พวกปั้มเหรียญไลน์เจอดี! Line สั่งแบนอีมี่มือถือ แชทไม่ได้ตลอดชีพ ขายมือสองตั้งค่าโรงงานก็ใช้ไม่ได้
2015-05-11 14:00:01
Advertisement
คลิก!!!

ไลน์ตัดสินใจแบนบัญชีผู้ใช้และอีมี่โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ที่ก่อเหตุทุจริตสั่งซื้อเหรียญชำระผ่านเครือข่าย "เอไอเอส-ดีแทค" แล้วรายงานขอเงินคืนจากทาง PlayStore ของกูเกิล สร้างความเสียหายจำนวนมาก ด้านผู้ก่อเหตุโวยไม่น่าทำกันแรงขนาดนี้ คนซื้อมือถือมือสองจะซวย
       
       วานนี้ (10 พ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ไลน์ (Line) แอปพลิเคชั่นส่งข้อความและโทรหากันฟรี และวีดีโอคอลล์ที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้เล่นชาวไทย ได้ตัดสินใจแบนชื่อผู้ใช้ และรหัสประจำตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือ 16 หลัก หรือ อีมี่ (IMEI) แก่ผู้ที่ก่อเหตุทุจริตการซื้อเหรียญไลน์ชาวไทย ที่ใช้มือถือเครือข่าย เอไอเอส และดีแทค เป็นจำนวนมาก เป็นผลทำให้ผู้ที่ก่อเหตุไม่สามารถใช้แอปพลิเคชั่นไลน์กับบัญชี หรือโทรศัพท์สมาร์ทโฟนนั้นๆ ได้ตลอดชีวิต แม้จะเปลี่ยนบัญชีผู้ใช้ หรือลบข้อมูลด้วยการตั้งค่าโรงงาน (Factory Reset) แล้วก็ตาม ตามรายงานของกระทู้ในเว็บไซต์พันทิป
       
       ก่อนหน้านี้ได้มีสมาชิกพันทิปรายหนึ่ง ออกมาเปิดเผยถึงขั้นตอนทุจริตการซื้อเหรียญไลน์ แล้วนำมาใช้ขายสติกเกอร์ไลน์แบบตัดราคา ทำให้ผู้ที่ซื้อเหรียญไลน์จำนวนมากโดยวิธีที่ถูกต้องเพื่อขายสติ๊กเกอร์ไลน์ให้แก่ลูกค้าที่สนใจเริ่มอยู่ไม่ได้ โดยใช้วิธีนำซิมการ์ดเครือข่ายเอไอเอส และดีแทค ซึ่งในซิมการ์ดต้องมียอดเงินคงเหลือมากกว่า 32 บาทขึ้นไป (1 เหรียญสหรัฐฯ) และเตรียมอีเมลที่มีการใช้งาน 1 เดือนขึ้นไป ทำการตั้งค่าการจัดการเหรียญ กดมุมขวามือ เติมเงิน แล้วเลือก บริการเรียกเก็บเงินจากดีแทค หรือเอไอเอส กรอกรายละเอียด กดตกลงแล้วกดซื้อเหรียญ 50 ตกลง
       
       ก่อนที่จะเข้าไปรายงานขอเงินคืนที่เว็บไซต์บัญชี PlayStore ของกูเกิลแล้วก็กดรายงาน หลังจากนั้นจะได้ยอดเงินกลับมา แล้วทำแบบนี้อีกรอบจนกว่าจะครบ 10 ครั้ง หลังจากนี้ให้เปลี่ยนอีเมลบัญชี PlayStore ใหม่ โดย 1 ไอดีสามารถสั่งซื้อได้ 10 ครั้ง ทำการซื้อเหรียญตามปกติ เมื่อซื้อเหรียญได้เเล้วทำการรายงานเพื่อของเงินคืนจากผู้ให้บริการ เมื่อเราขอเงินคือเเล้วระบบจะไม่หักเหรียญที่อยู่ในไลน์
       
       ภายหลังจากที่มีการเปิดเผยขั้นตอนการทุจริตดังกล่าว ทางผู้ให้บริการชื่อดังอย่าง เอไอเอส และดีแทค ได้อุดช่องโหว่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับเรียกเก็บค่าบริการย้อนหลังแก่เลขหมายที่ลงทะเบียนซิมการ์ดทั้งระบบรายเดือนและเติมเงิน โดยผู้ที่ใช้เลขหมายระบบเติมเงินจะแสดงยอดเงินคงเหลือติดลบสูงถึงหลักหมื่นบาท โดยหากไม่ได้เติมเงินเพื่อให้ยอดเงินที่ติดลบลดลง ก็จะไม่สามารถโทรออก รับสาย หรือใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ จนกว่าจะทิ้งซิมการ์ด บางรายเกิดภาวะบิลช็อกเป็นจำนวนเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ตามแต่ความถี่ที่ลงมือกระทำ
       
       อย่างไรก็ตาม หลังจากไลน์ได้กำหนดมาตรการยาแรงเช่นนี้ออกมา ทำให้ผู้ที่ลงมือกระทำการทุจริตหลายรายแสดงความไม่พอใจ เห็นว่าเป็นการออกมาตรการที่แรงเกินไป ถึงกับแบนเลขอีมี่โทรศัพท์มือถือ ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ถึงจะใช้งานได้ บางรายเห็นว่าแก้ปัญหาแบบนี้ไม่ควรเปิดบริการต่อ เพราะการทุจริตปั้มเหรียญไลน์เป็นแค่บัคของระบบ แทนที่จะดึงยอดเหรียญก็จบ เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แทนที่จะปรับปรุงระบบตัวเองให้ดีขึ้น ไม่ใช่มาไล่แบนกันแบบนี้ และหากคนที่ถูกแบนเอาเครื่องไปขายร้านมือถือมือสอง คนที่มาซื้อมือถือต่อจะซวย ซื้อโทรศัพท์ไปใช้ไลน์ไม่ได้ บางรายกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถึงสรยุทธ์ ฯลฯ เป็นต้น

 
ขอขอบคุณที่มา  http://www.manager.co.th/
 
 
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X