เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 30 ม.ค. พ.ต.ต.โสภณวิชญ์ มิตรพระพันธ์ สารวัตรเวร สภ.ศรีราชา ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 3 ราย ทางญาติและหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชาได้นำส่งโรงพยาบาลไปแล้ว โดยเหตุเกิดที่บ้าน ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา ให้ไปสอบสวน หลังทราบเหตุจึงรายงานให้ พ.ต.อ.ภพพล จักกะพาก ผกก.สภ.ศรีราชา พ.ต.ท.คงศักดิ์ บุญสื่อสุวรรณ รองผกก.(สส.) พ.ต.ท.ศิระกราน ต้นสงวน รองผกก.(ป.) พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ เรืองนวมดี สวป. พ.ต.ต.เดชชาติ อาสว่าง สว.สส.ทราบ ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นทราบ ก่อนร่วมเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวที่ประตูหน้าบ้าน พบศพนายชยพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี นอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นปูนหน้าบ้านไม่สวมเสื้อและมีกองเลือดกองอยู่ โดยขาทั้ง 2 ข้าง อยู่ในบ้านและพบอาวุธปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่ที่ปลายเท้า 1 กระบอก โดยมีกระสุนค้างอยู่ในรังเพลิง 1 นัด และใกล้กับจุดเกิดเหตุ ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่ 2 ปลอก และหัวกระสุนตกอยู่ 2 หัว

โดยพบว่าผู้ตายใช้อาวุธปืนกระบอกดังกล่าวยิงตัวเองเสียชีวิตหลังจากที่ได้ใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิงนางสงบ(ขอสงวนนามสกุล) อายุ 74 ปี แม่ยาย นายฉลอม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 76 ปี และนางธนิกา (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 35 ปี จนบาดเจ็บสาหัส และทางญาติและหน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้แล้ว

โดยทาง พล.ต.ต.นิติพงศ์ เนียมน้อย ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ซึ่งได้รับแจ้งจากทางศูนย์วิทยุภูธรจังหวัดชลบุรีว่า มีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ได้เดินทางมาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุในครั้งนี้ พร้อมกับร.ต.อ.ญ.กิตติยา ปิยาภิรมภ์ นักวิทยาศาสตร์(สบ.1) ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน2 ชลบุรี

จากการตรวจสอบพบว่านายชยพลใช้อาวุธปืนยิงตัวเองที่ขมับขวา 1 นัด กระสุนฝังใน โดยมีเขม่าดินปืนติดอยู่ที่มือขวา หลังจากนั้นทางตำรวจได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลพญาไทศรีราชาว่า นางสงบ แม่ยายซึ่งทางญาติได้นำส่งรพ.นั้น ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว โดยถูกกระสุนปืนที่ด้านหลัง 4 นัด ทะลุหน้าท้องและที่ลำคอ 1 นัด และทางโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชาก็ได้แจ้งว่านายฉลอม พ่อตาซึ่งทางหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชานำส่งนั้น ได้เสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว โดยถูกกระสุนปืนที่หน้าท้องด้านซ้ายทะลุหลัง 1 นัด ซึ่งถูกอวัยวะสำคัญภายใน ส่วนนางธนิกาผู้เป็นเมียนั้นถูกกระสุนปืนยิงที่กกหูซ้าย 1 นัด อาการสาหัส ทางแพทย์กำลังช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วนเนื่องจากกระสุนฝังในและถูกอวัยวะสำคัญ

ตำรวจได้สอบสวน ด.ญ. อายุ 13 ปี ลูกสาวของนายชยพลผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ ให้การว่า พ่อได้ดื่มเบียร์ไป 2 ขวด แล้วทะเลาะกับแม่เลี้ยงในบ้าน หลังจากนั้นแม่เลี้ยงได้เดินไปบอกยายซึ่งบ้านอยู่ตรงข้ามกัน ยายก็ได้เดินมา โดยถือไม้เบสบอลเข้าไปในบ้านของพ่อด้วย และได้ว่ากล่าวลูกเขยด้วยอารมณ์โมโห แต่ลูกเขยได้โต้เถียง และบอกว่าเป็นเรื่องในครอบครัวคนอื่นไม่เกี่ยว

หลังจากนั้นนายชยพลผู้เป็นพ่อก็ได้ชักอาวุธปืนยิงใส่ยาย 5 นัด จนล้มลงที่หน้าห้องนอน หลังจากนั้นก็ใช้ปืนยิงพ่อตาที่ยืนอยู่หน้าบ้าน 1 นัด จนล้มลงหัวฟาดกับกระถางต้นไม้จนแตก ซึ่งเมื่อเห็นดังนั้น ตนจึงอุ้มน้องชายอายุ 3 ปี วิ่งออกไปทางหลังบ้าน เพื่อไปตามญาติมาช่วยเหลือ เมื่อกลับมาอีกทีก็พบว่าแม่เลี้ยงถูกยิงนอนอยู่ในห้องนอนหายใจรวยระริน ส่วนพ่อได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งพ่อยิงยายกะตาแล้วคงไปยิงแม่แล้วมายิงตัวเองจนเสียชีวิตคาที่อย่างแน่นอน

ซึ่งทางญาติของผู้เสียชีวิตบอกว่า นายชยพลซึ่งเป็นลูกเขยของบ้านนี้มีนิสัยเป็นอันธพาล พกปืนติดตัวอยู่ตลอดเวลา เมาหรือทะเลาะกับเมียก็จะยิงปืนในบ้าน จนหลังคาทะลุเป็นประจำและยังชอบระรานญาติทางฝ่ายเมียเป็นประจำ จนญาตินั้นเอือมระอาไม่มีใครมายุ่งเกี่ยวด้วย และเวลาเมาก็จะชอบหาเรื่องเมียเป็นประจำ ซึ่งทางตำรวจคาดว่านายชยพลคงเมาแล้วทะเลาะกับเมีย เมื่อเห็นแม่ยายเดินถือไม้เบสบอลเข้าไปหา และว่ากล่าวคงเกิดบันดาลโทสะ จึงใช้อาวุธปืนยิงแม่ยายและพ่อตา รวมถึงเมียจนบาดเจ็บสาหัส และอาจกลัวความผิดจึงใช้อาวุธปืนยิงตัวเองจนเสียชีวิตดังกล่าว หลังจากนั้นทางตำรวจได้ให้หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชานำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลแหลมฉบัง เพื่อให้แพทย์ชันสูตรอีกครั้ง

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้า พ.ต.ต.โสภณวิชญ์ มิตรพระพันธ์ สารวัตรเวร สภ.ศรีราชา ได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ว่า นางธนิกา ซึ่งอาการสาหัสได้เสียชีวิตลงแล้ว เนื่องจากกระสุนปืนถูกที่สำคัญและฝังอยู่ในศีรษะ ทำให้เสียชีวิตเป็นศพที่ 4

ที่มา ข่าวสดออนไลน์