“ประภาส ชลศรานนท์, สังข์ ธีรวัฒน อนุวัตรอุดม (ผู้กำกับ), ครูเงาะ รสสุคนธ์ กองเกตุ (ผู้กำกับร่วม), ครูเอ้ อัษฎาวุธ สาคริก” (ทายาทหลวงประดิษฐ์ไพเราะ) พร้อมด้วยนักแสดง “อาร์ม กรกันต์ สุทธิโกเศศ, แนน สาธิดา พรหมพิริยะ, สุประวัติ ปัทมสูต, โย่ง อาร์มแชร์, ป๋อม ชัยยุทธ โตสง่า, ปอ AF 7” ร่วมกันแถลงข่าว การจัดละครเวทีครั้งแรกของโรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ สยามสแควร์วัน ชั้น 7 มีการโชว์เล่นระนาด และร้องเพลงให้ฟังเล็กน้อย เพื่อเชิญชวนให้มาชมของจริง
       
       “สังข์ ธีรวัฒน อนุวัตรอุดม” ผู้กำกับ
        
       “โรงละครเปิดใหม่ ประเดิมด้วยโหมโรง ก็อยากให้ทุกท่านได้มาชมกัน พวกเราซ้อมมาระยะหนึ่งแล้ว ยิ่งซ้อมก็ยิ่งรู้สึกว่า ละครเรื่องนี้ดีงามเหลือเกิน ความพร้อมตอนนี้เกินครึ่งแล้วครับ วันนี้เราโชว์การประชันของขุนอินกับนายศร แต่วันแสดงจริงจะแสดงมากกว่านี้ มีแอ็คติ้งมากกว่านี้ แล้วมีออเคสตร้าด้วย ทั้งหมดทั้งมวลเป็นปี่พาทย์ผสมเพลงสากล
        
       ต้องยกความดีความชอบให้กับพี่ “อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์” ถ้าแกไม่ริเริ่มทำเรื่องโหมโรงให้เป็นภาพยนตร์ บทภาพยนตร์ที่แกทำเป็นบทภาพยนตร์ที่ดีมากๆ เนื้อหาดีมากๆ เราเอามาทำให้ดีขึ้นไปอีกเท่าที่เราจะทำได้ หวังว่าคนดูเรื่องนี้แล้วจะสนุก ได้รับความบันเทิง อย่างอื่นเป็นของแถม มีแง่คิดบางอย่างยิ่งดีเข้าไปใหญ่
        
       คำว่าไร้รากไร้แผ่นดิน เราไม่ได้หมายถึงรากของดนตรีไทยเท่านั้น ผมอยากให้ดูเรื่องนี้แล้วหวนนึกถึง รากที่เราใกล้ชิดผูกพัน ถ้าเรามีความรักในรากนั้น เราจะไม่มีทางที่จะไร้รากได้ เพราะการรักษารากต้องเริ่มจากความรัก ผมพยายามเสนอแก่นนี้ เราจะเอาฉากที่มีเวลาน้อยในหนัง หรือฉากที่ตัดทิ้งมาขยาย”
       
       “สุประวัติ ปัทมสูต” 
        
       “ถ้าไม่มากัน เราอยากจะบอกว่า เราเสียใจแทนท่าน ของดีๆ ท่านน่าจะได้มาชมกัน เพื่ออรรถรสในหลายรูปแบบ ทางดนตรีไทย ทางละคร ที่จะเชิดชูเอกลักษณ์ของชาติ แล้วจะรู้ว่าฝีมือการแสดง ฝีมือการกำกับ เป็นการเฉลิมฉลองเปิดโรงใหม่ ไม่ผิดหวังแน่ครับ เราเติมในสิ่งที่เราคิดว่าอยากเติม แต่ไม่ทำให้บทเดิมเสีย
        
       ที่สำคัญที่สุดไม่ทำให้ชีวิตของท่านครูที่มีจริง ชีวิตคนเราทำไมถึงเจ็บปวดขนาดนั้น ถ้าเราไม่คิดถึงว่าเราผ่านมาถึงตรงนี้ บรรดาระนาดตะโพนยังอยู่ คิดถึงตรงนั้นที่เขาจะกำจัดไปหมดแล้ว ถ้าเรารักดนตรีไทยเราก็จะแป๊วกันหมด เราจะเหลืออะไรกันล่ะ จะฟังงิ้ว ฟังดนตรีเกาหลี หรือ
        
       คุณต้องคิดว่าคุณมาดูละครฝรั่ง ซึ่งที่ไหนก็เสนอรูปแบบละครบรอดเวย์แบบฝรั่ง แต่การที่เอาศิลปวัฒนธรรมไทยใส่ เรื่องราวเผอิญเป็นไทยพอดี แต่เราเสนอแนวทางแบบฝรั่ง จะเร็ว เวลาเข้าเรื่อง เวลาระนาดตี มันมีเรื่องราวในนั้นนะ
        
       ผมเป็นคนที่ดูภาพยนตร์ไทยน้อย โหมโรงเป็นภาพยนตร์ที่เขาทำได้เฉียบขาด เขาคิดได้ยังไง เขากล้าดียังไง เอาความเสี่ยงมาเสี่ยง พอมาถึงตอนนี้ ซ้อมมาเกือบสองเดือน ได้คำตอบว่า เขากล้าดีอย่างนี้เอง คือทำแล้วมันมีเสน่ห์ของมัน
        
       แล้วยิ่งมาเล่นสดๆ ด้วย จะรู้ว่าผิดไปจากโหมโรงภาพยนตร์เกือบจะสิ้นเชิง นอกจากสตอรี่ที่คงไว้ แต่ความรู้สึกของตัวละคร การสลับฉาก การให้น้ำหนัก การระบายสีที่แตกต่างกัน บนพื้นภาพอันเดียวกัน มันคือเสน่ห์ของความสนุกครับ”
       
       “ครูเงาะ รสสุคนธ์ กองเกตุ” ผู้กำกับร่วม
        
       “ดนตรีไทยจะเบื่อไหม ต้องบอกว่าเรื่องนี้เป็นบทที่สนุก เวลาเราอ่านบทจะรู้สึกอย่างนั้นอย่างนี้ แต่บทอันนี้อ่านแล้ววางไม่ลง ด้วยบทเดิมเขาดีอยู่แล้ว พอผ่านออกมาเป็นการแสดงสด นึกถึงภาพเมื่อกี้ที่เห็นเขาประชันกัน แค่เสี้ยวเดียวนะ ยังรู้สึกลุกฮือ เราไม่เคยเห็นภาวะการเล่นระนาดสดแบบนี้ รู้สึกว่ามันเร้าใจ มันสนุก
        
       อยากให้ทุกคนมาเห็น เราไม่สามารถบอกได้ว่า ดีๆๆ ที่เงาะพูด มันอาจจะไม่พอ เพราะว่าอันนี้มันครบรส สนุก ตั้งแต่ต้นจนจบจริงๆ มั่นใจว่าเด็กไทย เด็กวัยรุ่น ถ้าได้มาดู เขาจะรู้สึกว่าดนตรีไทยเป็นอะไรที่เท่ ไม่ใช่แบบที่เขาเคยคิดอีกต่อไปแล้ว เขาจะรู้สึกว่า “เฮ้ย อยากไปเรียนระนาด” คนที่ดูเรื่องนี้นะ เงาะมั่นใจ”
       
       “อาร์ม กรกันต์ สุทธิโกเศศ”
        
       “ก่อนโชว์เมื่อกี้ ก็ไหว้พระไหว้เจ้าหลายรอบ ที่แน่ๆ ลืมไม่ได้ต้องไหว้ท่านหลวงประดิษฐ์ไพเราะ ผมมองว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นมาจากแรงบันดาลใจจากชีวิตจริงของท่าน หลายๆ ฉากที่ผมได้มีโอกาสอ่านชีวิตของท่าน มันมาทั้งฉากเลย เรื่องราวชีวิตจริงเหล่านั้นอยู่ในละครเลย หนังก็มี ละครเวทีก็มี เรื่องนี้ยาก ต้องตีระนาดสดๆ ยังไม่พอ พี่สังข์ พี่เงาะ บอกว่าต้องแอ็คติ้งด้วย
        
       ตีจริงๆ นี่เหงื่อหยดแล้วนะฮะ แต่ต้องทำชิลๆ อยากให้ออกมาให้ดี ทำให้เต็มที่ที่สุดครับ อยากให้มาชมโหมโรงเดอะมิวสิคัลกันเยอะๆ ใครที่เคยประทับใจจากภาพยนตร์มาก่อน “โหมโรงเดอะมิวสิคัล” สามารถทำได้ประทับใจครบทุกอย่างที่ภาพยนตร์มี ยิ่งไปกว่านั้น เราแสดงกันสดๆ ทั้งดนตรีและการแสดงหลายๆ อย่าง มาดูกันเยอะๆ นะครับ”
       
       “แนน สาธิดา พรหมพิริยะ”
        
       “ตื่นเต้นค่ะ รู้สึกดีใจ เวลาร้องเพลงรู้สึกอิ่มใจมากๆ อยากจะบอกว่าเพลงที่โชว์เมื่อกี้เป็นแค่ส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งในละครเรื่องนี้ เพลงอื่นๆ หลายเพลงดีมากค่ะ น่ารัก อบอุ่น เพลงครอบครัวดนตรี เพลงที่น่ากลัว เพลงที่ดุดัน มีหลายสไตล์ หลายฟิลลิ่ง หลายอารมณ์มากเลยค่ะ เริ่มรอบแรกวันที่ 4 เมษายนนี้ แล้วก็เล่นไปอีก 15 รอบ รีบๆ ซื้อบัตรมาดูนะคะ ทั้งผู้ใหญ่ทั้งเด็กอยากให้ดูกันค่ะ จองบัตรกันได้แล้วที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขาค่ะ”
       
       “โย่ง อาร์มแชร์”
        
       “อันนี้เป็นสิ่งใหม่ของโลกนะครับ ที่เอาดนตรีเทรดดิชั่นมาทำเป็นร่วมสมัยแล้วก็เป็นมิวสิคัล แล้วก็เป็นละครเวที แล้วก็เป็นครั้งแรกของโรงละครที่นี่ด้วยครับ ผมเชื่อว่าต้องเป็นครั้งแรกของหลายๆ คนที่อาจจะไม่เคยฟังดนตรีไทยสดๆ แล้วก็จะเป็นครั้งแรกที่คุณจะตกหลุมรักดนตรีไทยแบบโงหัวไม่ขึ้นครับ”
       
       “ปอ AF 7”
        
       “ดูแล้วจะรู้สึกว่า รักสิ่งที่เรามีมากขึ้น รักดนตรีไทย เนื้อเรื่องทำให้ผมรู้สึกว่าเราจะเห็นคุณค่า กลับไปจะต้องเปลี่ยนความคิดกับดนตรีไทย ตอนแรกได้ยินครูเงาะพูดอยู่ตลอดว่าจะทำอะไรที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ มีความเป็นมาของชาวไทย รู้สึกว่าอยากมาเป็นส่วนหนึ่ง แม้จะเป็นส่วนเล็กๆ แต่ทำให้เรื่องนี้มันยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ ก็ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ครับผม”
       
       เป็นละครเวทีที่น่าดูอย่างยิ่ง เป็นการแสดงและประชันฝีมือระนาดสดๆ อย่างที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน จองบัตรได้แล้ววันนี้