เว็บไซต์มิร์เรอร์ของอังกฤษเผยแพร่คลิปอันน่าเศร้าสลดใจ ของ "วาเลนทิน่า เมาไรรา" เด็กหญิงชาวชิลีวัย 14 ปี ที่เธอพูดขอร้องต่อ มิเชล บาเชเล ประธานาธิบดี ว่า ขอให้อนุมัติให้แพทย์ทำการุณยฆาตแก่เธอด้วย เนื่องจากเธอป่วยเป็นโรคซิสติคไฟโบรซิสมาตั้งแต่กำเนิดแล้ว เข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้งและรู้สึกทุกข์ทรมานมาก จนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว

 

 สำหรับโรคซิสติคไฟโบรซิส เป็นโรคทางพันธุกรรมที่ร้ายแรงมาก ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้มักมีปัญหาด้านระบบการหายใจ และร่างกายจะไม่ค่อยเจริญเติบโตมีเนื้อหนังมีน้ำหนักมากนัก แม้ว่าจะกินอาหารได้ตามปกติก็ตาม ซึ่งวาเลนทิน่าเผยว่า น้องชายเธอก็เสียชีวิตด้วยโรคนี้มาแล้ว เธอก็ไม่อยากจะจบชีวิตแบบทรมานเช่นนั้นอีก หากจะไปก็ขอไปแบบสบายๆตอนนี้เลยเสียดีกว่า

 

 ล่าสุดวาเลนทิน่าต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยคาทอลิคหลังจากที่มีอาการปอดติดเชื้อ ด้วยความรู้สึกทุกข์ระทม ทำให้เธอหยิบโทรศัพท์มือถือมา แล้วถ่ายคลิปหน้าตัวเอง โพสต์ลงเฟซบุ๊ก โดยมีใจความคร่าวๆดังนี้ว่า

 

 "หนูชื่อวาเลนทิน่า เมาไรรา อายุ 14 ปีค่ะ หนูเป็นโรคซิสติคไฟโบรซิส ที่หนูต้องพยายามติดต่อท่านประธานาธิบดีด้วยวิธีลัดแบบนี้ เพราะหนูทนอยู่ในสภาพแบบนี้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ท่านประธานาธิบดีเป็นคนเดียวที่จะอนุมัติหมอให้ฉีดยาให้หนูตายได้ หนูจะได้นอนหลับอย่างสงบไปตลอด น้องชายหนูก็ตายด้วยโรคนี้ไปแล้ว หนูเลยรู้ว่าสุดท้ายแล้วตัวเองก็ต้องจบชีวิตแบบเดียวกัน"

 

 ด้านเฟรดดี้ เมาไรรา พ่อของวาเลนทิน่า ก็เผยว่า แม้ว่าตนจะรู้สึกปวดร้าวใจกับคำขอร้องของลูก แต่ก็จะพยายามให้ในสิ่งที่เธอต้องการ

 

 "เธอผ่าตัดมา 5 ครั้งแล้ว เข้าๆออกๆ นอนโรงพยาบาลมาเป็นเดือนๆ ทำให้ต้องรู้สึกเจ็บปวดทรมานมาก เคยมีคนรับปากว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่สุดท้ายแล้วอาการเธอก็แย่ลงเรื่อยๆ" เฟรดดี้กล่าว และว่า "เธอไม่ได้เรียกร้องให้เปลี่ยนกฎหมายเพื่อคนทั้งโลก แต่เธอแค่พยายามต่อสู้ดิ้นรนให้ตัวเองเพราะไม่อยากอยู่ในสภาพแย่ๆแบบนี้อีกต่อไปแล้ว"

 

 ในขณะที่โฆษกของรัฐบาลกล่าวว่ารัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขได้ติดต่อกับครอบครัวของวาเลนทิน่า เพื่อให้เธอได้เข้ารับการรักษาทั้งทางกายและทางจิตแล้ว พร้อมกันนั้นก็ระบุในตอนท้ายไว้ด้วยว่า กฎหมายของชิลีในปัจจุบันยังไม่อนุมัติให้รัฐบาลเห็นชอบกับการทำการุณยฆาตของประชาชนได้

 

 

ขอขอบคุณที่มา  ข่าวสดออนไลน์