|
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 19 เม.ย. พ.ต.ท.คงกระพัน วังคำกฤษทรัพย์ พนักงานสอบสวน ชำนาญ สภ.วังสะพุง อ.วังสะพุง จ.เลย ได้รับแจ้งจากนายสุวิทย์ คำภาหล้า ผู้ใหญ่บ้านบ้านนาอีเลิศ หมู่ 7 ต.วังสะพุง อ.วังสะพุง จ.เลย ว่าพบศพนายไพบูลย์ สีสุข อายุ 56 ปี ลูกบ้าน เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพัก ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง จึงรายงาน พ.ต.อ.สุจินจินต์ ผกก.สภ.วังสะพุงทราบ จากนั้นจึงพร้อมแพทย์จาก รพ.วังสะพุง อาสามูลนิธิสว่างคีรีธรรมเลย จุดวังสะพุง เดินทางไปร่วมทำการชันสูตรพลิกศพทันที
เมื่อไปถึงบ้านที่เกิดเหตุ มีสุวิทย์ คำภาหล้า ผู้ใหญ่รออยู่ และมีชาวบ้านมุงดูจำนวนมาก บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว 2 หลังปลูกติดกันอยู่ภายในรั้วเดียวกัน พบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือ นายไพบูลย์ สีสุก เสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอน สภาพศพบวมอืด ส่งกลิ่นเหม็น มีเลือดและน้ำเหลืองไหลนองออกมานอกห้อง เจ้าหน้าที่ต้องปิดจมูก สวมรองเท้า และจุดธูปเพื่อไล่กลิ่นเหม็น ทั้งนี้ การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่ตรวจร่างกายไม่พบร่องรอยบาดแผล หรือการต่อสู้แต่อย่างใด สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6 วัน
นายสุวิทย์ คำภาหล้า ผู้ใหญ่บ้านเล่าว่า เมื่อเช้าวันนี้พาลูกบ้าน ออกตระเวนไปภายในหมู่บ้านเพื่อรับบริจาคหาเงินเพื่อไปทำบุญ เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าว ก็มีกลิ่นเหม็นลอยออกมาจากในบ้าน ด้วยความสงสัยจึงพร้อมลูกบ้านช่วยกันงัดบ้านเข้าไปภายใน พบนางอบ สีสุข อายุ 95 ปี มารดาของผู้ตายถูกขังอยู่ภายในห้องรวมกับศพลูกชาย นอนหมดแรงหายรวยริน จึงช่วยกันนำออกมานอกบ้านพร้อมปฐมพยาบาล ให้น้ำให้อาหาร แต่ยังไม่สามารถให้การใดๆ ได้
สอบถามนางบุญ บุญมาชม อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่เดียวกัน เล่าว่า ครอบครัวนี้มีลูก 4 คน แต่งงานออกเรือนไปรับราชการยังต่างจังหวัดหมด เหลือเพียงนายไพบูลย์ลูกชายคนที่ 2 ที่ยังไม่มีครอบครัวคอยเลี้ยงมารดา แต่ตัวนายไพบูลย์เองมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน ความดัน และโรคหัวใจ ต้องไปหาหมอประจำ ลูกคนอื่นนานๆ จะมาเยี่ยมครั้งหนึ่ง ปกติจะอยู่ภายในบ้านเพียง 2 คนแม่ลูก ไม่ค่อยออกมาคุยกับเพื่อนบ้าน แต่มา 5 วัน ก่อนเห็นบ้านปิดสนิทจึงนึกว่า ลูกหลานมารับไปเที่ยวสงกรานต์ จึงไม่ได้เอะใจ จนผู้ใหญ่มาแจ้งทราบ คาดว่าคงขาดยา หรือเกิดหัวใจล้มเหลว และแม่ที่แก่แล้ว ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ จจึงติดอยู่ภายในห้องกับศพลูกชาย ได้แต่นำผ้าห่มมารองซับเลือด และน้ำเหลืองที่ไหลออกมาจากศพ ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน
ต่อมาเวลา 10.00 น. ลูกชายคนโตของนางอบ ที่ทำงานอยู่ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู ทราบข่าวเดินทางมาถึง และไม่ติดใจการเสียชีวิต จึงมอบให้ญาติบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
ขอขอบคุณที่มา ข่าวสดออนไลน์