จากกรณีที่ชาวบ้านแห่ไปกราบไหว้ศาลพญานาค ริมหนองน้ำสาธารณะห้วยอีหนา ทุ่งนาบ้านกุง หมู่ 2 ต.กุง อ.ศิลาลาด จ.ศรีสะเกษ หลังมีคนอ้างว่าพบไข่ 18 ฟองเป็นไข่พญานาค ตั้งอยู่ภายในศาล โดยมีรูปปั้นพญานาค 2 ตัวอยู่ด้านซ้ายและด้านขวา และมีรูปปั้นคล้ายรูปฤาษีอยู่ตรงกลางด้านบนสุด นอกจากนี้ยังระบุว่ามีชาวบ้านทั้งหมู่บ้านถูกหวยมาแล้ว 2 งวดซ้อน เพราะบารมีของไข่พญานาคดังกล่าว 

 เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ส.พญ.ดร.ลาวัณย์ จันทร์โฮม หัวหน้าสวนงู สถานเสาวภา สภากาชาดไทย กล่าวถึงกรณีการพบไข่ขนาดใหญ่ที่เชื่อกันว่าเป็นไข่พญานาคว่า ถ้าต้องการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าเป็นไข่ของสัตว์ชนิดใด ต้องมีการเปิดผ่าไข่ออกมา แต่ดูจากลักษณะและแหล่งที่พบเจอ น่าจะเป็นไข่ของงูเหลือมและงูหลาม ซึ่งเป็นงูไม่มีพิษขนาดใหญ่ในประเทศไทย

 "ลักษณะไข่เป็นการฟักไม่สมบูรณ์ หรือตัวอ่อนไม่พัฒนา จนฟักเป็นตัวออกมาไม่ได้ ไข่จึงแห้งเสียและแฟบลง ประกอบกับไม่มีรอยฉีกขาดของเปลือกไข่ ซึ่งปกติลูกงูจะมีฟันที่คมเหมือนมีดอยู่ใกล้ปลายจมูก เป็นส่วนที่ช่วยในการกรีดไข่ออกมา"

 ส.พญ.ดร.ลาวัณย์ กล่าวต่อว่า ลักษณะของไข่งูโดยทั่วไปเป็นรูปไข่หรือทรงยาวรี สีขาวถึงสีครีม เปลือกนิ่ม และมีขนละเอียดเล็กมากสำหรับดูดซับความชื้นระหว่างฟักไข่ แต่หากมีอุณหภูมิความชื้นไม่เหมาะสม อากาศร้อนมาก หรือถูกรบกวนตำแหน่งที่วางไข่ อาจทำให้ไข่เสียดังที่เห็น เนื่องจากตัวอ่อนไม่มีพัฒนาการ จึงไม่สามารถเจาะไข่ออกมาได้ ปกติแม่งูเหลือมและแม่งูหลามจะมีพฤติกรรมกกไข่จนกว่าลูกจะฟักเป็นตัว แต่ในกรณีที่ไข่เสียเนื่องจากอุณหภูมิและความชื้นไม่เหมาะสมในระหว่างการฟักไข่ แม่งูจะทิ้งไข่ไป

 "แม้งูเหลือมจะเป็นงูไม่มีพิษ แต่มีฟันแหลมคมที่ทำอันตรายต่อคนได้ เมื่อโตเต็มวัยจะมีขนาดยาว 7-10 เมตร ส่วนงูหลามจะมีขนาดยาว 6-7 เมตร จากข้อมูลงานเพาะเลี้ยงของสวนงู สถานเสาวภา พบว่างูเหลือมจะออกลูกเป็นไข่ได้ครั้งละ 20-50 ฟอง เคยมีบันทึกถึง 124 ฟอง ระยะฟักไข่ 68-72 วัน งูเหลือมเป็นงูที่มีกล้ามเนื้อลำตัวแข็งแรงมาก จึงฆ่าเหยื่อด้วยการรัดเหยื่อจนขาดอากาศหายใจแล้วจึงเริ่มกลืนเหยื่อเข้าไปทั้งตัว มักออกหากินกลางคืน อาหารหลักของงูเหลือมและงูหลามจะเป็นจำพวกสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ เช่น สุนัข หนู ไก่ เป็ด เป็นต้น"

ขอขอบคุณที่มา  ข่าวสดออนไลน์