เทคนิคการถนอมผิวของเรา ให้สวยอยู่นาน ๆ
2012-06-13 13:17:37
Advertisement
คลิก!!!

ผืวสวย



หยุดก่อน!...!กาลเวลา (momypedia)
โดย: อณู

เช้าวันหนึ่ง ตื่นขึ้นมาส่องกระจก เอียงซ้ายเอียงขวาดูดี ๆ เอ๊ะ ทำไมโหนกแก้มเรา มันดูแบนๆลงนะ ผิวพรรณไม่ค่อยใสกระจ่างนวลเนียน รูขุมขนตรงข้างจมูกก็ใหญ่ขึ้น ถุงใต้ ตาเริ่มเรียกเต็มปากได้ว่าถุง แล้วรอยคล้ำรอบดวงตายังกะหมีแพนด้าล่ะ มาได้ยังไง ตาย แล้ว เท้ากา 2 เส้นนี้ เป็นโรคติดต่อมาจากคนอื่นหรือเปล่า สงสัยจะพะวงเรื่องหา โรงเรียนให้เจ้าตัวดี แถมงานจะถาโถมเข้ามาช่วงนี้อีก จนลืมดูแลตัวเองไปเลย

หายต๊กกะใจแล้ว มานั่งตรองดู มันไม่ใช่มรสุมชีวิตความงามของเราหรอกนะคะ ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย โดยที่เราไม่ทันรู้ตัวนี้ คือความเป็นไปของธรรมชาติค่ะ

กระบวนการทางธรรมชาตินี่เอง ที่ทำให้ฮอร์โมนของเราเปลี่ยนไปตามวัย เปลี่ยน ความเต่งตึงเป็นความเหี่ยวย่น แล้วยังมี แรงโน้มถ่วงของโลก การแสดงอารมณ์ต่างๆ นานาทั้งเวลาขมวดคิ้ว หรือหัวเราะ การนอน การสัมผัสกับ ลม สารเคมี การสูบบุหรี่ หรือแม้แต่อาหารก็เป็นตัวช่วยเพิ่มริ้วรอยให้เรา

กาลเวลาไม่เคยปรานีใครจริง ๆ เพราะฉะนั้น รับรู้ว่าความร่วงโรยเป็นของจริง และอยู่มันอย่างสบาย ๆ ดีกว่า

หากเอาชนะธรรมชาติอย่างเอาเป็นเอาตาย เช่น ผ่าตัดดึงหน้า ลอกหน้าให้ใสปิ๊ง ฉีดคอลลาเจนให้เต่งตึง หรือแม้กระทั่งฉีดยาชาให้ใบหน้าเคลื่อนไหวไม่ได้ จะได้ไม่ต้องมี รอยย่น น่าเป็นห่วงเพราะต้องดูแลรักษากันสุดฤทธิ์ในภายหลัง บางคนก็ได้ผลร้ายมากกว่าดี

แหมก็ธรรมดาแหละค่ะ เมื่อย่างเข้าวัย 30 ความสดใสเริ่มซาลงเป็นลำดับ เพราะ ผิวหนังที่อยู่ชั้นในเริ่มบางลง ขณะที่ผิวหนังชั้นนอกเริ่มหนาขึ้น มีริ้วรอย รอบริมฝีปากก็ไม่เต่ง ตึง พอถึง 40 ผิวหนังที่เคยตึงกระชับก็เริ่มหย่อนลง บริเวณรูขุมขนขนาดใหญ่บนใบหน้า ก็ จะยิ่งขยายกว้างขึ้น และจะรักษาริ้วรอยยากกว่าสมัยก่อนเสียแล้ว ส่วนเจ้าต่อมน้ำมันจะ ผลิตน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงผิวได้น้อยลง แล้วก็ยังมีเหงื่อออกน้อยลงไปอีก ทำให้ผิวแห้งขาด ความสดใส ผิวพรรณเริ่มหมองคล้ำ สีผิวเริ่มไม่สม่ำเสมอ ผิวจะรักษาตัวเองช้าลงเรื่อย ๆ

แสงแดดนี่ก็ตัวดีเชียว สังเกตจากผิวพรรณทั่วร่างกายดูก็ได้ ว่าที่พบริ้วรอยมากกว่าที่ อื่น มักจะเป็นบริเวณใบห้า คอ และตรงหลังมือ ซึ่งเป็นจุดที่ผิวเรามีโอกาสสัมผัสกับแสง อาทิตย์มากกว่าบริเวณอื่นๆ ยิ่งโดนแดดแรงนานวันเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เหี่ยวย่นก่อนวัยเท่า นั้นแหละค่ะ

ผิวเหี่ยวยังไม่พอ ยังแห้งอีก (ใจร้ายจริง ๆ) เพราะต่อมน้ำมันเอย ต่อมเหงื่อเอย ไม่ค่อยจะสร้างผลิตผลเท่ากับตอนวัยสาวรุ่น แล้วยังเจอกับเครื่องปรับอากาศอันเย็นฉ่ำในที่ ทำงาน ซึ่งจ้องแต่ฝากความแห้งไว้กับผิวเรา นอกจากนี้ยังมีพวกสารที่ผสมอยู่ในสบู่ ยาดับ กลิ่นตัว น้ำหอม หรือน้ำอุ่นๆที่เราชอบอาบ เมื่อผิวแห้งแล้วก็จะเกิดการระคายเคืองง่าย กว่าผิวปกติ

การขาดน้ำในร่างกาย ก็ทำให้เซลล์ผิวหนังชั้นบนสุด ซึ่งเป็นเซลล์ที่ตายแล้วแต่ยังไม่ หลุดไปไหน หดตัวติดหนึบอยู่กับที่ตรงนั้น ทำให้มีรอยเหี่ยวย่นเล็ก ๆ บนผิวหนัง

โมงยามเพื่อผิวสวย

ทำไงดี ก็อยากมีผิวพรรณนวลเนียนอยู่นี่นะ ถึงจะ 30 หรือ 40 แล้ว ก็อยากผุดผ่อง แบบสมวัย ขืนมีใบหน้าแบบสาว 17 เดี๋ยวเพื่อนลูกมาแซวว่า ป้าเอาหน้ากากลูกสาวมาใส่ ฉุนอีกเมื่อ เราไม่ชอบหักหาญน้ำใจธรรมชาติ เพราะเข้าใจแจ่มแจ้ง เออนะ มันก็เหี่ยวมัน ก็แก่นั่นแหละ (อย่าไปย้ำมากรู้มั้ย เดี๋ยวอิน) ถ้าไม่อยากเหี่ยวมากไปกว่านี้เราก็ทำแบบ ประนีประนอมกับธรรมชาติ ด้วยเทคนิคการถนอมผิวของเราให้สวยอยู่นาน ๆ เท่าที่จะทำได้ ในแบบสบาย ๆ ก็แล้วกันเนอะ ลองดูวิธีทำเป็นข้อ ๆ ข้างล่างนะคะ

1. โปรดเถิด หลีกเลี่ยงช่วงเวลาแดดจัด ไม่หาญกล้าเผชิญหน้ากับแดดโดยตรง สวมแว่นกันแดดเพื่อชะลอตีนกา สวมเสื้อผ้าสีเข้มจะป้องกันแสงได้ดีกว่าสีอ่อน หรือโอกาส อำนวย สวมหมวกหรือกางร่มก็ดีค่ะ

2. ปกป้องผิวด้วยครีมกันแดดทุก ๆ วัน

3. ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ประเภทลดริ้วรอย และปกป้องผิวจากมลภาวะ

4. ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวันนะคะ ช่วยให้ผิวขาดน้ำหายยับย่นค่ะ

5. ยามกลางวัน ถ้าอยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา ทามอยส์เจอไรเซอร์ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวบ้าง

6. ทำใจให้ปลอดโปร่งหน่อยค่ะ มองโลกในแง่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

7. เลิกบุหรี่ หรือพยายามอย่าไปอยู่ในที่ที่มีบุหรี่ควันพิษต่างๆ

8. อย่าหักโหมงานหนัก จนอดหลับอดนอน อดข้าว

9. ออกกำลังกายบ้าง อย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้งก็ยังดี

10. sleeping beauty ค่ะ นอนให้ได้วันละ 8 ชั่วโมง และต้องเป็นการนอน อย่างหลับสนิทด้วย เพื่อความสดชื่น

11. นวดหน้าป้องกันริ้วรอยใหม่ แม้ไม่ช่วยลดรอยเก่าได้

12. ลดอาหารพวกที่มีแคลอรี่สูง ๆ ลงบ้าง เพราะการกินอาหารที่มีแคลอรี่สูง ๆ มากไป จะเร่งให้แก่เร็วขึ้น เช่น พวกแป้ง น้ำตาล เนื้อสัตว์ ไขมัน

13. หันมากินผักผลไม้มากหน่อย อาหารที่มีวิตามินซี และกรดเพนโทเทนนิค พวกยีสต์ ข้าวซ้อมมือ นม ตับ ส่วนอาหารที่ช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่งก็หาได้จากวิตามิน เกลือแร่ครบถ้วน ที่สำคัญคือ เอ บีรวม ซี ดี เอ และสังกะสี และคุณค่าทางอาหาร เหล่านี้ ได้จากอาหารที่รับประทานเข้าไปน่ะจะดีที่สุดค่ะ

14. ให้ความชุ่มชื้นกับผิวด้วยมอยส์เจอร์ และใช้พวกเอเอชเอเพื่อผลัดเซลล์ผิว

15. สำหรับรูขุมขนที่ขยายใหญ่ขึ้น มันไม่หดลงมาอย่างถาวรหรอกค่ะ มีวิธีช่วย ลดความกว้างได้ชั่วคราว ด้วยการล้างหน้าด้วยสบู่อ่อนที่ปราศจากไขมัน หรือมอยส์เจอไร เซอร์ หรืออาจจะเป็นสบู่แบบสครับขัดผิวหน้าเอาหนังชั้นนอกออกไป ผิวหนังบางลง รูขุมขน จะดูเล็กลง บางครั้งก็ใช้มาส์กทำความสะอาดหน้าบ้างสิคะ บริเวณที่รูขุมขนใหญ่อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้พวกมอยส์เจอร์ เพราะผิวที่ยิ่งมีความชุ่มชื้นจะทำให้รูขุมขนยิ่งดูโตขึ้น

16. อย่าใช้น้ำเย็นจัดหรือร้อนจัด ล้างหน้า

17. อย่านั่งทำงานเพลินจนลืมดื่มน้ำ กันลืมด้วยการตั้งขวดน้ำเปล่าไว้บนโต๊ะ จะได้ดูด้วยว่าแต่ละวันดื่มน้ำปริมาณมากพอหรือยัง

18. เลิกทำหน้านิ่วคิ้วขมวดทั้งวัน รอยย่นจะเกิดขึ้นบริเวณที่เราแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ ส่วนหัวเราะหรือยิ้มทั้งวันก็มีสิทธิ์รับรอยเหี่ยวย่นเหมือนกัน เพียงแต่แบบหลังมีความสุขกว่า และโมเมเรียกรอยย่นที่เกิดขึ้นได้ว่า เส้นหัวเราะ ไม่ใช่ตีนกาค่ะ

รับเทคนิคดูแลผิวพรรณดี ๆ อย่างนี้แล้ว แกะห่อหยิบออกมาใช้บ้างนะคะ เต่งตึงสมวัย เป็นบุญกุศลให้คนรอบข้างค่ะ


ข้อมูลจาก

http://www.kapook.com

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X