ตำนานที่มืดหม่นที่สุดของ Insidious จะนำผู้ชมกลับเข้าสู่โลกของเดอะ เฟอร์เธอร์ เพื่อเผยว่าเอลิส เรนเนียร์ (ลิน เชย์) ได้ต่อสู้เพื่อช่วยเหลือหญิงสาวคนหนึ่งให้พ้นจากการสิงสู่ของปีศาจร้ายได้อย่างไร

    Insidious: Chapter 3 ภาคใหม่ในแฟรนไชส์สุดสยองเรื่องนี้ เขียนบทและกำกับโดยผู้ร่วมสร้างแฟรนไชส์ "ลีห์ วันเนล" เรื่องราวในภาพยนตร์เกิดขึ้นหลายปีก่อนหน้าการสิงสู่ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวแลมเบิร์ท และการต่อสู้กับวิญญาณร้ายของเอลิสจากเดอะ เฟอร์เธอร์ใน Insidious และ Insidious: Chapter 2 ในพรีเควลภาคนี้ ควินน์ เบรนเนอร์ (สเตฟานีย์ สก็อต) เด็กสาวผู้ใฝ่ฝันจะเป็นดารา รู้สึกได้ว่าแม่ผู้ล่วงลับไปแล้วพยายามจะติดต่อกับเธอ เธอจึงขอความช่วยเหลือจาก เอลิส ผู้มีพลังจิต

    เอลิสรู้สึกอยากปกป้องควินน์ ผู้อ่อนไหว แต่โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในอดีตของเธอทำให้เธอลังเลที่จะใช้ความสามารถของเธอ ไม่นานหลังจากนั้น อุบัติเหตุสะเทือนขวัญก็เกิดขึ้นทำให้ควินน์ต้องพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ขณะที่ฌอน (เดอร์ม็อท มัลโรนีย์) พ่อของเธอพยายามดิ้นรนที่จะรักษาครอบครัวนี้เอาไว้ ควินน์ถูกวิญญาณร้ายโจมตีในห้องนอนของเธอ และฌอนก็อ้อนวอนให้เอลิสช่วย เอลิส ที่กำลังชั่งใจระหว่างศรัทธาและเป้าหมายของตัวเอง ได้เรียกพลังที่จะติดต่อกับวิญญาณมาใช้ ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนใหม่สองคน นักปรจิตวิทยาที่ขาดใบรับรอง ทัคเกอร์ (แองกัส แซมป์สัน) และสเป็คส์ (ลีห์ วันเนล)

    เมื่อจำต้องบุกลึกเข้าไปในเดอะ เฟอร์เธอร์เพื่อปกป้องควินน์ ไม่นานนักเอลิสก็พบว่าตัวเองต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่โหดเหี้ยมที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมา นั่นคือปีศาจที่มีความหิวกระหายวิญญาณมนุษย์อย่างไร้ขอบเขต

    ลองจินตนาการดูสิถึงโลกที่คงอยู่ร่วมกับชีวิตประจำวันของเรา แต่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าฝันร้ายใดๆ มันจะแทรกผ่านความฝันของคุณไปสู่เวลาที่คุณลืมตาตื่น โลกดังกล่าวเป็นโลกของวิญญาณและสิ่งไร้ชีวิต และมีความขัดแย้งกับโลกของผู้มีชีวิต ประชากรปีศาจของมันต้องการจะเดินทางไปยังอีกโลกหนึ่ง วิญญาณบางตนอยากจะทำความเข้าใจกับการตายของตัวเอง บางตนอยากจะติดต่อกับคนที่ตนรัก แต่หลายตนกระหายที่จะระบายความโกรธ ทำตามความริษยา ใช้ความเกลียดและความขุ่นข้องหมองใจ ในการแก้แค้น…

    โลกที่ว่านี้คือเดอะ เฟอร์เธอร์ ที่สร้างขึ้นโดยลีห์ วันเนลและเจมส์ วันในภาพยนตร์ยอดนิยมเรื่อง Insidious และ Insidious: Chapter 2 และใน Insidious: Chapter 3 แฟรนไชส์สุดสยองนี้ก็ได้ล้วงลึกเข้าไปในเดอะ เฟอร์เธอร์ยิ่งกว่าที่เคย

    ผู้อำนวยการสร้างเจสัน บลูม ผู้ซึ่งบริษัทบลูมเฮาส์ของเขาได้อำนวยการสร้างแฟรนไชส์เรื่อง Sinister, The Purge, Ouija และ Paranormal Activity ด้วยเช่นกัน กล่าวว่า "เจมส์และลีห์ได้สร้างโลกที่โดดเด่นและน่าสะพรึง

กลัวขึ้นมาด้วย Insidious และภาคนี้ก็จะพาเราดำดิ่งลึกเข้าไปในเดอะ เฟอร์เธอร์ครับ"

    "เดอะ เฟอร์เธอร์คงอยู่ด้วยตัวมันเอง" เจมส์ วาน ผู้อำนวยการสร้างของภาคใหม่ กล่าวเสริม "แต่มันก็สามารถส่งผลกระทบต่อพวกเราทุกคนได้ทุกเมื่อ"

    ผู้อำนวยการสร้างโอเรน เพลี เผยว่า "ในภาคนี้ เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเดอะ เฟอร์เธอร์มากขึ้น แต่จากอีกมุมหนึ่ง เพราะมันจะนำเสนอองค์ประกอบที่ผู้ชมยังไม่เคยเห็นในภาคก่อนๆ และมีเรื่องน่าสะพรึงกลัวมากมายเลยครับ"

    วันเนล มือเขียนบทและผู้กำกับของภาคใหม่นี้ ให้ความเห็นว่า "คนที่ชื่นชอบเรื่องน่ากลัวๆ เป็นคนที่รักหนัง Insidious ครับ เราอยากให้ผู้ชมรู้สึกกลัวหัวหดจริงๆ"

    นอกจากจะยกระดับความน่าขนลุกแล้ว 

Insidious: Chapter 3 ยังหมุนเวลาย้อนกลับ เพราะเรื่องราวของมันเกิดขึ้นหลายปีก่อนหน้าสองภาคแรก ที่เล่าถึงการสิงสู่ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวแลมเบิร์ท เมื่อชะตากรรมของครอบครัวนี้คลี่

คลายลงใน Insidious: Chapter 2 วันเนลก็กระตือรือร้นที่จะล้วงลึกเข้าไปในตัวละครตัวหนึ่งที่ปรากฏในเรื่องเสมอ เธอก็คือเอลิส เรนเนียร์ ผู้มีพลังจิต ที่รับบทโดยลิน เชย์นั่นเอง

    เอลิสถูกฆ่าตายระหว่างความพยายามที่จะช่วยเหลือครอบครัวแลมเบิร์ท แต่ "ผมรักตัวละครตัวนี้และสงสัยว่าผมจะดึงเธอกลับมาได้ยังไง" วันเนลกล่าว "ผมไม่อยากได้ "ผีเอลิส" ผมอยากได้เธอแบบเป็นๆ! คนชื่นชอบการเล่าเรื่องแบบกินเวลาที่เราใช้ในภาคสองและผมก็รู้สึกว่ามันจะช่วยผมในการหาเรื่องราวที่จะสร้างความหมายที่ลึกซึ้งกว่าให้กับการเดินทางของเอลิสครับ"

    "ผมเริ่มคิดเรื่องราว ที่เป็นพรีเควล ที่เกิดขึ้นสองสามปีก่อนภาคแรก ที่คอนเซ็ปต์หลักของ Insidious จะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา และที่เราจะสามารถสำรวจแบ็คกราวน์ของเอลิสได้ พอผมเริ่มลงมือเขียน ผมก็ตกหลุมรักเรื่องราวนี้ครับ"

    วาน กล่าวว่า "ลินเป็นนักแสดงที่คุณชอบให้อยู่ในกองถ่ายเพราะเธอทุ่มเท 100% ตลอดเวลา ถ้าคุณเป็นมือเขียนบท คุณจะรู้สึกมีกำลังใจที่นักแสดงมาคุยกับคุณเรื่องบทมากขนาดนี้น่ะครับ ผมได้คุยกับลินบ่อยๆ ระหว่างที่ผมเขียนบท Insidious: Chapter 3 และผมก็รู้สึกว่าเราทำให้ตัวละครของเธอแข็งแรงขึ้นกว่าในสองภาคแรกเสียอีก เพราะในภาคนี้ เธอมีระดับอารมณ์ที่เธอสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีครับ"

    วันเนล เล่าว่า "ผมเริ่มมองความเปลี่ยนแปลงของเอลิสใน Insidious: Chapter 3 ว่าเป็นการสร้างกรอบใหม่ให้กับเรื่องราวเวสเทิร์นคลาสสิกของมือปืนที่กลับมาจากการแขวนปืน หรือในสมัยนี้ อาจเป็นมือสังหารก็ได้ที่ทำแบบนั้น แต่เราได้เห็นผู้หญิงอายุมากทำแบบนั้นบ่อยแค่ไหนกันเชียว"

    "ตอนที่เราได้พบเอลิสกับทัคเกอร์และสเป็คส์ (เพื่อนร่วมงานของเธอ) ในภาคแรก เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีความหลังด้วยกัน ผมก็เลยสามารถล้วงลึกเข้าไปได้ว่าพวกเขาพบกันได้ยังไง และเชื่อมโยงมันกับภาคแรกผ่านทางรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มันจะมี "ไข่อีสเตอร์" สำหรับแฟนๆ ครับ และทุกวัน ผมก็จะถามตัวเองว่า ‘แฟนๆ จะคิดยังไง" ผมไม่อยากทำให้พวกเขาผิดหวัง เพราะพวกเขาตอบสนองกับความพิลึกพิลั่นในแฟรนไชส์นี้อย่างดีเยี่ยมครับ"

http://www.siamdara.com