'มิ้น รุจิเรศ' "เจ้าหญิง (10) ล้านวอน"
2012-05-10 11:05:36
Advertisement
คลิก!!!

โลกออนไลน์หลายคนอยากรู้จัก สาวน้อยหน้าใส สไตล์เกาหลี ฉายาเจ้าหญิงล้านวอนว่า เธอเป็นใครกันแน่ ด้วยบุคคลิกกับความบ้า ซ่า เปิ่น ในคลิปวิดีโอเที่ยวเกาหลีบนเว็บไซต์ Youtube ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในช่วงเวลาที่ผ่านมา เจอตัวทั้งที Life On Campus จึงขอคุยแบบเปิดใจกับเจ้าของฉายานี้
เน็ตไอดอลหน้าใหม่ "มิ้นท์ รุจิเรศ บุญผ่องศรี" ที่หลายคนกำลังจับตามอง "บ้าๆ รั่วๆ" คือ คำนิยามที่เธอพูดถึงตัวเองในสายตาเพื่อนและคนสนิท แต่เพราะความน่ารัก สดใสในแบบที่เป็นตัวของตัวเองทำให้เธอเป็นที่รู้จัก และถูกพูดถึงกันอย่างมากในขณะนี้ นอกจากการแสดงออกตามบทบาทหน้าที่แล้ว ยังมีอีกหลายแง่มุมที่เราสัมผัสได้ระหว่างพูดคุยกัน เชื่อว่าแฟนคลับเองก็น่าจะอยากรู้กันแล้วล่ะ
ขยันเรียนสุดๆ
เริ่มต้นที่เรื่องเรียนก่อนดีกว่า "น้องมิ้นท์" (ว่าที่) บัณทิตจากคณะวิทยาศาสตร์ สาขาคณิตศาสตร์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เธอเล่าให้ฟังว่าการเรียนสาขานี้ถือเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เพราะต้องเรียนแคลคูลัสตั้ง 4 ตัว มีวิชาบังคับ C ถึง 12 ตัว และวิชาโทคอมพิวเตอร์ก็บังคับ C อีก 5 ตัว ถ้าไม่ผ่านก็ต้องเรียนใหม่ แต่ด้วยความชอบ และความขยันจึงทำให้ผ่านมาได้ดี และสามารถจบการศึกษาภายใน 3 ปีครึ่ง
"เหตุผลที่เลือกเรียนคณิตศาสตร์ประยุกต์เพราะเป็นคนที่ชอบเรียนเลขมากๆ รู้สึกว่าตัวเองทำได้ดีก็เลยชอบ แต่จริงๆ มิ้นท์เป็นคนที่เรียนรู้อะไรได้ช้ามาก เวลาฟังอาจารย์พูดในชั้นเรียนก็จะไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็เลยเป็นเหตุผลให้ต้องขยันเป็นพิเศษ โดยปกติเป็นคนนอนเร็ว จะเข้านอนประมาณ 6 โมงเย็นถึง 1 ทุ่ม และตื่นมาอ่านหนังสือตอนตี 2 เพราะพักอยู่หอใน ก็จะมีที่อ่านหนังสือตรงชั้นล่างหอพัก พอใกล้สว่างก็จะขึ้นนอน และตื่นมาเรียนในตอนเช้า"
สาวน้อยอารมณ์ดีเล่าต่อว่า การเรียนคณิตฯ ทำให้รู้จักคิดแบบมีเหตุมีผล มีการจัดระบบทางความคิดที่ดี พอยิ่งเรียนและรู้สึกว่าทำได้ดี ก็ยิ่งรู้สึกชอบมากขึ้น และด้วยความขยันทำให้ตอนปี 1 สามารถสอบได้เป็นอันดับหนึ่งของสาขาวิชา แล้วก็ได้ทุนการศึกษาหนึ่งหมื่นบาท ซึ่งเธอบอกว่ารู้สึกภูมิใจมากในตอนนั้น
"ช่วงปี 3 มิ้นท์เริ่มทำงานก็มีเวลาว่างน้อยลง แต่ไม่ค่อยมีปัญหา เพราะมิ้นท์จะอ่านหนังสือก่อนสอบอย่างน้อยหนึ่งเดือนอยู่แล้ว ต้องเตรียมตัวและฝึกทำโจทย์เยอะๆ และทบทวนบทเรียนอย่างสม่ำเสมอ เป็นการทบทวนความจำของตัวเอง มีเพื่อนคนหนึ่งในสาขาเดียวกันที่เรียนเก่งมาก รู้สึกว่าเขาไม่ได้อ่านหนังสือหรือทำอะไรมากมายเลยแต่ได้คะแนนดีตลอด แต่เราอ่านแทบตายทำได้เท่าเขา เราก็ภูมิใจ"
ส่วนเรื่องการแบ่งเวลาเรียนกับการทำงาน มิ้นท์จะค่อนข้างให้ความสำคัญกับการเรียนก่อน คือ จะไม่รับงานเลย ถ้าติดเรียนหรือติดสอบ แต่ถ้าเป็นงานที่ติดสัญญา หรือสำคัญไม่สามารถเลื่อนได้จริงๆ ก็จะคุยกับอาจารย์ประจำวิชาไว้ล่วงหน้า และขอทำงานส่งย้อนหลัง แต่โชคดีที่เป็นมิ้นท์เป็นคนชอบอ่านหนังสือทบทวนอยู่แล้ว จึงไม่ค่อยมีปัญหากับการเรียน
พอถามถึงเรื่องเรียนต่อน้องมิ้นท์ให้คำตอบว่า ตอนนี้ยังอยากช่วยงานพ่อกับแม่ก่อน เพราะท่านทั้งสองอายุมากแล้ว ยังต้องทำงานบ้าน และขายของด้วย พอมิ้นท์กลับมาอยู่ที่บ้านก็ช่วยแบ่งเบาภาระไปได้เยอะ ทั้งช่วยยกของ ขายของ ทำงานบ้านต่างๆ อีกทั้งมิ้นท์ต้องจากบ้านไปเรียนที่ต่างจังหวัดตั้งแต่จบชั้นประถมปลาย จึงอยากใช้ช่วงเวลาระหว่างรอรับปริญญาอยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด แล้วหลังจากนั้นค่อยคุยกันอีกที
เน็ตไอดอลหน้าใหม่
ตอนนี้เรียกว่าได้ว่า Moomint (หมูมิ้นท์ ชื่อที่ถูกเรียกบนสังคมออนไลน์) กลายเป็นที่รู้จัก และกำลังถูกพูดถึงกันอย่างมาก ก็เลยได้โอกาสถามถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้ก้าวเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ซึ่งก็ได้คำตอบว่า ตอนช่วงเรียนปี 3 มิ้นท์เริ่มจากการประกวดเพื่อเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับคอมพิวเตอร์โน๊ตบุคยี่ห้อหนึ่ง อยากลองทำงานด้านนี้เพราะตัวเองเป็นคนขี้อายมาก ไม่ จึงคิดว่าจะสร้างความมั่นใจให้ตัวเองด้วยการประกวดลองดู ผลปรากฏว่าผ่านการคัดเลือก และได้เป็นตัวแทน 5 คนสุดท้าย
"พอเริ่มงานถ่ายโฆษณาเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ได้ทำอะไรเยอะขึ้น ต้องพูดคุยกับคนรอบข้างให้มากๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคย คุยและเล่นกับกล้องจนรู้สึกว่าไม่ค่อยเขินเวลาอยู่หน้ากล้อง ทำให้เรามีกล้ามากขึ้น กล้ามองหน้า กล้าแสดงออกเยอะขึ้น จากนั้นก็เลยเริ่มไปแคสงานอื่นๆ ที่หลากหลาย แต่จำได้ว่าเคยแคสมากกว่า 20 ครั้ง ไม่เคยได้สักครั้ง" (หัวเราะ)
มิ้นท์ว่างานมันก็สนุก เพราะถือเป็นประสบการณ์ที่เราไม่เคยสัมผัส หลังจากนั้นก็เป็นนางแบบให้น้องที่เรียนถ่ายภาพบ้าง เป็นนางแบบให้พี่ที่เปิดร้านเสื้อผ้าบ้าง จนมีคนรู้จักติดต่อให้ไปถ่ายแบบลงนิตยสารบ้าง แล้วก็เริ่มรับงานมาเรื่อยๆ ถึงจะเป็นงานเล็กๆ แต่ทำแล้วมีความสุข มีรายได้ที่หามาได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องรบกวนขอเงินพ่อแม่ด้วย ซึ่งส่วนมากงานถ่ายแบบหรือโฆษณาที่มิ้นท์รับก็จะถูกเผยแพร่บนสังคมออนไลน์ จึงทำให้มีคนรู้จักอย่างรวดเร็ว
นอกจากนั้นน้องมิ้นท์ยังเปรยว่าอยากเล่นหนังสักหนึ่งเรื่อง เพราะเป็นคนที่ชอบดูหนัง และมักจะอินจัดไปกับนักแสดง รู้สึกทึ่งทุกครั้งที่เขาทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วมไปด้วย ก็เลยฝันว่าสักวันหนึ่งจะเป็นแบบนั้นให้ได้ แต่ก็ไม่ได้อยากเป็นดาราดัง หรือมีชื่อเสียงอะไรขนาดนั้น เพราะไม่ได้เรียนการแสดงมา ไม่ได้เรียนมาเฉพาะทาง เพียงแต่อยากทำงานที่ตัวเองสนุก และมีความสุขเท่านั้นเอง
สาวน้อยอารมณ์ดี กับอดีตลูกเป็ดขี้เหล่
ถัดมาที่ในวันวานของเธอบ้าง น้องมิ้นท์เล่าถึงสมัยเด็กๆ ว่า เธอเปรียบเสมือนลูกเป็ดขี้เหล่ก็ว่าได้ มักจะถูกคนแถวบ้านแซวอยู่บ่อยๆ ว่าเป็นไม่ใช่ลูกของพ่อกับแม่ เพราะหน้าตาไม่เหมือนพี่น้องทั้ง 3 คนเลย จำได้ว่าตัวเองหน้าเหลี่ยม ฟันเหยิน ตัวดำ ขณะที่พี่น้องทุกคนขาวมาก จนประมาณช่วง ม. 3 แม่ก็พาขัดผิว สอนให้ดูแลตัวเอง ถอดแว่นเปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์ จนเปลี่ยนไปแบบกระทันหันเพื่อนที่โรงเรียนจำไม่ได้
"มิ้นท์ว่าชีวิตตอน ม.3 เป็นแบบในหนังเรื่องสิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารักเลย ที่แบบเพื่อนในห้องไม่เคยเห็นว่ามีตัวตน จนวันหนึ่งไปแอบชอบรุ่นพี่แต่เขาไม่สนใจ แล้วก็เริ่มดูแลตัวเอง จนเปลี่ยนไปแบบดูดีขึ้น เพื่อนในห้องจำไม่ได้คิดว่าเป็นเด็กใหม่ รุ่นพี่คนนั้นก็เริ่มหันมาสนใจ แต่มิ้นท์กลับรู้สึกเฉยๆ เพราะคิดว่าเขาคงมองเราแค่ภายนอก ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วมิ้นท์ไม่ชอบคนที่ตัดสินคนอื่นเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกอยู่แล้ว"
จากนั้นก็ดูแลตัวเองเรื่อยมา คงด้วยความที่เราโตขึ้นด้วย หลายคนทักว่ามิ้นท์ไปทำจมูกมา เพราะหลังจากจัดฟัน หน้าโครง 5 เหลี่ยมก็กลายเป็น 3 เหลี่ยม (หัวเราะ) และรู้สึกว่าจมูกมันคมขึ้นมานิดหน่อย แต่ถ้าถามว่ารังเกรียจการศัลยกรรมไหม มิ้นท์มองว่ามันเป็นเรื่องปกติ ถ้าทำแล้วสวย หรือไม่เป็นอันตรายก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามิ้นท์จะทำ ก็คงจะเพิ่มความสูงให้ตัวเองเป็นอันดับแรก
ทำงาน ขายของ หารายได้พิเศษ
นอกจากงานบันเทิงแล้ว ใครจะคิดว่าสาวร่างเล็กอย่างเธอจะถนัดเรื่องการใช้แรงงานด้วย ซึ่งน้องมิ้นท์เล่าให้ฟังอีกว่าเคยร่วมหุ้นกับเพื่อนขายเสื้อผ้าที่ตลาดนัดในมอด้วย โดยกิจการนี้เธอลงทุนลงแรงทำด้วยตัวเองทุกอย่างตั้งแต่ไปเดินซื้อเลือกเสื้อผ้า หอบกระเป๋าใบใหญ่กลับมอ ตั้งโครงเหล็กหน้าร้าน ตั้งแต่ 4 โมงเย็น ตอนที่แดดยังร้อนๆ ขายไปจนกว่าตลาดจะปิด แถมยังบอกอีกว่าเหนื่อยสุดๆแต่ก็สนุกสุดๆไม่แพ้กันเลย
"พอมีโอกาสไปถ่ายแบบให้กับร้านเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง ก็ได้แรงบันดาลใจใหม่ อยากจะทำร้านเสื้อผ้าขายเองบนเฟซบุ๊ก ว่าแล้วก็ร่วมหุ้นกับเพื่อนซื้อเสื้อผ้ามาขาย โดยเป็นนางแบบกันเอง มันอาจจะดูง่ายกว่าขายที่ตลาดนัดแต่ก็เหนื่อยพอๆกัน เพราะต้องไปเลือกซื้อเสื้อผ้าเองแล้วก็ขนกลับเองอยู่ดี ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนรู้จักก่อน ขายได้สักพักก็เรียนจบ มิ้นท์ต้องกลับไปอยู่บ้าน ร้านออนไลน์ก็เลยหยุดไปพักนึง เพิ่งมาเปิดร้านใหม่กับพี่สาว 2 คนแล้วก็เป็นนางแบบกันเองตามเคย ตอนนี้กลายเป็นธุรกิจครอบครัวไปแล้ว แต่เพิ่งส่งของได้ 3 ล็อต รายได้ก็ไม่มาก แต่ไม่ได้ขาดทุน เวลาได้เงินเยอะก็จะให้แม่บ้าง เก็บไว้ใช้ส่วนตัวบ้าง แล้วก็ออมเงินไว้ใช้ยามจำเป็น"
แม่ค้าสาวออนไลน์รายนี้เพิ่มเติมว่า การทำงานหาเงินด้วยตัวเอง ตั้งแต่การรับงานถ่ายแบบ เป็นพรีเซ็นเตอร์ งานโฆษณา รวมไปถึงการขายของ ทำให้เรามีรายได้ แล้วก็ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว ทั้งยังทำให้เห็นคุณค่าของเงิน รู้จักบริหารจัดการรายรับ รายจ่าย และรู้ว่ากว่าจะหาได้แต่ละบาทมันยากแค่ไหน
ที่มา "เจ้าหญิง (10) ล้านวอน"
คลิปวิดีโอเที่ยวเกาหลีสุดอู้ฟู่กับเจ้าหญิง (10) ล้านวอน ในแบบหมูมิ้นท์โก๊ะ รั่ว ฮา บ้าสุดๆ ได้ใจใครหลายคนไปเต็มๆ แต่ก็ยังแพ้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบอยู่ดี เนื่องจากฝนช่วงแรกวิดีโอคลิปถูกปล่อยออกมาทีละตัว โดยไม่บอกที่มาที่ไป งานนี้เธอเองยอมรับว่าเครียดมาก เพราะเธอจะต้องรับบทบาทสาวน้อยนักชอปที่ใช้เงินซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า กับประโยคเด็ดที่ว่า "มิ้นท์จะซื้อเกาหลีให้ดู" จนมีคำวิจารณ์ ทั้งตำหนิต่างๆ นานา
"มิ้นท์อดใจไม่ได้ที่จะไม่เปิดอ่านคอมเม้นต์ และเครียดมากที่ต้องเจอกับคำวิจารณ์สารพัด แต่ ครอบครัว เพื่อน และคนใกล้ชิดต่างก็เข้าใจว่ามันคืองาน มันไม่ใช่ตัวตนของมิ้นท์ แต่คนที่เขาไม่รู้จักมิ้นท์ เขาก็ต้องสงสัยเป็นธรรมดาว่ามิ้นท์เป็นใคร ทำตัวแบบนี้ได้ยังไง เพื่ออะไร ซึ่งประโยคที่ทำให้มิ้นท์ร้องไห้หนักมาก คือ เขาหาว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน ซึ่งตอนนั้นรู้สึกแย่มาก และไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพาดพิงถึงพ่อแม่เรา"
จนในที่สุดคลิปสุดท้ายที่เป็นคลิปเฉลยก็ถูกปล่อยออกมา บอกเล่าว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงโฆษณาเพื่อเชิญชวนให้เข้าร่วมสนุกชิงรางวัลไปเที่ยวเกาหลี โดยมีสโลแกนว่า "เที่ยวเกาหลีสุดอู้ฟู่กับเจ้าหญิง (10) ล้านวอน" แต่มิ้นท์เองก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้นหรือเปล่า เพราะคนเราพอเริ่มต้นรู้จักใครสักคนจากทัศนคติที่ไม่ดี จะหันกลับมารู้สึกดีมันก็ยาก แต่คนที่ชอบก็มี ซึ่งพวกเขาก็คอยให้กำลังใจตลอดมา มิ้นท์ก็เลยพยายามคิดว่าแค่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ รู้สึกสนุก และทำให้ทุกคนยิ้มได้ก็พอแล้ว
หลายคนที่รู้จักเธอในฐานะเจ้าหญิง (10) ล้านวอนอาจจะมองว่าเป็นคุณหนูไฮโซที่ทำตัวน่าหมั่นไส้ แต่เธอย้ำกับเราว่า "มิ้นท์เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น และการทำงานจนก้าวมาถึงจุดนี้ได้ก็ถือว่าไกลเกินกว่าที่ฝันไว้แล้ว มิ้นท์คิดว่าถ้าเราได้ และพอใจในสิ่งที่เราอยากได้ก็น่าจะหยุดและพอได้แล้ว และตอนนี้เลิกกังวลกับเรื่องราวที่ผ่านมาแล้วคะ เพราะความธรรมดาของมิ้นท์คงไม่มีใครจำ" สาวน้อยอารมณ์ดีเล่าพร้อมหัวเราะ
และงานชิ้นล่าสุด ก่อนที่จะกลับไปช่วยกิจการครอบครัวอย่างเต็มที่ คือการเดินทางไปเกาหลีอีกครั้ง เพื่อพาผู้โชคดีไปเที่ยวเกาหลีและถ่ายทำโฆษณาชิ้นนี้ต่อให้เสร็จ ซึ่งมิ้นท์ยังฝากทิ้งท้ายด้วยว่า ถ้าใครมีความฝันก็อย่าหยุดนิ่ง และเอาแต่รอคอยให้มันเดินมาหา เพราะมันจะไม่มีวันสำเร็จได้หากเราไม่ตัดสินใจเดินตามหาความฝันด้วยตัวเอง ที่สำคัญชีวิตคนเราไม่แน่นอน อยากทำอะไรก็ขอให้รีบทำ ถ้าเราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดี ทำแล้วมีความสุขก็ขอให้ทำมันอย่างเต็มที่ ขอแค่สิ่งเหล่านั้นไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็พอ
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ รุจิเรศ บุญผ่องศรี
ชื่อเล่น มิ้นท์
อายุ 22 ปี
การศึกษา ปริญญาตรีคณะวิทยาศาสตร์ มธ.
งานอดิเรก เย็บผ้า
ความฝัน มีแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง
หนังที่อยากเล่น ดราม่า, คอมมาดี้
ข้อมูลจาก
http://www.manager.co.th













onlyfans leaked xxx onlyfans leaked videos xnxx 2022 filme porno filme porno
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X