วันที่ 21 ก.พ. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. กล่าวถึงการตรวจสอบติดตามธุรกรรมทางการเงินจากเช็คที่ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น สั่งจ่ายเงินออกไป จำนวน 878 ฉบับ มูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท และในจำนวนดังกล่าวเป็นการสั่งจ่ายให้วัดพระธรรมกาย มูลค่ากว่า 700 ล้านบาทว่า ในส่วนของ ป.ป.ง.ถือว่า การตรวจสอบธุรกรรมเช็คสั่งจ่าย วัดพระธรรมกายเสร็จสิ้นแล้ว พบว่า มีการสั่งจ่ายเช็คโดย นายศุภชัยจริง หลายครั้ง ครั้งละกว่า 100 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ได้เชิญตัวแทนวัดพระธรรมกายมาให้ปากคำแล้ว พบว่าเงินทั้งหมดถูกนำไปใช้สร้างศาสนสถาน ซึ่งทางวัดได้นำเอกสารใบเสร็จต่างๆ มายืนยัน

นอกจากนั้น ป.ป.ง.ยังได้เรียกดูเอกสารความเคลื่อนไหวทางการเงินจากธนาคารมาตรวจสอบ พบว่าเส้นทางการเงิน ถูกนำออกไปใช้ก่อสร้างจริง แต่ทั้งนี้ การที่กฎหมายกำหนดว่าที่ธรณีสงฆ์ เป็นที่ต้องห้ามยึด จึงทำให้ ป.ป.ง.ไม่สามารถดำเนินการยึดได้

ด้าน พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผู้บังคับการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 เปิดเผยว่า ประเด็นที่สอบปากคำจะสอบถามถึงความเสียหายที่แต่ละคนได้รับและพฤติการณ์ต่างๆ ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน นอกจากนี้จะเรียกผู้บริหารสหกรณ์ต่างๆ ที่นำเงินมาฝากไว้กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯมาสอบปากคำ และต้องรอให้ ป.ป.ง.เรียกเจ้าของทรัพย์มาเปิดตู้เซฟ แต่ได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดต่อกับ นายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล ได้

ส่วนบริษัทอื่นที่ ป.ป.ง.ยึดและอายัดหุ้นมูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท พบว่าทุกบริษัทปิดกิจการลงแล้ว ดังนั้นต้องให้ ป.ป.ง.ตรวจสอบต่อว่าหุ้นที่ยึดและอายัดไว้คงเหลือเป็นตัวเงินเท่าใด สำหรับวัดพระธรรมกายที่ได้รับเช็คจาก นายศุภชัย ทั้งในนามวัดและเจ้าอาวาสเป็นเงินกว่า 700 ล้านบาท ก็ต้องเชิญตัวเข้าให้ปากคำเช่นกัน

ที่มา http://www.springnews.co.th/