ไปป์บอมบ์เต็มห้อง จับแล้ว1 หนุ่มตุรกีทีมบึ้มกรุง ฝังตัวหนองจอก2เดือน บินจากเมืองอิสตันบูล
2015-08-30 10:06:13
Advertisement
Pyramid Game

ผ่านเข้าเวียดนาม-ลาว เป็นขบวนการขนอุยกูร์ สมยศยันมีร่วมนับสิบ ล็อกเพิ่มแท็กซี่พัวพัน

 

จนมุมแล้ว 1 แขกขาว-ร่วมทีมบึ้มกรุง ตร.ลุยค้นห้องพักย่านหนองจอก พบอุปกรณ์ประกอบระเบิดเพียบ ทั้งเสื้อเปื้อนสารระเบิดทีเอ็นทีและยูเรีย สายไฟฟ้า ถังเคมี ท่อเหล็ก พาสปอร์ตประเทศหนึ่งอีกอื้อ ตรวจสอบพบเปิดไว้ 5 ห้อง โดยมีหนุ่มตุรกีเป็นผู้เช่าไว้ตั้งแต่ม.ค.57 สมยศเชื่อโยงบึ้มราชประสงค์-สาทร ก่อนแจ้งข้อหามีระเบิดในครอบครอง แฉมีร่วมขบวนการถึง 10 คน พาสปอร์ตนับร้อยเล่ม-เป็นของปลอมอื้อ กำลังเร่งตรวจสอบหาประเทศที่มา ย้ำไม่ใช่ก่อการร้าย แต่เป็นปมเจ็บแค้นแทนพี่น้องเพื่อนฝูง จากนั้นคุมตัวชายต่างชาติไปเค้นสอบที่มทบ.11 รับบินมาจากตุรกี มาลงเวียดนามผ่านสปป.ลาวแล้วเข้าไทย ก่อนพักอยู่ย่านหนองจอก ทำหน้าที่จัดหาสิ่งของอุปกรณ์ให้ทีมบึ้ม โดยอยู่มา 2 เดือนแล้ว ชี้เป็นขบวนการขนคน อุยกูร์ด้วย จนท.ยังหิ้วแท็กซี่มาสอบพบใช้มือถือเชื่อมโยง-แต่ยังปฏิเสธ


จาก เหตุระเบิดกรุง 2 จุด บริเวณศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ บริเวณท่าเรือสาทร โดยกล้องวงจรปิดจับภาพชายชาวต่างชาติต้องสงสัยใส่เสื้อสีเหลือง มือวางระเบิดที่ราชประสงค์ ส่วนที่บริเวณท่าเรือสาทรนั้น กล้องจับภาพชายชาวเอเชียหน้าตี๋ ใส่เสื้อสีฟ้า ขณะเดียวกัน สื่อต่างประเทศวิเคราะห์ว่าอาจเป็นฝีมือ "เกรย์ วูล์ฟส์" หรือหมาป่าสีเทา กลุ่มชาตินิยมสุดโต่งในประเทศตุรกี สาเหตุไม่พอใจรัฐบาลไทยส่งชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์กลับไปให้ทางการจีน ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับชายเสื้อสีฟ้า ผู้ต้องสงสัยวางระเบิดท่าเรือสาทร พร้อมเร่งติดตามตัว 3 ชาวอุยกูร์สัญชาติตุรกี หลังหลบหนีจากสถานที่ควบคุมตัว ตม.สระแก้ว ตามที่เสนอข่าวไปเป็นลำดับแล้วนั้น


สมยศย้ำทำเป็นขบวนการ


เมื่อ วันที่ 29 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เรียกพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ส. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รองผบช.น. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรไชยเดช ผบก.น.6 และตำรวจชุดคลี่คลายคดีระเบิดทั้ง 2 จุด ร่วมประชุมหารือและสรุปความคืบหน้าคดี


พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจได้ใช้วิธีการให้ตำรวจนอกเครื่องแบบ ร่วมกับอาสาสมัครที่มีความรู้ความชำนาญด้านภาษา ลงพื้นที่แฝงตัวในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งในแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งที่พักอาศัยของชาวต่างชาติ เพื่อหาข่าวและข้อมูลของคนร้ายที่ก่อเหตุระเบิด การสอบสวนพยานทุกคน ตลอดจนสรุปความคืบหน้าในการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทั้งของภาครัฐและเอกชน การนำอุปกรณ์พิเศษที่ได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนจากต่างประเทศและบริษัท เอกชนต่างๆ ผลเป็นที่น่าพอใจว่าจากความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการคลี่คลายคดีของเจ้า หน้าที่ ทำให้คดีมีความคืบหน้าไปมาก จนทำให้สามารถทราบถึงขบวนการและกลุ่มผู้ต้องสงสัย ที่มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมกันก่อเหตุ โดยมีความชัดเจนมากขึ้นว่าคนร้ายน่าจะมีหลายคน ทำเป็นขบวนการและแบ่งหน้าที่กันทำ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนและติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ โดยเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและชาวต่างชาติ โดยมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะจับกุมคนร้ายได้ในเร็วๆ นี้


ลุยค้นห้องพัก-จับหนุ่มต่างชาติ


ต่อ มาเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตร รองผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บชน. พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.อนรรฆ ประสงค์สุข รองผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.อีโอดี และกำลังทหารจากกรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ เข้าตรวจสอบภายในห้องพัก ภายในพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ตั้งอยู่เลขที่ 134/5 ปากซอยเชื่อมสัมพันธ์ 11 แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กทม. หลังสืบทราบมีผู้ต้องสงสัยที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดบริเวณแยก ราชประสงค์และท่าเรือสาทร มาเปิดห้องพักรวม 5 ห้องในอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว ประกอบด้วย ห้องพักเลขที่ 404 409 410 411 และ 412


จากการ ตรวจค้นได้ควบคุมตัวชายชาวต่างชาติ ลักษณะแขกขาว อยู่ภายในห้องเลขที่ 412 ขณะเดียวกันยังตรวจค้นพบของกลาง เป็นอุปกรณ์และวัตถุที่ใช้สำหรับประกอบระเบิดจำนวนมาก โดยเฉพาะลูกปรายแบบกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5 ซ.ม. ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุวางระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์และท่าเรือ สาทร รวมทั้งฝักแคหรือตัวจุดชนวนระเบิด และเสื้อเชิ้ตที่เปื้อนสารระเบิดทีเอ็นทีและยูเรีย ถ่านไฟฉายหลายขนาดทั้งแบบกลมและเหลี่ยม อุปกรณ์สายไฟฟ้า เทปพันสายไฟ ท่อเหล็ก ถังเคมีบางชนิด พร้อมทั้งพบสารตั้งต้นที่สามารถนำมาทำระเบิดได้ ซึ่งสารบางชนิดสามารถหาซื้อได้ในประเทศไทย ขณะที่บางชนิดต้องนำเข้าจากต่างประเทศ โดยพบทั้งหมดภายในห้องเลขที่ 412 ส่วนอีก 4 ห้องที่เหลือพบเป็นห้องเปล่า


หิ้วตัวไปสอบในค่ายทหาร


ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบภายในห้องพักพบชายชาวต่างชาติ พร้อมพบพาสปอร์ตระบุชื่อนาย ADEM KARADAG อายุ 28 ปี ชาวตุรกี ซึ่ง เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่าเป็นพาสปอร์ตจริงหรือไม่ ส่วนห้องพักทั้ง 5 ห้องตรวจสอบข้อมูลพบมีนาย AMMET MEHMET EMIN AYSE ชาวตุรกีเป็นผู้เช่าห้องไว้ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.2557


ต่อมา เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.สมยศ ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร.และโฆษกตร. เดินทางมายังอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว เพื่อรับทราบรายละเอียดการเข้าตรวจค้น


จากนั้นเวลา 17.15 น. เจ้าหน้าที่นำตัวชายชาวต่างชาติ ซึ่งใส่เสื้อสีเหลือง และมีผ้าสีดำคลุมศีรษะลงมาถึงต้นคอ ขึ้นรถอีซูซุ มิว7 สีดำ ทะเบียน ฎพ 3038 กรุงเทพมหานคร ก่อนเจ้าหน้าที่จะรีบขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีการกั้นบริเวณถนน เพื่อไม่ให้สื่อมวลชนติดตามไป เบื้องต้นทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้นำตัวชายชาวต่างชาติไปสอบสวนที่มทบ.11


ผบ.ตร.ยันโยงราชประสงค์-สาทร


จาก นั้นพล.ต.อ.สมยศเปิดเผยว่า การตรวจค้นวันนี้เป็นการเข้าตรวจและจับกุมชายชาวต่างชาติ ไม่ระบุสัญชาติ ซึ่งเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงและเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุระเบิดที่แยกราช ประสงค์และท่าเรือสาทร แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเชื่อมโยงในส่วนใด เนื่องจากต้องดำเนินการสอบปากคำตามขั้นตอนคือ ผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติ ในการสอบปากคำจึงต้องมีล่ามและเจ้าหน้าที่สถานทูตเข้ามาร่วมสอบปากคำ ขณะนี้จึงยังไม่สามารถให้รายละเอียดหรือตอบคำถามที่สงสัยได้ทั้งหมด เบื้องต้นได้แจ้งข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมยึดของกลางเกี่ยวกับระเบิดจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว


ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการสัมภาษณ์มีผู้สื่อข่าวถามพล.ต.อ.สมยศว่า ยืนยันหรือไม่ว่าการจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ไม่ใช่การจับแพะ เป็นเหตุให้พล.ต.อ.สมยศเกิดความไม่พอใจ และย้อนถามว่าคุณถามอย่างนี้ได้อย่างไร คำถามไม่สร้างสรรค์เลย คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า ในสถานการณ์ที่คนกำลังรู้สึกดีๆ ผมไม่แคร์คุณหรอกนะ ไปไกลๆ


ส่วนพล.ต.ท.ประวุฒิเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพาสปอร์ตพบเป็นของปลอมจึงไม่อาจยืนยันถึงสัญชาติได้ ส่วนการตรวจค้นห้องพักพบอุปกรณ์ประกอบระเบิดอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะในส่วนของลูกปรายที่มีขนาดใกล้เคียงกับเหตุระเบิดบริเวณแยกราช ประสงค์ ทำให้เชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์และท่าเรือ สาทร


พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวอีกว่า ส่วนใบหน้าของชายชาวต่างชาติที่ควบคุมตัวไว้ได้คล้ายคลึงกับมือระเบิดบริเวณ แยกราชประสงค์ตามภาพสเกตช์ แต่ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุและรายละเอียดทั้งหมดอีก ครั้ง เบื้องต้นทหารได้คุมตัวชายชาวต่างชาติไปสอบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว


ค้นเจอชิ้นส่วนบึ้มเพียบ


รายงาน ข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 404, 409, 410, 411, 412 ส่วนของกลางที่ตรวจพบภายในห้องพักประกอบด้วย 1.เสื้อเชิ้ตมีสารเกี่ยวกับระเบิดซีโฟร์หรือทีเอ็นทีเปื้อนอยู่ 1 ตัว 2.เสื้อมีสารยูเรียเปื้อนอยู่ 3 ตัว 3.ลูกเหล็กกลมหรือลูกปืนบรรจุถุงพลาสติกทำเป็นแพ็กแบนๆ 4.ถ่านไฟฉายหลายขนาด 5.สายไฟฟ้า หัวเชื่อมและเทปพันสายไฟ 6.ไขควงและกรรไกร 7.ถังแกลลอนบรรจุสารเคมีไม่ทราบชนิด 8.กล่องกระดาษบรรจุโซเดียม คาร์บอเนต หรือโซดา แอช 9.ท่อเหล็กต๊าปเกลียว 2 ด้าน ขนาดต่างๆ พร้อมฝาครอบเหล็ก 10.ผ้าเย็บสำหรับพันรอบเอวติดตีนตุ๊กแก 11.สายชนวนฝักแค สีชมพู ยาว 8 ซ.ม. จำนวน 10 เส้น


รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับห้องพักที่ตรวจค้นทั้ง 5 ห้อง จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงทราบว่า ก่อนหน้านี้มักมีชาวต่างชาติสลับสับเปลี่ยนกันมาพักอาศัย ส่วนสาเหตุที่เลือกเช่าห้องพักย่านหนองจอก เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นย่านที่ชาวมุสลิมพักอาศัยอยู่จำนวนมาก เพื่อจะได้ดูกลมกลืนเหมือนคนในพื้นที่


คุมโชเฟอร์แท็กซี่เค้นเครียด


ส่วน พาสปอร์ตที่ตรวจค้นพบมีกว่า 100 เล่ม โดยคาดว่าทั้งหมดจะเป็นพาสปอร์ตปลอม โดยเตรียมส่งให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไปตรวจสอบอีกครั้ง รวมทั้งยังส่งที่นอน หมอน ตู้เย็นและของใช้ที่อยู่ในห้องพักทั้งหมดไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจสอบหาหลักฐานและดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยที่อาจเกี่ยวข้องเพิ่มเติม ขณะที่ฝักแคสีชมพูที่ตรวจพบนั้น พบมีลักษณะคล้ายกับเหตุระเบิดบริเวณสาทร ซึ่งต้องรอตรวจสอบอีกครั้ง


รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนยังได้เดินทางไปควบคุมตัวโชเฟอร์แท็กซี่รายหนึ่งเป็น ชาวจ.สุรินทร์ ได้ที่จ.สุรินทร์พร้อมคุมตัวมาสอบสวนว่าเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดหรือไม่ เนื่องจากตรวจสอบพบโชเฟอร์คนดังกล่าวใช้โทรศัพท์มือถือที่เกี่ยวข้องกับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังมีหลักฐานพบว่าเคยไปรับส่งบุคคลต้องสงสัยหลายครั้ง จึงคาดว่าอาจเกี่ยวข้องด้วย เบื้องต้นโชเฟอร์แท็กซี่ยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด โดยเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวโชเฟอร์แท็กซี่มาให้พล.ต.อ.สมยศ และพล.ต.อ.จักรทิพย์ สอบสวนที่บช.ส.


แจ้งข้อหาครอบครองระเบิด


ต่อ เวลา 18.00 น. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อม พล.ต.ท.ประวุฒิ แถลงผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยพล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ตามข้อมูล ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ซอยเชื่อมสัมพันธ์ 11 แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กทม. ซึ่งมีผู้ต้องสงสัยเข้าพัก จากการตรวจค้นพบชายชาวต่างชาติ อายุ 28 ปี พร้อมของกลางเป็นชิ้นส่วนประกอบระเบิดจำนวนมาก ประกอบด้วย ฝักแคหรือตัวจุดชนวนระเบิด ชิ้นส่วนระเบิด ลูกปืนรถจักรยานยนต์ที่เป็นแพ็กและมีสติ๊กเกอร์ติดอยู่ ซึ่งสะดวกแก่การประกอบระเบิด ท่อเหล็กและฝาครอบ ซึ่งเป็นคอนเทนเนอร์สำหรับบรรจุระเบิด และ พาสปอร์ตของประเทศหนึ่งเป็นจำนวนมาก


พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฐานที่มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง ขณะนี้ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารจับกุมและควบคุมตัวไว้ ซึ่งในรายละเอียดตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีความเชื่อมโยงเหตุระเบิดแยกราช ประสงค์และท่าเรือสาทร อีกทั้งเชื่อว่าเป็นคนร้ายในกลุ่มเดียวกัน


ด้าน พ.อ.วินธัยกล่าวว่า เป็นการทำงานกันอย่างแข็งขันหนักหน่วงของเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ ทหาร ส่วนมาตรการการรักษาความปลอดภัยอื่นๆ ยังคงให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจุดผ่านเข้าออกพื้นที่ชายแดนทั่วประเทศ ขณะเดียวกันผู้บัญชาการทหารบกได้กำชับเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่ชายแดน ให้มีความเข้มข้นในการปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวัง รวมทั้งจุดท่องเที่ยวและพื้นที่ชุมชนที่มีประชาชนจำนวนมาก อย่างไรก็ตามขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแส 1515 ซึ่งคสช.หวังว่าจะได้รับความร่วมมือต่อไป


ผบ.ตร.ชี้ของกลางแบบเดียวกัน


จาก นั้นเวลา 19.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศกล่าวก่อนร่วมประชุมกับชุดสืบสวนว่า ตำรวจและทหารร่วมกันจับกุมคนร้ายเป็นชายชาวต่างชาติ แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นชาติอะไร 1 คน พร้อมของกลางจำนวนมาก แต่จากการสืบสวนตำรวจทราบแล้วว่าเป็นใคร ชาติอะไรแต่ไม่ขอเปิดเผย เบื้องต้นตั้งข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง โดยเป็นการสืบสวนสอบสวนร่วมกันของตำรวจและทหาร เพื่อร่วมกันหาข้อมูลหาหลักฐานจนเป็นที่ประจักษ์ ว่าคนร้ายหลบซ่อนตัวที่อพาร์ตเมนต์แห่งนี้ในเขตพื้นที่สน.หนอง จอก จึงร่วมกันเข้าจับกุมตั้งแต่เช้ามืด กระทั่งเวลา 05.00 น. จึงเข้าจู่โจมจับกุมและสอบสวน เบื้องต้นขยายผลว่ามีใครเกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่ แต่ต้องขออภัยที่ไม่เปิดเผยรายละเอียดการสอบสวนที่อยู่ในสำนวน เพราะเชื่อว่ามีคนร้ายอีกจำนวนไม่น้อยร่วมขบวนการอยู่ด้วย และยังหลบหนีการจับกุม ทั้งที่เชื่อว่ายังหลบในประเทศและออกนอกประเทศไปแล้ว


ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า คนร้ายมีความเชื่อมโยงหลายคน ส่วนจะเป็นหนึ่งในสองคนที่ออกหมายจับไปแล้ว อาจจะใช่หรือไม่ยังด่วนสรุปไม่ได้ ต้องขอเวลาในทางการสืบสวน เพราะการจับกุมใช่เพียงภาพสเกตช์ ออกหมายจับแล้วจับเลย เพราะหน้าตาไปเหมือนภาพสเกตช์ ก่อนจับกุมมีการสืบสวน ทั้งหาข่าวและพยานหลักฐานหลายอย่าง ใช้ประกอบจนมั่นใจว่าเป็นคนร้ายและเชื่อมั่นว่าเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรืออยู่ในขบวนการก่อเหตุ ซึ่งเบาะแสได้มาจากทุกกรณี ทั้งจากที่ประชาชนให้ข้อมูลและความสามารถมุ่งมั่นตั้งใจ ทุ่มเท ไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยของตำรวจและทหารที่ร่วมกันทำงาน เอาประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถที่มีมาใช้


"มั่นใจเพราะพยานหลักฐานของ กลางที่ยึดได้เป็นของกลางชนิดเดียวกัน ประเภทเดียวกันหรือคล้ายกัน นี่คือสิ่งที่เรามั่นใจ ขณะที่การข่าวเราก็มีข้อมูลที่ทราบว่าเป็นใคร มากันอย่างไร และทำกันเพื่ออะไร พวกนี้คือขบวนการทำผิดกฎหมายมาแต่ต้น ส่วนรายละเอียดขอไม่เปิดเผยเกรงการขยายผลของเจ้าหน้าที่จะยากลำบากขึ้นและทำ ให้คนร้ายที่ร่วมขบวนการไหวตัวหรือรู้ตัว ตอนนี้ข้อมูลต่างๆ ถูกเปิดเผยไปเยอะแล้วตามโซเชี่ยลมีเดีย ขนาดพยายามปกปิดยังปิดไม่ได้ ตอนนี้บอกไม่ได้หรอกว่าคนร้ายทำเพื่ออะไร" ผบ.ตร.กล่าว


แฉมีร่วมขบวนการถึง10คน


พล.ต.อ. สมยศกล่าวต่อว่า จากการสืบสวนจนถึงขนาดนี้ยังเชื่อว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีก อาจถึง 10 คน แต่ก็เป็นเรื่องการสืบสวน จะชัดหรือแน่นอนต้องรอผลการสอบสวนอีกที ทั้งนี้ทั้งนั้นยังคาดหวังอะไรไม่ได้ หากผู้ต้องหาไม่ยอมให้การ ให้ถ้อยคำก็เป็นเรื่องที่ยากลำบาก เบื้องต้นสามารถคลี่คลายในเรื่องที่ประชาชนทั้งประเทศรอคอยอยู่ว่าตำรวจไทย รัฐบาลไทยจะดำเนินการคลี่คลายคดีนี้ได้หรือไม่ วันนี้แม้จะเหนื่อยแค่ไหน แต่โล่งอกขึ้น ว่าเราสามารถทำได้


ผบ.ตร.กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาคนนี้มีพาสปอร์ตหลายเล่ม หลายชาติ ร้อยเล่มก็ร้อยชื่อ แต่เป็นของปลอม จุดเริ่มต้นคือชายคนนี้ทำผิดกฎหมาย สิ่งที่เขาทำผิดกฎหมายคือใช้พาสปอร์ตปลอม นั่นคือจุดเริ่มต้น อย่างไรก็ตามเมื่อพบว่าพาสปอร์ตปลอม ต้องใช้เวลาเพื่อยืนยันพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่แน่นอน ตัวชายคนนี้ถือของปลอม จากการตรวจสอบพบว่าเข้ามาอยู่ในประเทศไทยนานพอสมควร ทางการสืบสวนเราทราบว่าเขาเป็นใคร เมื่อเราไปค้นเจอพาสปอร์ตเขาก็รับว่าพาสปอร์ตปลอม โดยต้องประสานไปยังประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบยืนยัน หากเขาอ้างว่าตัวเองเป็นชาติอะไร เราก็ต้องประสานงานไปยังสถานทูตชาตินั้นๆ


เมื่อ ถามว่าขณะนี้ตัดประเด็นใดทิ้งได้บ้างหรือยัง ผบ.ตร.กล่าวว่า ตัดได้เยอะแล้ว ตัดได้เกือบหมด แต่ว่าอย่าให้ตนรีบพูดลงไปเลยว่าที่เขาลงมือก่อเหตุร้ายครั้งนี้เพราะอะไร แต่เราตัดประเด็นไปเยอะแล้ว


ปมเจ็บแค้นแทนเพื่อนฝูง


เมื่อ ถามว่าผู้ต้องหาที่คุมตัวเป็นชาวต่างชาติ ดูลักษณะเป็นแขกขาว เช่นนี้ถูกมองว่าเป็นการก่อการร้ายข้ามชาติได้หรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า เอาว่าเป็นชาวต่างชาติ แต่ไม่น่าจะเป็นการก่อการร้ายข้ามชาติ เป็นเหตุผลการเจ็บแค้นส่วนตัว เจ็บแค้นแทนพรรคพวกเพื่อนฝูง ไม่ใช่การก่อการร้ายข้ามชาติ


เมื่อถามว่าพูดเช่นนี้โยงถึง อุยกูร์ ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง สรุปว่าเขาโกรธแค้นและเจ็บใจแทนเพื่อนเขาดีกว่า หมายถึงพรรคพวกพี่น้องเพื่อนฝูงของเขา อย่าให้ลงลึกกว่านี้เลย แต่ไม่ใช่ขบวนการก่อการร้ายข้ามชาติ


เมื่อถามว่าความเจ็บ แค้นคือปมอะไร พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ก็อาจจะญาติพี่น้องเขาถูกจับ ทำนองนี้ ความคับแค้นมีมานาน พวกนี้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยเป็นปีๆ แล้ว


ผบ.ตร.กล่าว ว่า ตอนนี้ในเบื้องต้นเราคุมตัวเขาตามอำนาจกฎหมายของทหาร หลังจากเมื่อครบเวลาควบคุมทหารจะส่งมอบให้ตำรวจ ทั้งนี้เชื่อว่ายังมีคนร้ายหลบหนี อีกหลายคนไทยและต่างชาติ


เร่งเช็กเป็นระเบิดพลีชีพ


ต่อ มาเวลา 19.15 น. ที่บช.ส. พล.ต.อ. สมยศ ร่วมประชุมกับชุดสืบสวนคลี่คลายคดี โดยมีพล.ต.อ.จักรทิพย์ และคณะร่วมประชุม พร้อมนำตัวโชเฟอร์รถแท็กซี่มาสอบสวนด้วย


พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ได้คุมตัวคนขับรถแท็กซี่ 1 คน มาจากจ.สุรินทร์ โดยสืบสวนพบความเกี่ยวข้อง เนื่องจากติดต่อกับหมายเลขโทรศัพท์ที่เจ้าหน้าที่สงสัย ตอนนี้ยังมีฐานะเป็นพยาน แต่ยังให้การสับสน และยังไม่ได้ถามว่ารู้จักกับผู้ต้องหาที่จับได้วันนี้หรือไม่ ส่วนผู้ต้องหาที่จับกุมได้ตนยังไม่พบตัวและไม่สามารถบอกถึงการสอบสวนได้ว่า ให้การอย่างไร อย่างไรก็ตามได้เตรียมล่ามภาษาต่างประเทศมาช่วยสื่อสารกับผู้ต้องหารายนี้ แล้ว หนึ่งในนั้นคือล่ามภาษาตุรกี เบื้องต้นต้องสันนิษฐานชาติที่มีความเป็นไปได้ ใกล้เคียงก่อนเพื่อยืนยันตัวบุคคล


"ผู้ต้องหารายนี้มีส่วน เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นผู้ประกอบระเบิดหรือไม่นั้น ผมยังไม่ทราบ แต่เชื่อมโยงแน่ เกี่ยวข้องแน่ วันนี้ไม่ใช่การจับกุมตามหมายจับ" รองผบ.ตร.กล่าว


เมื่อถาม ว่าการสืบสวนขณะนี้โยงถึงการก่อการร้ายสากลหรือไม่ รองผบ.ตร. กล่าวว่า สืบสวนประเด็นเหล่านี้ด้วย ขอเวลาทำงานสักนิด อย่าเพิ่งด่วนสรุป


เมื่อ ถามว่าแนวโน้มเป็นระเบิดพลีชีพได้หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่เคยเกิดในประเทศไทย เรากำลังดูว่าชิ้นส่วนบางชิ้นที่ได้มา จะนำไปสู่ตรงนั้นได้หรือเปล่า ถ้าเป็นระเบิดเราดูครอบคลุมทุกประเด็นทุกประเภทว่าเขาจะทำระเบิดแบบไหน ส่วนรายละเอียดว่าจะนำไปสู่การประกอบระเบิดพลีชีพหรือไม่ ต้องรอผลการตรวจสอบจากกองพิสูจน์หลักฐานก่อน อย่างไรก็ตามชิ้นส่วนระเบิดของกลางที่พบยังแยกส่วนกันอยู่ ยังไม่มีการประกอบ ทั้งนี้การพบชิ้นส่วนประกอบจำนวนมากก็พออนุมานได้ว่าของเยอะผิดปกติ อาจเตรียมก่อเหตุอีก


เป็นแก๊งปลอมพาสปอร์ตด้วย


รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า กลุ่มนี้ไม่เคยก่อเหตุในไทย ไม่เคยเกิดแรงขนาดนี้ จากการสืบสวนพบว่ายังมีเพื่อนของชายคนดังกล่าวพักห้องข้างเคียง เพียงแต่ไม่เจอตัว ตนไม่ไปจุดเกิดเหตุ จึงยังบอกไม่ได้ สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 รายที่ออกหมายจับ บอกไม่ได้ว่ายังอยู่ในไทยหรือไม่ แต่ไม่พบหลักฐานเกี่ยวกับการตรวจคนเข้าเมือง ภาวนาให้เขายังอยู่ในเมืองไทย ตอนนี้ไม่ต้องบนแล้ว พอได้แล้ว


พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวต่อว่า ผบ.ตร.ให้กำลังใจชุดสืบสวน รายงานผลการสืบสวนให้ทราบ ตอนนี้ห่วงเรื่องพยานหลักฐานต่างๆ ประกอบสำนวนการสืบสวน อย่างไรก็ตามหลังจากตำรวจได้สอบสวนชายที่จับได้วันนี้คาดว่าจะสามารถออกหมาย ผู้ต้องหาได้เพิ่มเติม ถ้าไปถึงใครเราเอาหมด รอผลการซักถามสอบปากคำชายที่จับได้วันนี้เสียก่อน ตอนนี้ยังไม่ยอมพูดอะไร จากการตรวจสอบชายคนนี้มีพาสปอร์ตอยู่กว่า 250 เล่ม เป็นปลอม 10 กว่าเล่ม ที่เหลือเป็นเล่มเปล่า พวกนี้เป็นขบวนการปลอมพาสปอร์ตอยู่แล้ว ตอนนี้ตำรวจเข้าปฏิบัติการ 6-7 จุด ตัดออกไปแล้ว 2-3 จุด ได้ข้อมูลมี ประโยชน์เรื่อยๆ


แฉมาจากตุรกี-โยงขนคนอุยกูร์


รายงาน ข่าวแจ้งว่า จากการสอบสวนชายชาวต่างชาติที่จับกุมได้ เบื้องต้นรับว่าบินมาจากเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ก่อนมาลงที่ประเทศเวียดนาม และผ่านมายังสปป.ลาว เข้าประเทศไทย จากนั้นมาอาศัยอยู่ที่ย่านหนองจอก กทม. โดยเช่าห้องพักอยู่หลายห้อง ซึ่งถือเป็นแหล่งรวมตัวของชาวตุรกี


ส่วนชายชาวต่างชาติที่ ถูกจับกุม ทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาสิ่งของอุปกรณ์ให้ทีมประกอบบึ้ม โดยเข้ามาอยู่ที่ห้องพักแห่งนี้ประมาณ 2 เดือนแล้ว เบื้องต้นบุคคลกลุ่มนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการขนคนอุยกูร์ด้วย เนื่องจากพบพาสปอร์ตของตุรกีจำนวนมาก ขณะที่ของกลางเป็นชิ้นส่วนระเบิดที่ตรวจยึดมาได้ ตรวจสอบพบสามารถประกอบระเบิดและก่อเหตุได้อีกหลายลูก


"บิ๊กตู่"ชื่นชมตร.คลี่คลายคดี


ขณะ ที่พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. แสดงความชื่นชมตำรวจและผู้เกี่ยวข้องกับการคลี่คลายคดีลอบวางระเบิดศาลท้าว มหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ ที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุวางระเบิด ได้ในช่วงบ่ายวันนี้


"นายกฯชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำ งานอย่างหนักต่อเนื่องหลายวัน จนนำไปสู่ความคืบหน้าของคดีอย่างมากในวันนี้ สิ่งที่นายกฯเป็นห่วงอย่างมากคือการรายงานข่าวของสื่อมวลชน ที่เสนอบทวิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์จนอาจจะเกินเลยความเป็นจริง และกลายเป็นทำให้ประเทศต้องมีศัตรูหรือสร้างศัตรูจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ของการรายงานข่าวนั้น รวมไปถึงการแสดงความคิดเห็นหรือการวิเคราะห์ต่างๆ ในโลกโซเซี่ยลมีเดีย ที่อาศัยการคาดเดาเป็นหลัก การวิพากษ์วิจารณ์ลักษณะนี้ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้" พล.ต.สรรเสริญกล่าวและว่า ขอให้ทุกฝ่ายติดตามผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ และรับฟังการแถลงความคืบหน้าอย่างเป็นทางการจากคสช.ที่จะแถลงความคืบหน้าของ คดีเป็นประจำทุกวัน เพื่อป้องกันความสับสนและคลาดเคลื่อนของข้อมูล

 

ขอขอบคุณที่มา  ข่าวสดออนไลน์

 

 

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X