เจ้าพ่อเฟซบุ๊คเพิ่งลั่นระฆังวิวาห์กับ "พริสซิลลา ชาน" แฟนสาวดีกรีแพทย์ ตอกย้ำเทรนด์ 'หลังบ้าน' บิ๊กซิลิคอน วัลเลย์ แต่ละคนดีกรีไม่ธรรมดา

สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก เมื่อ "มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก" สละโสดในวัย 28 ปีหมาดๆ ลั่นระฆังวิวาห์กับ "พริสซิลลา ชาน" แฟนสาวที่คบหากันนาน 9 ปี หลังจากเคาะระฆังขายหุ้นในตลาดแนสแดคเพียง 1 วัน

พิธีแต่งงานครั้งนี้เชิญแขกเข้าร่วมประมาณ 100 คน แต่ละคนรู้แค่ว่าถูกเชิญไปร่วมงานเลี้ยงจบการศึกษาของพริสซิลลา ที่บ้านของซักเคอร์เบิร์กในพาโล อัลโต้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเธอเพิ่งจบการศึกษาด้านกุมารแพทย์ จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก (ยูซีเอสเอฟ)

คุณหมอชาน ชาวอเมริกันเชื้อสายจีน รู้จักกับหนุ่มซักเคอร์เบิร์กตั้งแต่สมัยเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยเธอเรียนจบสาขาชีววิทยาจากฮาร์วาร์ดในปี 2550 ขณะที่ซักเคอร์เบิร์กเลิกเรียนกลางคัน เพราะหันไปทุ่มเทเวลาให้กับเฟซบุ๊คแทน

มิสซิสซักเคอร์เบิร์กมีอิทธิพลไม่น้อยต่องานของเจ้าพ่อเฟซบุ๊ค เห็นได้จากความสนใจด้านกุมารแพทย์ ทำให้หนุ่มซักเคอร์เบิร์กใส่เครื่องมือช่วยรับบริจาคอวัยวะเข้าไปในเว็บเครือข่ายสังคมแห่งนี้

"ฟอร์บส" ระบุว่า ไม่เพียงแต่หลังบ้านของเจ้าพ่อเฟซบุ๊คที่เรียนจบดีกรีแพทย์ แต่สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของบรรดาผู้นำในซิลิคอน วัลเลย์ แต่ละคนก็ล้วนมีดีกรีไม่ธรรมดา และประสบความสำเร็จในงานที่ทำ ไม่ใช่คุณแม่บ้านหรือคู่ควงไว้คอยออกงานสังคมเท่านั้น

ดูอย่าง "ลอเรนซ์ โพเวลล์ จ็อบส์" ภรรยาม่ายของ "สตีฟ จ็อบส์" เจ้าของอาณาจักรแอปเปิลผู้ล่วงลับ เธอเรียนจบด้านเศรษฐศาสตร์จากวาร์ตันสกูล จากนั้นทำงานกับโกลด์แมน แซคส์ และเมอร์ริล ลินช์ ก่อนสำเร็จการศึกษาด้านเอ็มบีเอจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เธอยังร่วมก่อตั้งบริษัทผลิตอาหารจากธรรมชาติ "เทอร์ราเวอร์รา" และสถาบันการศึกษาไม่แสวงผลกำไรชื่อ "คอลเลจ แทร็ก" รวมถึงนั่งเป็นบอร์ดบริหารในสมาคมนิวอเมริกา และโครงการสอนเพื่ออเมริกา (Teach for America)

อีกคน คือ "แอนน์ วอจซิกกี" ภรรยาของ "เซอร์กี้ บริน" ผู้ก่อตั้งร่วมของค่ายกูเกิล โดยเธอเรียนจบด้านชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยเยล อีกทั้งร่วมก่อตั้งบริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพ "23แอนด์มี" ที่ทำงานวิเคราะห์ด้านดีเอ็นเอในราคาที่ไม่แพงเกินเอื้อม

และ "เมลินดา เกตส์" ภรรยาของมหาเศรษฐี "บิล เกตส์" ผู้ก่อตั้งอาณาจักรไมโครซอฟท์ เธอผู้นี้เรียนจบด้านเอ็มบีเอจากมหาวิทยาลัยดุ๊ก ก่อนจะร่วมงานกับไมโครซอฟท์ในปลายยุค 1980 และมีส่วนร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่รู้จักอย่างสารานุกรม "เอนคาร์ทา" ปัจจุบันเธอทุ่มเทเวลาให้กับงานด้านการกุศลที่มูลนิธิบิล แอนด์ เมลินดา เกตส์

ที่มา

http://www.bangkokbiznews.com