วันที่ 24 ม.ค. เดนเวอร์แชนแนลรายงานว่า ศาลแขวงเมืองเดนเวอร์ สหรัฐอเมริกา ตัดสินจำคุก 4 ปี น.ส.แชนนอน คอนลีย์ ชาวอเมริกันอายุ 19 ปี จากรัฐโคโราโด ในความผิดสมคบให้ปัจจัยสนับสนุนต่อองค์การก่อการร้ายต่างชาติ หลังจากถูกจับกุมที่สนามบินนานาชาติในเดนเวอร์เมื่อเดือนเม.ย.2557 ขณะพยายามเดินทางไปซีเรียเพื่อเป็นสมาชิกกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส ซึ่งหญิงสาวให้การรับสารภาพ

น.ส.คอนลีย์ ผู้ช่วยพยาบาล มีชื่อใหม่หลังเปลี่ยนศาสนาว่า ฮาลิมา ให้การต่อศาลว่า เสียใจอย่างยิ่งต่อการกระทำของตนเอง แต่ผู้พิพากษาแสดงความข้องใจคำให้การของหญิงสาวว่าหันหลังให้กับจิฮัดแล้ว เพราะพบว่า จำเลยแสดงอาการแข็งขืนมาเป็นเวลานาน ดังนั้นจึงเห็นควรให้จำเลยเข้ารับการช่วยเหลือทางจิตด้วย

ก่อนหน้านี้ ในช่วงเวลา 8 เดือน เอฟบีไอเริ่มจับตาน.ส.คอนลีย์เมื่อมีลูกจ้างของโบสถ์ในเดนเวอร์แจ้งความเคลื่อนไหวของหญิงสาวที่มีพิรุธ จากนั้นตัวแทนของเอฟบีไอพยายามเกลี้ยกล่อมไม่ให้หญิงสาวเดินทางไปต่างประเทศ

น.ส.คอนลีย์บอกพ่อแม่ว่า ตนเองจะไปเข้าพิธีแต่งงานกับนายยูสร์ มูเอลฮี ชาวตูนิเซีย อายุ 32 ปีที่พบกันผ่านการคุยกันทางอินเตอร์เน็ต แต่พ่อไม่อนุญาตให้ไป กระทั่งต่อมาพบว่าหญิงสาวแอบซื้อตั๋ววันเวย์ไม่มีเที่ยวกลับเพื่อไปตุรกี จึงพบความจริงว่า ชายที่น.ส.คอนลีย์จะไปซีเรียเพื่อแต่งงานกับนักรบไอเอส และหญิงสาวเองต้องการจะไปร่วมต่อสู้เคียงข้างชายคนรักด้วย

สำหรับสถานการณ์ตัวประกันชาวญี่ปุ่น 2 คนยังอยู่ในเงื้อมมือไอเอส นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นให้คำมั่นสัญญาว่า จะไม่หยุดเดินหน้าค้นหา นายเคนจิ โกโตะ นักข่าวอิสระ และนายฮารุนะ ยูคาวะ ประธานบริหารของบริษัททหารรับจ้างชาวญี่ปุ่น แม้ว่าจะพ้นกำหนดเวลาไถ่ตัวมาแล้วก็ตาม ท่ามกลางความเงียบจากฝ่ายไอเอส

ที่มา ข่าวสดออนไลน์