หลายครั้งที่พบว่าหนังไทยสนุกๆ ของค่ายใหม่ๆ หลายเรื่อง ทำการประชาสัมพันธ์โดยเฉพาะการใช้ตัวอย่างหนังได้อย่างไม่เข้าเป้า แต่สำหรับตัวอย่างหนัง “2538 อัลเทอร์มาจีบ” ที่แม้เราจะยังไม่รู้ว่าจะสนุกไหม แต่ผมรู้สึกว่าตัดตัวอย่างออกมาได้น่าสนใจ เล่าเรื่องย่อเท่าที่จำเป็นให้โดนใจเหล่าเจน Y ที่โหยหาอดีต มีฉากตลกที่น่ารักๆ และการใช้เสน่ห์ของนักแสดงได้อย่างชวนมอง ถือว่าเป็นการเปิดตัวหนังไทยเรื่องแรกจาการสร้างของโมโนพิกเจอร์สได้ค่อนข้างน่าประทับใจครับ

ตัวอย่างหนังชวนให้ผมนึกถึงหนังอย่าง “เจาะเวลาหาอดีต” หรือ Back to the Future แต่เป็นฉบับหนังฟีลกู๊ดแบบ “แฟนฉัน” ที่ตัวเอกย้อนเวลาไปยุคที่พ่อกับแม่เพิ่งจีบกัน และเจอแฟชั่นและวัฒนธรรมวัยรุ่นยุคนั้นที่แตกต่างและมีเสน่ห์อีกแบบ แถมยังตกหลุมรักสาวที่อยู่กันคนละช่วงเวลาซึ่งเราคงต้องมารอดูว่าจะลงเอยยังไงครับ

เก่ง – อนิวรรต กรกำแหง ผู้อำนวยการสร้างของหนังบอกถึงแรงบันดาลใจในการสร้าง “2538 อัลเทอร์มาจีบ” ว่ามาจากการที่เห็นวัยรุ่นยุคนี้ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ “เลยมาคิดว่ายุคที่เราไม่มีของพวกนี้มันก็สนุกนี่นา เวลาที่เราจะจีบผู้หญิงสักคนโดยที่ไม่มีไลน์ไม่มีมือถือ การที่ได้มองหน้ากันมันก็ดูโรแมนติกเหมือนกัน จึงเกิดไอเดียแรกว่าเราน่าจะทำหนังสักเรื่องหนึ่งที่พูดถึงการสื่อสารที่ดีกว่าการก้มหน้าก้มตาพิมพ์ตัวหนังสือ ยุคนั้นการใช้ชีวิตในหนึ่งวัน ผมว่ามันสนุก มีอะไรนอกเหนือจากในโลกออนไลน์เยอะมาก ภาพจำในช่วงที่เราจีบสาวจะมีของเล่นเยอะ เช่น เทปคาสเซ็ท บัตรจีบ เพจเจอร์ โทรศัพท์สาธารณะ โทรหาใครก็ต้องโทรไปเบอร์บ้าน ยกตัวอย่าง เวลานัดใครสักคน นัดเจอกันแปดโมง ถ้าไม่มาหรือมาสาย ก็อาจจะไม่ได้เจอก็ได้ ทำให้เรารู้ว่านัดครั้งนั้นสำคัญมาก หรืออย่างโทรไปบ้าน เราต้องรู้ว่าตอนนี้เขาอยู่บ้าน เวลาโทรไปถึงจะเจอเขา ถ้าเป็นปัจจุบันคือนึกจะโทรเมื่อไรก็ได้ หรืออย่างการส่งเพจเราก็ต้องคิดก่อนส่ง ต้องสั้นด้วย ยาวไม่ได้ และต้องครีเอทให้เขาเข้าใจได้ด้วย”

หนังกำกับโดยเสือ ยรรยง คุรุอังกูร นำแสดงโดย ใบเฟิร์น – พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์, เนตั้น – แดนอรุณ รามณรงค์, แวน – ชนินทร จิตปรีดา และ โฟน – ชลกาญจน์ พวงน้อย จะเข้าฉาย 19 มีนาคมนี้ครับ คลิกชมตัวอย่างด้านใน

เรื่องย่อ

ปี 2558 ในยุคที่ทุกอย่างดูรวดเร็วไปหมด ก้อง (เนตั้น – แดนอรุณ รามณรงค์) เด็กหนุ่มวัยรุ่นที่มีเฟซบุ๊กเป็นบ้านหลังที่สอง มีสมาร์ทโฟนเป็นปัจจัยที่ห้า เขามองว่าความรักก็เหมือนการเล่นไลน์ รักแล้วไม่ต้องรอ ส่งสติกเกอร์เดี๋ยวเดียวรู้เรื่อง แน่นอนว่าเขาไม่เคยเข้าใจความรักของพ่อแม่ที่กว่าจะรักกันได้ต้องใช้เวลาขนาดไหน แต่ไม่ทันไร ก้องก็ได้รู้เรื่องสมใจ เมื่อเขาไปเจอเพจเจอร์เก่ากึ๊กของพ่อที่อยู่ดีๆ ก็มีข้อความส่งมาให้โทรกลับ แต่บังเอิญสมาร์ทโฟนคู่ใจแบตหมด เขาจึงไม่รอช้า ควักเหรียญหยอดตู้โทรศัพท์โทรไปเบอร์นั้นทันที!

ก้องลืมตาขึ้นมาอีกที ก็พบว่าตัวเองอยู่ในปี 2538 ปีที่วัยรุ่นทุกคนยังฟังเพลงผ่านเทปคาสเซ็ท วงดนตรีอัลเทอร์เนทีฟอย่างวงพราว อรอรีย์ สไมล์บัฟฟาโล่ กำลังโด่งดังแบบสุดๆ และที่สำคัญวัยรุ่นยังจีบกันผ่านเพจเจอร์อยู่เลย ก่อนที่เขาจะได้พบกับพ่อหรือ ตั้ม (แวน – ชนินทร จิตปรีดา) และแม่หรือ แหม่ม (โฟน – ชลกาญจน์ พวงน้อย) ที่ยังเป็นวัยรุ่นอัลเทอร์ฯ สุดจี๊ด แต่นั่นยังไม่จี๊ดเท่ากับได้เจอ ส้ม (ใบเฟิร์น – พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) เด็กสาววัยรุ่นสุดเปรี้ยวสมชื่อที่เขาตกหลุมรักเธอรวดเร็วราวกับส่งสติกเกอร์ไลน์ จนอยากเอาเธอมาจีบเสียเหลือเกิน แต่ดูเหมือนจะผิดที่ผิดทางผิดเวลาไปหน่อย เพราะส้มคือมือที่สามที่จะมาแย่งตั้มไปจากแหม่ม พูดง่ายๆ ส้มคือตัวแปรสำคัญที่จะทำให้เขาไม่ได้เกิดมา!

ก้องจึงต้องพยายามทำทุกทางเพื่อให้พ่อกับแม่ได้สมหวังกัน ขณะเดียวกันหัวใจเขาก็ได้เทให้ส้มไปหมดแล้ว เพราะเธอคือคนที่ทำให้เขารู้ว่า ความรักก็เหมือนฟังเทป รักแล้วต้องรอ ไม่ใช่กรอไปฟังเพลงไหนก็ได้

งานนี้ได้แต่ร้องเพลงรอลุ้นว่าก้องจะทำอย่างไรกับปัญหาหนักหัวใจครั้งนี้ แล้วเขาจะกลับมายุคปัจจุบันเพื่อมาอัพสเตตัสเฟซบุ๊กได้อีกครั้งหรือไม่?

cr. http://jediyuth.com