หุ้นเฟซบุ๊กดิ่งต่อเนื่อง นักวิเคราะห์ชี้มีสิทธิ์ร่วงอีกหากหาวิธีทำกำไรไม่ได้ โพลชี้ 4 ใน 5 ของผู้ใช้ไม่เคยซื้อสินค้าจากโฆษณาบนเว็บ
หุ้นของเฟซบุ๊กดิ่งลงมาอยู่ที่ 26.44 ดอลลาร์ในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 26.90 ดอลลาร์ต่อหุ้นเมื่อปิดตลาด นับเป็นครั้งแรกที่หุ้นมีมูลค่าต่ำกว่า 30% ของราคาหุ้นที่ตั้งไว้เมื่อจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ราคา 38 ดอลลาร์ต่อหุ้น
แม้เฟซบุ๊กจะจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก พร้อมเสนอขายหุ้นแก่สาธารณะรวมเป็นมูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้การจดทะเบียนของเฟซบุ๊กมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประวัติศาสตร์สหรัฐ แต่หุ้นมีราคาตกต่ำลงมาเรื่อยๆ จนสร้างความเสียหายให้แก่นักลงทุนหน้าใหม่เป็นเงินอย่างน้อย 4.6 พันล้านดอลลาร์ ย้อนรอยปัญหาฟองสบู่สมัยธุรกิจ "ดอตคอม"
คาร์ลอส เคิร์ชเนอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัยการตลาด เบิร์นสไตน์รีเซิร์ช ทำนายว่า ราคาหุ้นของเฟซบุ๊กมีสิทธิ์ที่จะร่วงลงมาอยู่ที่ 25 ดอลลาร์ต่อหุ้นภายใน 12 เดือน อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะลดต่ำลงอีก เนื่องจากแม้เฟซบุ๊กจะมีศักยภาพในการแข่งขันในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กสูง แต่ปัญหาสำคัญของเฟซบุ๊กคือ การเปลี่ยนฐานผู้ใช้งานกว่า 900 ล้านคนให้เป็นแหล่งโฆษณาสำหรับธุรกิจ
ในขณะเดียวกัน ผลสำรวจโดยสำนักโพลรอยเตอร์/อิปซอสชี้ว่า 4 ใน 5 ของผู้ใช้บริการเฟซบุ๊กไม่เคยซื้อสินค้าที่โฆษณาผ่านหน้าเว็บ หรือผ่านการแนะนำแก่กันและกันด้วยคอมเมนต์ นอกจากนี้ 44% ของผู้ใช้รู้สึกชื่นชอบเฟซบุ๊กน้อยลงนับตั้งแต่มีข่าวปัญหาการจดทะเบียนของเฟซบุ๊ก
โพลชี้ว่า เฟซบุ๊กยังเป็นเว็บที่ผู้คนนึกถึงเป็นอันดับแรกในการเข้าใช้อินเทอร์เน็ต และมีผู้ใช้บริการบ่อยที่สุดในช่วงอายุ 18-34 ปี โดย 60% ของผู้ใช้กลุ่มนี้เข้าเฟซบุ๊กทุกวันเป็นกิจวัตร แต่ 34% ใช้เวลาบนเว็บไซต์เฟซบุ๊กน้อยลง โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า "น่าเบื่อ", "ไม่มีสิ่งที่น่าสนใจ" และ "ไม่จำเป็น"
แม้เฟซบุ๊กจะสามารถทำกำไรจากการโฆษณา 3.7 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว แต่รายได้จากโฆษณากำลังชะลอตัว และมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากในปัจจุบันผู้ใช้บริการเฟซบุ๊กนิยมใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนเข้าชมเว็บไซต์แทน.
ที่มา
http://www.thaipost.net
Login with facebook
เฟซบุ๊กหุ้นร่วง30% โพลชี้ไม่ดึงดูดผู้ใช้
.jpg)
