จุดวิวาท - ป้อมยามหน้าสถานีไทยพีบีเอส ถ.วิภาวดีฯ จุดเกิดเหตุที่นายอัครพล ทองธราดล และน.ส.อภิยา ฉายจันทร์ทิพย์ 2 ผู้ประกาศข่าวมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง จนนายอัครพลเป็นฝ่ายได้รับบาดเจ็บ

ไทยพีบีเอสแถลงสั่งพักงาน 2 ผู้ประกาศข่าวคู่รัก ชี้เรื่องส่วนตัวแต่เมื่อเกิดเหตุในสถานีต้องลงโทษ รอปรับความเข้าใจก่อนให้เริ่มงานใหม่ คนใกล้ชิดฝ่ายชายแจงไม่เคยทำร้ายก่อน เผยวันเกิดเหตุรู้ตัวถูกดักรอ จึงเลี่ยงไปขึ้นแท็กซี่ แต่หนีไม่พ้นจนเกิดเหตุวิวาทขึ้นจนถูกแทง 16 แผล เย็บ 38 เข็ม แถมยังถูกร่มฟาดหน้าจนจมูกหัก พยานปากเอก เล่านาทีระทึก ยันทั้งคู่ทะเลาะตัดพ้อเรื่องความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่น หลังฝ่ายชายถูกแทงเลือดสาด ฝ่ายหญิง ยังประคองเข้าไปนั่งซับเลือดในป้อมรปภ. นานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนออกไปโรงพยาบาลด้วยกัน

จากกรณีผู้ประกาศข่าวชื่อดังชาย-หญิง ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส คือนายอัครพล ทองธราดล ผู้ประกาศข่าวภาคดึก และน.ส.อภิยา ฉายจันทร์ทิพย์ ผู้ประกาศข่าวบันเทิง และพิธีกรช่วงศิลป์สโมสร เกิดเหตุทะเลาะวิวาทเมื่อหลังเที่ยงคืนวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนทำให้นายอัครพล ถูกแทงด้วยกรรไกรขาเดียว บาดเจ็บรุนแรง และพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เหตุเกิดที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เลขที่ 145 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. ซึ่งในช่วงเกิดเหตุนั้นรปภ.ของสถานีโทรทัศน์ได้โทรศัพท์แจ้งไปยังสน.ทุ่ง สองห้อง โดยมีบันทึกของห้องวิทยุสน.ระบุว่า ในเวลา 01.00 น. วันที่ 11 มิ.ย. ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท จึงได้ส่งสายตรวจไปตรวจสอบ และแนะ นำคู่กรณีให้แจ้งความที่สน.ต่อไป สำหรับชนวนเหตุปัญหานั้น พบว่าทั้งคู่มีความใกล้ชิดกันโดยรู้กันโดยทั่วไปในหมู่เพื่อนฝูง ตามที่ข่าวสดนำเสนอไปก่อนหน้านี้

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ รองผอ.องค์การกระ จายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย(ส.ส.ท.) ด้านข่าวและรายการ ได้ออกคำแถลงชี้แจงกรณีผู้ประกาศข่าวไทยพีบีเอส มีเรื่องทะเลาะวิวาทว่า "ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า ผู้ประกาศของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสคือนายอัครพล ทองธราดล และน.ส.อภิยา ฉายจันทร์ทิพย์ ทะเลาะวิวาทจนถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันนั้น กรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลทั้งสอง ส.ส.ท.จะไม่เข้าไปก้าวก่ายนอกจากช่วยแก้ปัญหาให้คลี่คลายด้วยการพูดคุยทำความเข้าใจในฐานะที่ทั้งสองคนอยู่ในความดูแลของ ส.ส.ท.

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในที่ทำการของส.ส.ท. จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามระเบียบของ ส.ส.ท. กรณีที่พนักงานทะเลาะวิวาทจนถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันในครั้งนี้ เบื้องต้นได้ให้ทั้งสองคนพักการทำหน้าที่ชั่วคราวเพื่อเยียวยา ปรับความเข้าใจและหาทางออกต่อกรณีดังกล่าวร่วมกัน"

ที่ บช.น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รอง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีเหตุทำร้ายร่างกายกันที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ว่าสอบถาม พ.ต.อ.พงษ์ สังข์มุรินทร์ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง และสว.สส.สน.ทุ่งสองห้อง ถึงเหตุการณ์ ดังกล่าว ซึ่งรายงานว่าเป็นเรื่องของคนที่เขามีความสนิทสนมกัน อย่าไปยุ่งกับเขาดีกว่า เมื่อถามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นคดีแล้วหรือยัง รอง ผบช.น. กล่าวว่า เท่าที่รับรายงานมายังไม่เป็นคดีอะไร และยังไม่ได้รับแจ้งเป็นคดี แล้วเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องการทะเลาะวิวาทของหญิงชายที่ใกล้ชิดกัน ขณะนี้คู่กรณียังไม่มีความประสงค์จะมาแจ้งความที่สน.แต่อย่างใด

เมื่อถามถึงอาการบาดเจ็บของนายอัครพล รอง ผบช.น.บอกว่า เท่าที่รับรายงานเบื้องต้น คงบาดเจ็บไม่มาก เพราะหลังจากเกิดเหตุก็ยังพูดคุยกันอยู่นาน กว่าจะไปหาหมอ จึงไม่น่าเป็นอะไรมาก

รายงานข่าวจากคนใกล้ชิดนายอัครพล ชี้แจงถึงเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างผู้ประกาศข่าวทั้ง 2 ว่า คืนเกิดเหตุผู้ประกาศข่าวสาวเดินทางมาพร้อมมารดา เพื่อดักรอพบนายอัครพล ที่รถยนต์ของผู้ประกาศชาย เมื่อนายอัครพล ทราบว่ามีคนดักรออยู่ที่รถ จึงเลี่ยงออกไปขึ้นแท็กซี่ที่หน้าสถานี แต่ถูกคู่กรณีวิ่งไปดัก เพื่อขอปรับความเข้าใจ จนกระทั่งเกิดการทะเลาะวิวาท เป็นเหตุที่นายอัครพลถูกกรรไกรขาเดียวแทงทำร้าย นอกจากนี้ยังมีอีกคนที่ร่วมอยู่ด้วย ได้ใช้ด้ามร่มฟาดเข้าที่ใบหน้าจนดั้งจมูกแตก จนขณะนี้ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ทั้งนี้คนใกล้ชิดนายอัครพลยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิงแต่อย่างใด

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ล่าสุดทางผู้บริหารของไทยพีบีเอส เรียกตัวแทนของฝ่ายชายเข้าไปหารือถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมีพี่ชายของนายอัครพล เป็นตัวแทนเข้าหารือตั้งแต่ช่วงเช้า อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อยุติใดๆ เพราะต้องนำข้อเสนอต่างๆ มาหารือกับนายอัครพล และมารดา ก่อน ทั้งนี้มารดาของนายอัครพล ระบุว่า ทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามกฎหมายทุกประการ

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวข่าวสดได้รับการเปิดเผยจากพยานที่เห็นเหตุการณ์ใกล้ชิด ระบุว่า ช่วงเกิดเหตุประมาณเที่ยงคืนของคืนวันที่ 10 มิ.ย. บริเวณทางเข้าออกสถานีไทยพีบีเอสติดกับถนนวิภาวดีฯ ปรากฏบุคคล 3 คน คือ นายอัครพล น.ส.อภิยา และแม่ของน.ส.อภิยา กำลังทะเลาะกันเสียงดัง ต่อมาจึงเกิดการลงไม้ลงมือกัน จนสุดท้ายนายอัครพล ถูกแทงด้วยกรรไกรอันเล็ก สำหรับตัดผมผู้หญิง ยาวประมาณ 2 นิ้ว เข้าด้านหลัง 3 แผล จนมีเลือดไหลทะลักออกมา จากนั้นพยานได้เห็นน.ส.อภิยาประคอง นายอัครพลเข้าไปพักที่ป้อมรปภ.บริเวณใกล้เคียง ซึ่งฝ่ายหญิงคอยซับเลือดให้ตลอดเวลา แต่ยังคงโต้เถียงกันต่อเนื่อง โดยเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ไม่ราบรื่น จนกระทั่งเวลาเกือบ 05.00 น. ของวันที่ 11 มิ.ย. ทั้ง 3 คนจึงนั่งแท็กซี่ออกไปจากสถานีพร้อมกัน คาดว่าจะไปโรงพยาบาล

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนายอัครพล เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยมีบาดแผลถูกแทงทั้งหมด 16 แผล บริเวณไหล่ หลัง และเอวด้านซ้าย ต้องเย็บทั้งหมด 38 เข็ม นอกจากนี้ยังมีบาดแผลดั้งจมูกหักด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับในหน้าเฟซบุ๊กผู้ประกาศของไทยพีบีเอส https://www.facebook. com/media/set/comments/?set=a.10150579115780085.687017.330743535084 ที่มีข้อมูลของผู้ประกาศทั้งหมด ในส่วนของนายอัครพล ทองธราดล และน.ส.อภิยา ฉายจันทร์ทิพย์ ต่างมีประชาชนโพสต์ข้อความแสดงความเห็นถึงเรื่องดังกล่าวอย่างหลากหลาย โดยหลายข้อความเป็นการให้กำลังใจทั้งสองฝ่าย

cr.http://www.khaosod.co.th