7 ข้อเท็จจริงของ ศัลยกรรม ที่คุณอาจไม่เคยรู้!
2015-07-19 15:59:15
Advertisement
Pyramid Game

       บ่อยครั้งที่คนไข้หลาย ๆ ท่าน ได้เข้ามาปรึกษาในเรื่องการทำศัลยกรรมและยังมีคนไข้อีกจำนวนมากที่ยังไม่เข้าใจ และเข้าใจผิด ในเรื่องการทำศัลยกรรม รวมไปถึงการดูแลตนเอง หลังจากทำการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว นายแพทย์อดุลย์ชัย แสงเสริฐ หรือหมอเกมส์ จึงได้รวบรวม เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศัลยกรรม ซึ่งจะเริ่มจากเรื่อง Basic ไปจนถึง Advance

1.หลังผ่าตัดควรงดกินไข่ เพราะไข่เมื่อทานเข้าไปแล้วเป็นของแสลง ทำให้อาจเกิดแผลเป็นได้

ตามความเชื่อมาแต่โบราณ ตลอดจนความเชื่อในแบบคนปัจจุบันนี้ รวมถึงนายแพทย์อดุลย์ชัย แสงเสริฐเอง ซึ่งตอนที่ยังไม่ได้เป็นแพทย์ศัลยกรรมก็ยังคิดว่า เวลาเราเกิดแผลเป็น ก็มักมีแต่คนทักว่า “อย่าไปทานไข่นะ” เพราะถ้าทานไข่เข้าไปแล้วจะทำให้เกิดเป็นแผลเป็นนูนได้ ที่เรียกว่า Keloidทำให้คนไข้หลาย ๆ ท่านที่เข้ามาทำการรักษาด้วยการผ่าตัด ทั้งผ่าตัดเล็ก ผ่าตัดใหญ่ ต่างเข้าใจกันว่า ทานไข่ หลังผ่าตัดไม่ได้ นายแพทย์อดุลย์ชัย ได้กล่าวว่า ของแสลง จริงๆ นั้นไม่มี แต่ทางแพทย์ศัลยกรรมมักจะให้คนไข้หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่สะอาด เช่น ของหมัก ของดอง ปลาร้า ปลาแดก และของมึนเมาทุกชนิด เพราะอาหารจำพวกนี้อาจทำให้คนไข้ติดเชื้อได้

ส่วนการทานไข่นั้น เมื่อทานเข้าไปแล้ว สามารถเกิดเป็นแผลเป็น หรือ keloid ได้หรือไม่นั้น ก็ยังไม่เกี่ยวข้องกันไปสักทีเดียวครับ เพราะในไข่นั้นมีโปรตีน ที่ช่วยสร้าง Collagen ที่ช่วยทำให้แผลหาย แต่การเกิดแผลเป็น และ keloid นั้น อาจเกิดจากการที่ไม่สมดุลกันของร่างกายของเราแต่ละคนที่สร้าง Collagen ในปริมาณที่มากจนเกินไป ทำให้ในขณะที่แผลหาย ซึ่งอาจทำให้เกิดแผลเป็นนูน หรือเรียกว่า keloid ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อให้เราทานไข่ซัก 1 โหลต่อวัน ก็ไม่ทำให้เกิดแผลเป็นนูน ได้ แต่สำหรับคนที่เกิดแผลเป็นนูน ต่อให้ไม่ทานไข่เลย แต่ถ้าร่างกายมีการสร้าง Collagen มากจนเกินไป ก็อาจเกิดแผลเป็นนูนได้ นั่นก็เพราะอาจได้รับการถ่ายทอดมาจากกรรมพันธุ์จาก คุณพ่อ หรือคุณแม่ที่เคยเกิดแผลเป็นนูนได้ครับ

2.เสริมจมูกเกิน 10 ปี ทำไมจึงต้องเปลี่ยน

คำถามนี้ เกือบทุกคนที่มาทำ ศัลยกรรม โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่พาบุตรหลานมาทำศัลยกรรม ถามกันตลอดว่าเมื่อทำศัลยกรรมเสริมจมูกแล้ว จะเกิดปฏิกิริยาอะไรต่อร่างกายบ้าง จมูกที่ทำแล้วจะอยู่กับตัวเราได้นานแค่ไหน และมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนทุก 10 ปี จริงหรือ
นายแพทย์อดุลย์ชัย ได้ตอบว่า Silicone ที่ทางการแพทย์ได้นำมาใช้เสริมจมูกนั้นเป็น Medical grade Silicone ซึ่งเมื่อถ้าเรานำมาวางไว้เฉย ๆ มันก็จะคงรูปทรง และรูปร่างแบบนั้นไปตลอด แต่เหตุผลที่แพทย์หลายๆ ท่าน แนะนำให้เปลี่ยนทุก 10 ปี เพราะว่า เมื่อเราใส่ Silicone เสริมเข้าไปในจมูกแล้ว ร่างกายของเราจะตอบสนองต่อ Silicone ซึ่งสร้างเนื้อเยื่อมาหุ้ม Capsule และเมื่อเวลาผ่านไปนาน ๆ Capsule นั้นจะเกิดความแข็งแรงขึ้น ทำให้ Silicone ที่เสริมนั้นเกิดบิดและเปลี่ยนรูปทรงได้ หรืออาจมี Calcium จากร่างกายของเรามาเกาะบริเวณรอบๆ Capsule ได้ ทำให้รูปร่างที่เห็นภายนอกเกิดเป็น ตะปุ๋ม ตะป่ำ ไม่เรียบได้ แต่ก็อีกครับ Calcium ที่สร้างจากร่างกายนั้น บางคนเป็นได้ บางคนก็ไม่เป็นก็ได้ครับ อย่าเพิ่งกลัวกันไปก่อน

3.เสริมจมูก สามารถลดขนาดปีกจมูกได้จริงไม่

ต้องบอกก่อนเลยครับว่า มันเป็นผลพลอยได้มากกว่าครับ แพทย์ต้องอธิบายคนไข้ให้มีความเข้าใจกันอยู่เสมอว่าการ เสริมจมูก สิ่งที่คนไข้จะได้แน่ๆ คือ ดั้งจมูก ซึ่งจะโด่งขึ้นแน่ๆ แต่สำหรับปีกจมูกนั้น ในคนไข้รายที่ปีกจมูกบานไม่มากเนื้อน้อย ก็มักจะดูเล็กลง แต่สำหรับคนที่เนื้อจมูกเยอะ และปีกจมูกบานมาก ๆ หมดสิทธิครับ ดังนั้น ถ้าต้องการยกปีกให้แคบๆ เล็ก ๆ เราจำเป็นต้องใส่ Silicone ให้มีขนาดใหญ่ เพื่อที่จะยกปีกได้สูงขึ้น แต่เมื่อเราใส่ปลาย Silicone ให้ใหญ่ ก็จะยิ่งดูใหญ่ ฉะนั้นถ้าอยากลดขนาดปีกจมูก แพทย์จะแนะนำให้ตัดดีกว่าครับ

4.ฉีดเสริมจมูก เสริมหน้าอก ไม่นับว่าเป็น ศัลยกรรม

ก่อนหน้าที่โลกของเราจะสามารถผลิต Medical grade Silicone สำหรับ เสริมจมูก เสริมหน้าอก ได้มีการฉีด Liquid Silicone กันอย่างแพร่หลายในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่นิยมฉีดกันเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อได้ทำการศึกษา พบว่า การฉีดแบบนี้ไม่ดี อาจเกิดสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ หลังจากนั้นอเมริกาจึงได้เลิกฉีด Liquid Silicone ไปเลย

หลังจากนั้นได้มีการผลิต Medical grade Silicone ศัลยแพทย์ตกแต่งทั้งในและนอกประเทศกว่า 90 ประเทศ จึงเลือกที่จะนำมา เสริมจมูก เสริมหน้าอก โดยไม่นำอะไรก็ตามที่เป็นแบบฉีด แป๊บเดียวสวยมาใช้อีกเลย เพราะกว่าจะรู้ว่า Liquid Silicone เกิดสารก่อมะเร็ง ต้องใช้เวลาเกือบถึง 10 ปีที่จะรู้ครับ

5.Filler ฉีดซ้ำๆ ได้อะไร

Filler คือสารเติมเต็ม ผลิตมาจากการหมักแบคทีเรีย Streptoccocus equi โดยหลักการเติม fiiler คือ ในเนื้อเยื่อไขมันใต้ผิวหนัง มีรูพรุน ลักษณะจะเหมือนฟองน้ำอยู่ เมื่อแพทย์ฉีด filler เข้าไป ตัว filler จะเข้าไปเติมเต็ม รูพรุนเหล่านั้น ทำให้ชั้นไขมันผิวหนังนั้นหนาขึ้น เมื่อระยะเวลาผ่านไป filler ยุบลง แต่ต้องอธิบายว่า การฉีด filler ต้องมีตัวนำครับ

6.ฉีดยาสลาย filler สลายได้ จริงหรือ?

ต้องขอบอกแบบนี้ครับ คือเมื่อคนไข้ไปฉีดเข็มที่สองแล้วเกิดปัญหา ว่ามีรอยแดงเกิดขึ้น หมอมือฉีดจะมีวิธีการรักษา ด้วยการนำคนไข้ไปยิง V-beam Laser เพื่อรักษารอยแดง และ Laser มีความร้อน ความร้อนก็ไปทำให้ filler ยุบตัวลง สรุป ยาสลาย filler มันสลายได้จริง ๆ แต่ไม่สามารถสลายไปได้ทั้งหมดนะครับ เพราะตอนนี้เนื้อเยื่อไขมันใต้ผิวหนังจะอุดมไปด้วย filler 2 หลอด แล้วจะมีช่องให้ยาสลาย filler มันแทรกเข้าไปสลายได้ยังงัย ดังนั้นมันจึงสลายไปเป็นจุดๆ ครับ

7.ร้อยไหมเสริมจมูก แล้วจมูกโด่ง เด้งแบบ K-pop

ในวงการศัลยแพทย์ การร้อยไหมแล้ว จมูกโด่ง คือถ้าแพทย์บอกคนไข้แบบนี้ ว่า การร้อยไหมเข้าไปเสริมจมูก แล้วไหมจะไปกระตุ้นการสร้าง Collagen แล้วทำให้จมูกโด่งขี้น แต่ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6-8 เดือน เป็นความคิดที่ผิดครับ สำหรับผมมันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ แล้วตัวไหมก็เป็นไหมละลายธรรมดาๆ ต่อให้ไหมดีขนาดไหน มันก็ไม่มีทางที่จะสร้าง Collagen ได้หนา และโด่ง เด้ง แบบ เกาหลี ได้ขนาดนั้น ดังนั้นก่อนจะทำศัลยกรรม ควรคิดและศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องก่อนเข้าทำการ ศัลยกรรม นะครับ…

 

ขอขอบคุณที่มา  http://women.mthai.com/

 

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X