ่เลยตะกี้

มาแล้ว ก็ต้องลองพิซซ่าซะหน่อย




หยอดเหรียญกดสั่งเมนูเอานะครับ 


แล้วมายื่นให้ที่เคาท์เตอร์ครับ


เราก็หาที่นั่งรอ


หรือจะนั่งข้างนอกก็ได้


รอครับ




ได้มาแล้ว สวยงามน่ากิน แต่สำหรับผม รสชาติธรรมดาๆ นะครับ (ถ้ามีเนื้ออาจจะดีมากก็ได้ 555)


คาวแล้ว ก็ต่อด้วยของหวานที่มุ่งมั่นจะมากินให้ได้ครับ ร้าน Furano Delice
ร้านอยู่บนเนิน ถ้าไม่ได้ขับรถมาเอง ก็ไม่รู้จะมายังไงเหมือนกันนะครับ Taxi อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดี


ขึ้นไปตัวร้านกัน


ร้านสวยงาม น่านั่ง


ในร้านมีของขายมากมาย










กลับมาสนใจเค้กมากมายในตู้ต่อ






















ตัวเด่นดังของที่นี่








สั่งแล้ว หาที่นั่งกัน




น้ำแข็งเป็นรูปหัวใจด้วย


ได้มาแล้ว


น่ากินมากๆ




ตัวนี้ตอนแรกคนสั่งโดนประนามว่าแป้งเยอะไปมั้ย
แต่เอาจริงๆ แป้งนุ่มเบามากนะครับ อร่อยเลยล่ะ


ตัวนี้เหมือนชูครีมเลยครับ




ตัวนี้คล้ายของ LeTao
อร่อยพอๆ กันนะ




อันนี้ช็อคโกแล็ต ตัดรสหน่อย




อันนี้โรล ไส้พุดดิ้งครับ


อันนี้สวยดี


ไส้ข้างในก็เป็นคัสตาร์ด


พุดดิ้งบ้าง


ฟักทองแปลกๆ แต่รสปกติ ok ครับ

สรุปร้าน Furano Delice นี่ผมชอบมากๆ ครับ ติดที่ว่าเดินทางมายากไปหน่อย น่าเสียดาย

กินเสร็จแล้วก็คิดครับ ว่าจะไปไหนต่อ จริงๆ อยากกลับไปสวนที่เราขับรถผ่านๆ กันมา
แต่...คนขับรถป่วยครับ (ผมเอง)
คือได้นอน 2 ชั่วโมง ขับรถตลอดทาง แล้วมาเจออากาศร้อน เจอแดด เจอฝนปรอยๆ อีก
ให้คนอื่นขับแทนก็ไม่ได้ เพราะไม่มีใบขับขี่สากลกัน เดี้ยงเลยครับ
ก็เลยหาที่เที่ยวใกล้ๆ แทน
ไปโรงงานไวน์กันครับ
GPS พาขึ้นมาจอดซะสูงเลย


แต่มีบันไดเดินลงไปโรงงานไวน์ ก็กะว่าจะเดินลงไปชิวๆ 
แต่เพื่อนร่วมทริปคนนึงบอกว่า ถ้าจอดตรงนี้ เดี๋ยวตอนกลับเราต้องเดินขึ้นบันไดนะ!! (ซึ่งสูงมาก)
ทุกคนเลยเห็นพ้องกันว่า ขับรถลงไปจอดหน้าโรงงานเลยดีกว่า


ไม่เสียค่าเข้าครับ
เข้ามาแล้วให้เลือก จะไปชั้นบน หรือชั้นล่างก่อน


ชั้นล่าง เป็นที่เก็บไวน์




ชั้นบน เป็นแสดงความรู้เกี่ยวกับไวน์












ที่วางขวดไวน์ 


เข้าฟรียังไม่พอ ชิมฟรีอีก
หยิบแก้วแล้วมาทางนี้เลย


แดง ขาว แบบไม่มีแอลกอฮอล์ เลือกเลย


ผมไม่เลือกครับ ชิมหมด 555


แน่นอนว่า ต้องมีร้านขายไวน์อยู่แล้ว












เสร็จแล้วก็มาหาที่เที่ยวต่อไปครับ ปรากฏว่า ที่อื่นๆ อยู่ไกล ขับรถไป น่าจะกลับมาไม่ทันรถไฟกลับซัปโปโรครับ
จะไปหาอะไรทาน ร้านก็น่าจะปิดช่วงบ่าย เพราะเป็นวันธรรมดา
ก็เลยตกลงกันว่า จะไปคืนรถที่สถานี Furano ก่อน แล้วหาร้านอาหารแถวสถานีกินกัน
พอถึงแถวสถานี Furano ก็เห็นว่ามีงานเทศกาลพอดี
ก็เลยแวะดูครับ


ตอนแรกไม่รู้คือเทศกาลอะไร
แต่ไปเจอในหนังสือบนรถไฟของ JR ว่าคือ Kokkai Heso Matsuri (Furano Belly Button Festival)


เด็กเพียบ


เวทีก็มีเด็กมาเต้น




ระบำหน้าท้องก็มา


อันนี้ต้องมี




เทศกาลจะขาดของขายไม่ได้


แล้วก็ไปคืนรถแถวสถานี Furano ครับ (ใกล้กันมาก)
แล้วก็นั่งขบวน Lavender Express กลับซัปโปโรกันครับ (รถดีที่วิ่งตรงไปซัปโปโร แต่ผมว่าเก่าๆ แฮะ)

คืนนี้ที่ซัปโปโร พักที่โรงแรม Route inn ครับ ที่เคยมาพักคราวก่อน
ใกล้สถานีมากๆ สะดวกมากๆ


เก็บของเรียบร้อยก็ไปหาอะไรกินกันครับ
มาญี่ปุ่นยังขาดราเม็งไป ก็เลยไปที่ Sapporo Ramen Kyowakoku ครับ
ศูนย์รวมราเม็งทั่วฮอกไกโด
รายละเอียดตามนี้นะครับ
http://223.27.200.4/www.sapporo-esta.jp/page/ramen/images/information/ramen_pamphlet.pdf

ไปที่ห้าง ESTA ชั้น 10 เลยครับ


ร้านหลากหลายให้เลือกครับ
















เลือกร้านที่ 8 ครับ Baikouken


มีคนพอสมควร


เมนู






เมนูพิเศษช่วงนี้


จริงๆ อยากสั่งเมนูพิเศษ แต่คนในทริปเลือกไปแล้ว ก็เลยเลือกสั่งอันนี้ เพิ่มหมู
เส้นเยอะมากอ่ะครับ กินไม่หมด ขอโทษด้วย


ของคนอื่นๆ 




อันนี้เมนูพิเศษ


สำหรับผม ผมเฉยๆ กับร้านนี้นะครับ อาจจะเพราะว่าผมไม่ค่อยปลื้มอาหารเส้นเท่าไหร่นัก
แต่ราเม็งที่ถูกปากผมที่สุด คงเป็น คิวชู จังกะระ ที่เคยกินที่อากิบะ อันนั้นถูกปากมากๆ

รีวิว Day 6 จึงขอจบเพียงเท่านี้ครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะครับ
ถ้ามีอะไรผิดพลาดไป ขออภัยด้วยนะครับ

ไว้พบกันใหม่รีวิวหน้า Day 7 ครับ ขอบคุณครับ

 

ขอขอบคุณที่มา  http://pantip.com/topic/34070031

 

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X