เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

            เผย โผทหารกลางปี ปรับ 79 อัตรา โยก มทภ.3 - มทภ.4 กินตำแหน่ง พล.อ. ก่อนเกษียณ ขยับ น้องประยุทธ์ นั่งแม่ทัพภาค 3 คุมเหนือ ขณะที่ แม่ทัพภาค 4 ดัน กิตติ รองแม่ทัพภาค 4 แทนที่

            เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่กองบัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก (นปอ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการพิจารณาปรับย้ายนายทหารชั้นนายพล เพื่อหารือถึงการจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารกลางปี 2556 เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยที่มี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมว่า เป็นการประชุมหารือร่วมกันในทุกเหล่าทัพ โดย ผบ.เหล่าทัพ ได้ชี้แจงเหตุผลและหลักการในการปรับย้ายทั้งหมด ซึ่งเป็นไปได้ด้วยดี อย่างไรก็ตาม ตนไม่ต้องการให้ทุกคนมาให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวนี้มากนัก เพราะถือเป็นเรื่องภายในของเหล่าทัพทหาร และใครจะเป็นอะไรก็ตาม เขาก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบวินัยของกองทัพ ซึ่งจะดำเนินการอย่างอื่นที่ฝ่าฝืนกฎหมายไม่ได้

            เมื่อถามว่า รมว.กลาโหม ได้นัดส่งบัญชีรายชื่อปรับย้ายเมื่อไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกเหล่าทัพได้มีการส่งบัญชีรายชื่อปรับย้ายกลางปีไปยัง รมว.กลาโหม แล้ว ซึ่งในส่วนของกองทัพบกนั้น บัญชีโยกย้ายได้ดำเนินการเสร็จมาก่อนหน้านั้น และไม่มีการปรับแก้อะไร เพราะทุกอย่างดำเนินการตามขั้นตอน

            เมื่อ ผู้สื่อข่าวถามถึงบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 แทน พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ที่จะเกษียณอายุราชการในปีนี้นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 ขณะนี้ได้มีการพิจารณาเรียบร้อยแล้ว โดยดูจากคุณสมบัติและการทำหน้าที่ คนที่จะมาดำรงตำแหน่งต้องเป็นคนเก่าที่อยู่ในพื้นที่ ไม่ใช่คนใหม่ที่มาจากที่อื่น เพราะต้องเป็นคนที่เคยทำงานในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากต้องมีการสานต่องาน รวมถึงเรื่องของความอาวุโสด้วย

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พล.อ.อ.สุกำพล ได้หารือเกี่ยวกับการจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารกลางปี ร่วมกับ ผบ.เหล่าทัพ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ทาง รมว.กลาโหม ได้ให้ ผบ.เหล่าทัพ กลับไปจัดทำบัญชีรายชื่ออีกครั้ง โดยการปรับย้ายในครั้งนี้ไม่มีการปรับ ย้ายตำแหน่งมากนัก ซึ่งบัญชีรายชื่อโยกย้ายกลางปีจะมีทั้งหมด 79 อัตรา โดยในส่วนของกองทัพบกมีการปรับย้าย 35 อัตรา

            โดย เบื้องต้นพบว่า ผบ.ทบ. ได้ปรับย้ายในส่วนของตำแหน่งของ พล.ท.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพภาคที่ 3 ที่จะเกษียณอายุราชการในปลายเดือนกันยายนนี้ ให้มาดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ในอัตรา พล.อ. โดยขยับ พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา (ตท.15) แม่ทัพน้อยที่ 3 ซึ่งเป็นน้องชายของ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 3 ขณะที่ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 จะถูกขยับขึ้นมาเป็น อัตรา พล.อ. ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในปลายปี 2556 ในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ โดย พล.ท.อุดมชัย ได้เสนอชื่อ พล.ท.กิตติ อินทสร (ตท.14) รองแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งเป็นนายทหารที่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน โดย พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด

            นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีความต้องการปรับเปลี่ยนในตำแหน่งของ พล.ต.สุรศักดิ์ บุญศิริ ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.ม.2รอ.) และ พล.ต.ศักดา สาลีพันธ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารปืนใหญ่ (ผบ.พล.ป.) ขยับขึ้นมาอัตรา พล.ท. ในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกก่อนจะเกษียณอายุราชการ แต่เนื่องจากติดขัดเรื่องอัตรา เพราะการปรับย้ายในส่วนของกองทัพบกครั้งนี้มี พล.อ. 4 ตำแหน่ง พล.ท. 3  ตำแหน่ง และพล.ต.มีเพียง 11 ตำแหน่ง ซึ่งหากมีการปรับเปลี่ยนก็จะมีผลกระทบ จึงทำให้ไม่สามารถขยับตำแหน่งได้ อย่างไรก็ตาม การพิจารณาบัญชีปรับย้ายยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด โดย พล.อ.อ.สุกำพล จะเชิญ ผบ.เหล่าทัพ มาพูดคุยหารือข้อสรุปอีกครั้งในวันที่ 9 มีนาคมนี้

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม