นับถอยหลังสู่ Avengers: Age of Ultron 13 เกร็ดน่ารู้อุ่นเครื่องก่อนไปสนุกในโรง
2015-03-31 19:40:05
Advertisement
คลิก!!!

Avengers: Age of Ultron ภาคต่อของหนังรวมพลซูเปอร์ฮีโร่ค่ายมาร์เวลที่มีคนตั้งตารอชมมากที่สุดในช่วงซัมเมอร์นี้ จะเข้าโรงฉายในประเทศไทยในวันที่ 30 เม.ย. นี้แล้ว หรือใครที่อดใจรอไม่ไหว ในทางเทคนิคแล้วก็สามารถไปชมได้ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. เพราะจะมีรอบฉายตั้งแต่เวลา 19.00 น. ก่อนจะเข้าฉายอย่างเป็นทางการในวันต่อมา

    แต่ก่อนที่จะเข้าไปสนุกกันในโรงภาพยนตร์ ทาง ดิสนีย์ สตูดิโอส์ มีเกร็ดสนุกๆ 13 อย่างที่อยากให้แฟนๆ รู้ไว้ก่อนเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องและจะได้ไปชมภาพยนตร์กันอย่างมีอรรถรสมากขึ้น ซึ่งข้อมูลที่เปิดเผยมานี้มีการยืนยันพลังของสการ์เลตวิตช์ เช่นเดียวกับอาวุธใหม่ๆ และการปรับเปลี่ยนชุดของสมาชิกทีมอเวนเจอร์ รวมถึงเรื่องที่ บรูซ แบนเนอร์ หรือ ฮัล์ค ถูกติดตามสะกดรอยด้วยดาวเทียมวงโคจรต่ำ
    
    อย่างที่เห็นกันไปในทีเซอร์ตัวอย่างล่าสุดที่ มาร์เวล สตูดิโอส์ ปล่อยออกมา สตาร์คทาวเวอร์ที่เห็นกันใน The Avengers ตอนนี้ถูกปรับโฉมใหม่ให้กลายเป็น "อเวนเจอร์สทาวเวอร์" ที่ทำการของเหล่าอเวนเจอร์ หลังจากหน่วยชีลด์ล่มสลายไปแล้ว ดังนั้นด้วยเทคโนโลยีและมันสมองของ โทนี่ สตาร์ค ร่วมมือกับ บรูซ แบนเนอร์ เหล่าซูเปอร์ฮีโร่ที่หาญกล้าที่สุดของโลกจึงได้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นมาอยู่ในมือ

    1) "ฮัล์ค" ได้รับชุดแบบใหม่ที่อัพเกรดขึ้นด้วยเทคโนโลยีผ้ายืดหยุ่นซึ่งเขาจะสวมมันไว้ใต้เสื้อผ้าของเขา เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องเผชิญกับสถานการณ์น่าอับอายเมื่อร่างกายกลับมาเป็น บรูซ แบนเนอร์ ในสภาพกึ่งเปลือยที่มีเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ดังนั้นด้วยชุดที่อัพเกรดใหม่นี้ เวลาเขาปลดปล่อยเจ้ายักษ์เขียวออกมา เขาจะมีกางเกงที่ยืดขยายออกตามขนาดตัวเขา และหดกลับมาได้อย่างไม่เสียรูปทรง

    2) ขอบคุณทักษะทางวิศวกรรมของ โทนี่ สตาร์ค ทำให้ "ฮอว์กอาย" ได้รับการพัฒนาอาวุธของเขาขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ตอนนี้เขามีหัวลูกธนูหลายแบบมากเอาไว้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ กันไป ธนูบางแบบมีการอธิบายในหนัง ขณะที่บางแบบผู้ชมจะได้แค่เพลิดเพลินกับการมองเห็นมันอยู่ในจอ นอกจากนี้กระบอกบรรจุลูกธนูของฮอว์กอายยังเปลี่ยนไปด้วย มันสามารถโหลดลูกธนูใหม่ได้เร็วและเป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้น และสามารถบรรจุได้ 9 ดอก

    3) คันธนูของฮอว์กอายยังได้รับการปรับรูปโฉมใหม่อีกด้วย โดยจากสีดำคลาสสิกเปลี่ยนเป็นสีแดงม่วงอมน้ำตาล และมีการเสริมเทคโนโลยีต่างๆ เข้าไป รวมถึงอุปกรณ์มองภาพด้วยรังสีอินฟราเรด และอุปกรณ์จับภาพด้วยคลื่นโซนิค

    4) มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นสำหรับโล่ของ "กัปตันอเมริกา" เพราะตอนนี้มันมีระบบให้สามารถเรียกโล่กลับมาได้แล้ว คล้ายๆ กับระบบในชุดเกราะของไอรอนแมน และแทนที่จะต้องมีตัวจับ 2 ตัวอยู่ใต้โล่เหมือนแต่ก่อน ตอนนี้โล่กลายเป็นอุปกรณ์แม่เหล็กที่สามารถติดอยู่กับปลอกแขนของกัปตันอเมริกา

    5) ด้วยความเอื้อเฟื้อของ โทนี่ สตาร์ค อีกเช่นเคย "แบล็ควิโดว์" ได้รับกระบองสั้นแบบใหม่ไว้สำหรับต่อสู้ โดยอ้างอิงรูปแบบมาจากกระบองเอสคริมา แต่กระบองของแบล็ควิโดว์ถูกปรับให้เป็นเหมือนเหล็กในของเธอ ดังนั้นเมื่อเธอแทงกระบองเข้าไป เธอไม่ได้แค่โจมตีศัตรูของเธอธรรมดาๆ แต่ยังปล่อยคลื่นพลังไฟฟ้าเข้าไปด้วย

    6) ในหนังเรื่องนี้ ชาร์ลส์ วู้ด ผู้ออกแบบการผลิต และทีมงานของเขาได้สร้างอเวนเจอร์สทาวเวอร์ที่ใหญ่และใหม่เอี่ยมขึ้นมา นี่เป็นฉากขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยสร้างมาในหนังของมาร์เวล เรื่องราวส่วนใหญ่ของหนังเกิดขึ้นในตึกอเวนเจอร์สทาวเวอร์ตามชั้นต่างๆ กัน หน้าต่างกระจกขยายใหญ่ทำให้มองเห็นวิวของนครนิวยอร์ก ซิตี้ และยังมีลานจอดเครื่องบินควินเจ็ตอยู่ชั้นบนอีกด้วย สภาพแวดล้อมที่หลากหลายเชื่อมโยงกันหมดด้วยความสามารถที่จะขึ้นลงชั้นต่างๆ ได้ตามต้องการ

    7) อเวนเจอร์สทาวเวอร์ถูกออกแบบมาให้สอดรับกับเรื่องราวในหลายแง่มุม โดยตามท้องเรื่อง ศูนย์บัญชาการแห่งใหม่ของทีมอเวนเจอร์เป็นฝีมือการสร้างและออกแบบของ โทนี่ สตาร์ค เพื่อเป็นสถานที่ไว้ให้เหล่าอเวนเจอร์ได้วางแผน ทำงาน ผ่อนคลาย หรือศึกษาหาความรู้ ในตึกมีพื้นที่ที่เป็นส่วนพักผ่อน มีพื้นที่ห้องแล็บ 3 ส่วน และยังมีห้องเครื่องจักร โรงยิม พื้นที่สันทนาการ และห้องล็อกเกอร์ ตึกสูงแห่งนี้ยังออกแบบเพื่อจัดการทุกอย่างที่ โทนี่ สตาร์ค จำเป็นต้องมีสำหรับงานและการวิจัยของเขา

    8) ตัวละครจากหนังสือการ์ตูนที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลคือ แวนด้า (สการ์เลตวิตช์) และ ปิเอโตร มักซิมอฟฟ์ (ควิกซิลเวอร์) ซึ่งมีพลังแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนบนจอภาพยนตร์ ปิเอโตรนั้นรวดเร็วประหนึ่งความเร็วแสง ขณะที่แวนด้าครอบครองพลังโทรจิต และเธอสามารถส่งกระแสประสาทเข้าไปในสมองของผู้คนโดยใช้พลังของเธอ และนั่นทำให้เธอสามารถปั่นหัวคนอื่นได้ง่ายๆ

    9) อีกหนึ่งตัวละครใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในทีมอเวนเจอร์ได้แก่ "วิชั่น" รับบทโดย พอล เบ็ตทานี่ ซึ่งเคยให้เสียงพากย์เป็น จาร์วิส ผู้ช่วยของ โทนี่ สตาร์ค ในหนัง Iron Man เขาเป็นรูปแบบชีวิตประดิษฐ์ซึ่งดูมีเอกลักษณ์อย่างแท้จริง พลังของวิชั่นน่าตื่นตาตื่นใจมาก และเขาจะเป็นฐานพลังใหม่ให้กับทีมอเวนเจอร์

    10) "ฮัล์คบัสเตอร์" เป็นชุดเกราะที่พัฒนาขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีเกราะไอรอนแมน เป็นชุดเกราะที่ออกแบบขึ้นเพื่อรับมือกับเจ้ายักษ์เขียว "ฮัล์ค" ชุดเกราะฮัล์คบัสเตอร์เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่าง โทนี่ สตาร์ค และ บรูซ แบนเนอร์ หลังจากพวกเขาศึกษากายภาพของฮัล์คและระดับความแข็งแกร่งเพื่อหาวิธีควบคุมเขาและจำกัดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการอาละวาดของเขา มีดาวเทียมวงโคจรต่ำคอยจับอยู่ที่แบนเนอร์ตลอดและสามารถจับสัญญาณความผิดปกติได้ทันท่วงที โทนี่ สตาร์ค สามารถใช้งานเกราะฮัล์คบัสเตอร์ด้วยการเข้าไปควบคุมจากภายในและขวางทางฮัล์คเอาไว้ นี่คือแนวคิดในทางทฤษฎี

    11) เครื่องบินควินเจ็ตถูกปรับรูปโฉมใหม่ให้ดูใช้ในการศึกได้มากขึ้น และนักบินสามารถมองทัศนวิสัยรอบๆ ได้ดียิ่งขึ้นระหว่างบิน การออกแบบห้องนักบินใช้หลักการเดียวกับเฮลิคอปเตอร์โดยมีกระจกข้างหน้าและข้างใต้ ซึ่งจะทำให้ผู้ชมสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงความเร็วเวลาควินเจ็ตบินผ่านท้องฟ้าเหนือเมือง การตกแต่งภายในถูกปรับให้ใช้งานได้อเนกประสงค์มากขึ้นและมีพื้นที่ใช้สอย และมีการนำบางส่วนออกไปเพื่อให้มีรูปลักษณ์ดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น

    12) สิ่งพิเศษในการถ่ายทำที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ คือการใช้โดรนและรถบังคับวิทยุเพื่อนำกล้องไปถ่ายในที่ที่ตากล้องหรือเฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถเข้าไปถ่ายตรงจุดนั้นได้ ทีมงานได้รับความช่วยเหลือจากพี่น้องเมนส์ทรู พา ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการบังคับโดรน ซึ่งมีดีกรีเป็นแชมป์ของประเทศเกาหลีใต้ และ พัค มิน คู แชมป์รถบังคับวิทยุของเกาหลีใต้เช่นกัน

    13) การแต่งตัวของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่สำหรับฉากงานปาร์ตี้สำคัญเป็นภารกิจที่ตกอยู่ในมือของ อเล็กซานดร้า เบิร์น นักออกแบบเสื้อผ้าประสบการณ์สูง ในเมื่อนี่เป็นครั้งแรกที่ "ธอร์" จะได้อยู่ในชุดปาร์ตี้แบบมนุษย์โลก เบิร์นทำงานร่วมกับ คริส เฮมส์เวิร์ธ เพื่อหาส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างกางเกงยีน เสื้อเชิ้ต และเสื้อแจ็กเกตที่จะเหมาะกับรูปร่างของเขาและไม่ดูแฟนซี การแต่งตัวให้ โทนี่ สตาร์ค นั้นง่ายกว่า โดยเฉพาะเมื่อ โรเบิร์ต ดาวนี่ย์ จูเนียร์ ต้องการให้ดูเป็นผู้รอบรู้ จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของ ซาวิล โรว์ ร้านตัดเสื้อชื่อดังของลอนดอน ที่จะตัดเสื้อผ้าเหล่านี้ออกมา และหลังจากลองเสื้อกันอยู่ 5 รอบ โทนี่ สตาร์ค ก็ดูภูมิฐานขึ้นมา


Avengers: Age of Ultron มีลุ้นรายรับเปิดตัวสูงสุดตลอดกาล

    
    ในเมื่อไม่สามารถโต้แย้งได้เลยว่า Avengers: Age of Ultron เป็นหนึ่งในหนังที่มีคนตั้งตารอชมมากที่สุดในปีนี้ และประเมินจากรากฐานที่ มาร์เวล สตูดิโอส์ สร้างมานานหลายปี รับประกันได้เลยว่าหนังรวมพลซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวลภาคนี้ยังจะโกยรายรับมหาศาลไม่ต่างจากภาคแรก แต่เมื่อกระแสของหนังดีขนาดนี้ คำถามต่อไปจึงเป็นว่า Avengers: Age of Ultron จะทำรายรับสุดสัปดาห์เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาสูงสุดเท่าที่เคยมีมาได้หรือไม่
    
    เจ้าของสถิติรายรับสุดสัปดาห์เปิดตัวสูงสุดในอเมริกาตอนนี้เป็นของ The Avengers เมื่อปี 2012 นั่นหมายความว่าหาก Avengers: Age of Ultron ทำรายรับเปิดตัวได้มากกว่าภาคแรก นี่ก็จะกลายเป็นหนังรายรับสุดสัปดาห์เปิดตัวสูงสุดของอเมริกาทันที โดย The Avengers นั้นเปิดตัวในอเมริกาไว้ที่ $207.4 ล้าน มีนักวิเคราะห์ประเมินว่า Avengers: Age of Ultron อาจจะเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกได้ถึง $217 ล้าน ซึ่งนั่นจะทำให้กลายเป็นสถิติใหม่ทันที มีหลายปัจจัยด้วยกันที่ทำให้นักวิเคราะห์บ็อกซ์ออฟฟิศมองว่าภาคต่อเรื่องนี้มีลุ้นเป็นเจ้าของสถิตใหม่

    1) ภาคต่อของหนังฟอร์มยักษ์ที่ประสบความสำเร็จมีแนวโน้มจะทำรายรับเปิดตัวสูงขึ้น เพียงแค่ไปตรวจสอบดูในเว็บไซต์บ็อกซ์ออฟฟิศอย่างเช่น Box Office Mojo ก็จะเห็นแนวโน้มนี้ได้ทันที The Dark Knight Rises เปิดตัวเหนือกว่า The Dark Knight ส่วน Spider-Man 3 เปิดตัวดีที่สุดในหนังชุด "ไอ้แมงมุม" ขณะที่ Iron Man 3 เปิดตัวดีกว่าภาคก่อนๆ มาก (แม้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้ The Avengers เป็นแรงเสริมด้วยก็ตาม) แม้แต่หนังที่ไม่ใช่แนวซูเปอร์ฮีโร่ Pirates of the Caribbean: Dead Man s Chest และ The Hunger Games: Catching Fire ก็ทำได้ดีกว่าภาคก่อนหน้า ดังนั้นเมื่อ The Avengers ประสบความสำเร็จทั้งเรื่องรายได้และกระแสตอบรับ จึงมีแนวโน้มสูงที่ Avengers: Age of Ultron จะเปิดตัวได้ดีมาก

    2) ค่าตั๋วหนังมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยในช่วงทศวรรษแรกของศตวรรษที่ 21 นั้น ค่าตั๋วหนังในอเมริกาขยับขึ้นมาเรื่อยๆ รวม 39 เปอร์เซ็นต์ และแม้ว่าอาจจะเพิ่มขึ้นถึง 5 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่ปี 2011 แต่ค่าตั๋วเฉลี่ยตอนนี้นั้นเพิ่มขึ้น 34 เปอร์เซ็นต์ จากตอนที่ The Avengers เข้าฉายเมื่อปี 2012 ดังนั้นถึงแม้จะมีคนซื้อตั๋วเข้าไปชม Avengers: Age of Ultron ในสุดสัปดาห์แรกเป็นจำนวนเท่าๆ กับภาคแรก นี่ก็จะทำรายรับได้สูงกว่าอยู่ดี

    3) ทุกอย่างดำเนินไปในทิศทางที่เป็นใจอย่างยิ่ง กระแสความคาดหวังต่อ Avengers: Age of Ultron นั้นสูงมากอย่างไม่น่าเชื่อ ในเว็บไซต์รอตเทนโตเมโตส์ หนังได้คะแนนผู้ชม 100 เปอร์เซ็นต์ เต็มจากผู้ใช้เกือบ 200,000 คน นั่นหมายความว่าพวกเขาทั้งหมดให้คะแนนความคาดหวังต่อหนังเรื่องนี้อย่างน้อย 3.5 ดาวจากคะแนนเต็ม 5 ดาว ขณะที่ผลสำรวจอื่นๆ ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยระบุว่า Avengers: Age of Ultron เป็นหนังที่ผู้คนตั้งตารอชมมากที่สุดในปี 2015 ร่วมกับ Star Wars: The Force Awakens และยิ่งกว่านั้น แม้ดิสนีย์และมาร์เวลจะปล่อยทีเซอร์ตัวอย่างออกมาแล้วหลายตัว แต่ยังมีรายละเอียดหลายอย่างถูกอุบเงียบเป็นความลับอย่างดีเพื่อรอให้ไปชมในโรงภาพยนตร์เท่านั้น

 

http://www.siamdara.com

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X