“หนุ่ม กรรชัย” ควงคู่ “เมย์” ออกงานในรอบ 7 ปี เปิดอกรับมางานแต่ง “ชาคริต-วุ้นเส้น” เพื่อศึกษาดูงานไว้ใช้งานแต่งงานของตัวเอง บอกที่ผ่านมาก็มีเตรียมตัวไว้บ้างแล้ว เล็งขอรายชื่อแขกจาก “แอฟ-สงกรานต์” ซึ้งแฟนสาวอยู่เคียงข้างยามเจ็บป่วย แต่สาวอื่นกลับไม่เห็นหัว

เป็นคู่รักอีกคู่ที่หลายคนต่างเชียร์ว่าเมื่อไหร่จะมีข่าวดีเสียที สำหรับพิธีกรชื่อดัง “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” และนางร้ายสาวอารมณ์ดี “เมย์ เฟื่องอารมย์” ที่ล่าสุด ทั้งคู่ได้ควงกันมางานแต่งเพื่อนสนิท “ชาคริต -วุ้นเส้น” ผู้สื่อข่าวจึงรีบคว้าตัวทั้งคู่มาถามถึงความคืบหน้างานแต่ง ทั้งนี้ หนุ่มกรรชัย ได้เปิดเผยอย่างอารมณ์ดีว่า

หนุ่ม : “จริงๆ แล้วเราไม่ได้ออกงานมาด้วยกัน 7 ปี ครั้งสุดท้าย คือ งานแต่งของคุณซอนย่า แล้วก็ไม่ได้ออกงานด้วยกันเลย อีเวนต์ก็ไม่มี ก็รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันที่จะได้ออกงานคู่กับเมย์ ไม่ได้มาดูงานอะไรครับ แต่ก็มีส่วนในการดูนะ ที่ผ่านมาเราก็สนิทกับผู้จัดการส่วนตัวขอน้องแอฟ ก็จะบอกเขาไว้เหมือนกันว่า ให้เก็บรายชื่อแขกทั้งหมดของแอฟและชายไว้นะ ไม่ใช่ไม่เตรียมตัวนะ เราก็เตรียมไว้บ้าง”

เมย์ : “ถามว่า เรารู้ไหมว่าเขาเตรียมตัวไว้ ไม่ทราบเลยค่ะ”

หนุ่ม : “จะแต่งเมื่อไหร่ก็ยังบอกไม่ได้ เพราะกลัวบอกไปเดี๋ยวก็เลื่อนอีก แล้วจะถูกว่าเลื่อนรายปี ก็เลยคิดว่าคราวนี้ไม่พูดแล้วเดี๋ยวดูกันเอง หลายคนจับตามองว่าไปเที่ยวญี่ปุ่นไปขอแต่งงานกันมาหรือเปล่า ผมไม่ใช่ชาคริตกับวุ้นเส้นนะครับ ยังไม่ได้ขออะไรครับ แต่ว่ามีการพูดกับคุณพ่อคุณแม่เขาก็มีบ้างแล้ว มีความคืบหน้าครับ”

พร้อมเผยถึงอาการป่วยเป็นกรดไหลย้อนว่ายังไม่หายร้อยเปอร์เซ็นต์

หนุ่ม : “ส่วนเรื่องอาการป่วยยังไม่หายร้อยเปอร์เซ็นต์ ยังมีแสบท้องอยู่บ้างเวลาทานอาหาร หรือกระเพาะจะไวต่ออาหารมาก อย่างทานวาซาบิเข้าไปนิดนึงก็จะแสบท้องแล้ว อยากจะอาเจียนมาก”

เมย์ : “ก็มีหลายอย่างที่เขาเห็นแล้วพะอืดพะอม”

หนุ่ม : “เมย์เขาก็ดูแลดีครับ คือ มันสำคัญนะเวลาดูแลกันยามเจ็บไข้ได้ป่วย มันทำให้เราเห็นว่าคนนี้ดูแลเราดีนะ ที่ผ่านมาเราอาจจะไปรู้จักผู้หญิงคนนั้นคนนี้มากมาย แต่พอถึงเวลาเราเจ็บป่วย เขาก็มาดูแลเรา คนอื่นไม่เห็นหัวเราเลย มันเป็นการพิสูจน์อย่างนึง”

เมย์ : “หาไม่ได้นะอย่างนี้ (หัวเราะ) ทุกวันนี้มันทำให้เมย์เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง เราก็อดทนต่อสู้มีปัญหาอะไรหรือเจ็บป่วยเราก็อยู่เคียงข้างเขา สิ่งเหล่านี้เราก็ได้เรียนรู้คู่ชีวิตได้อย่างดีแล้ว ส่วนเรื่องแต่งงานก็เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที”

ข้อมูลจาก

http://www.manager.co.th