5 บทเรียนชีวิตที่ได้เรียนรู้จากซีรีส์เรื่อง Start-Up
2020-12-05 11:57:39
Advertisement
คลิก!!!

Start-Up ถือเป็นซีรีส์อีกเรื่องที่มีผู้ชมหลายคนติดตามอยู่ในขณะนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการวิ่งตามความฝันของ ซอดัลมี (รับบทโดย แบซูจี (Bae Suzy)) หญิงสาวที่อยากประสบความสำเร็จในฐานะ Steve Jobs แห่งเกาหลี และ นัมโดซาน (รับบทโดย นัมจูฮยอก (Nam Joo Hyuk)) วิศวกรหนุ่มผู้ก่อตั้งบริษัท Samsan Tech พวกเขามาพบกันในวงการธุรกิจ และได้เจอกับ ฮันจีพยอง (รับบทโดย คิมซอนโฮ (Kim Seon Ho)) นักลงทุนฝีมือเยี่ยมที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือการเริ่มต้นธุรกิจของพวกเขา
 

นอกจากความสนุกของซีรีส์ เคมีที่เข้ากันของตัวละครแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ยังได้ให้มุมมองในการใช้ชีวิตแก่ผู้ชมหลายอย่าง ลองไปดูกันดีกว่าว่าเราได้ข้อคิดอะไรจาก Start-Up กันบ้าง

คำเตือน: เนื้อหามีสปอยล์


1. อย่ากลัวความล้มเหลว

ซีรีส์เรื่องนี้ดำเนินเรื่องโดยการก่อตั้งธุรกิจของมือใหม่ในบริษัทที่เปรียบเสมือน Silicon Valley ของเกาหลีที่ชื่อว่า Sandbox พวกเขาดำเนินธุรกิจเพื่อช่วยเหลือบริษัทสตาร์ทอัพมือใหม่ให้สามารถตามความฝันของตัวเองได้ ฝันให้ยิ่งใหญ่ เหมือนไกวชิงช้าให้สูงเข้าไว้ และหากตกลงมา ก็จะมีทรายที่รองรับอยู่ให้คุณไม่เจ็บจนเกินไป 

ไอเดียเด็กผู้หญิงไกวชิงช้า โลโก้ของ Sandbox มาจากเรื่องราวของ ดัลมี ที่พ่อของเธอ ซอชองมยอง (รับบทโดย คิมจูฮยอน (Kim Joo Hyun)) เคยเล่าตอนที่เขาไปนำเสนอผลงาน ว่าลูกสาวของเขาไม่เลิกเล่นชิงช้าแม้จะตกลงมาเจ็บ แต่เลือกที่จะขอให้โรยทรายไว้ข้างล่าง เพื่อที่เวลาตกลงมาเธอจะได้ไม่เจ็บ เขาเองก็มีความฝันที่อยากทำ ถึงแม้ความล้มเหลวจะเจ็บปวด และในตอนนั้นเขาไม่มีบ่อทรายรอรับอยู่ แต่ตัวเขาเองก็กล้าที่จะลอง เพราะหากได้ลอง คำตอบมี 2 อย่าง คือสำเร็จ หรือไม่ก็ล้มเหลว แต่หากไม่ลงมือ คำตอบคือความล้มเหลวทั้งที่ยังไม่ลงมือทำ

 

2. การวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ คือสิ่งจำเป็นสำหรับความสำเร็จ

ตัวละครฮันจีพยอง (รับบทโดย คิมซอนโฮ) เป็นตัวละครปากร้าย พูดตรง และไม่เคยถนอมน้ำใจใคร แน่นอนว่าเราคงได้เห็นความตรงไปตรงมาในการวิจารณ์ของเขาไปแล้วในซีรีส์ ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าบางครั้งคำพูดของเขาอาจทำร้ายจิตใจคนฟัง อย่างในตอนที่ 10 ที่เขาเลือกถามดัลมีว่า อยากให้เขาพูดสิ่งที่เธอต้องการจะฟัง หรือความจริง เธอตอบเขากลับมาว่า อยากฟังความคิดเห็นอย่างซื่อตรง บนพื้นฐานของความจริง มากกว่าคำสัญญาลมปาก เต็มไปด้วยความฝันและความหวังที่ไม่มีวันเป็นจริง ทำให้เห็นว่าบางครั้งคำพูดตรงไปตรงมาที่มาจากความเป็นจริง อาจจะเจ็บปวด แต่สิ่งนี้ก็จำเป็นในการพัฒนา หากคิดว่าตัวเองพัฒนาแล้ว เราก็จะหยุดพัฒนา หากไม่มีใครมาชี้จุดบกพร่อง บางครั้งเราก็อาจจะมองข้ามความบกพร่องของตัวเองไป

 

3. ความจริงที่เจ็บปวด ก็ยังดีว่าคำโกหกแสนหวาน

เรื่องราวระหว่าง โดซาน และดัลมี ในช่วงแรก อธิบายข้อนี้ได้เป็นอย่างดี หลังจากรู้ความจริง ดัลมีเริ่มตั้งคำถามว่าโดซานคนที่เธอรู้จัก เป็นแบบที่เธอคิดจริงๆหรือไม่ การโกหกไม่เคยให้ผลลัพธ์ที่ดี แม้จะเริ่มต้นจากความปรารถนาดีมากแค่ไหนก็ตาม

 

4. การตามความฝันถึงแม้จะเสี่ยง แต่ก็คุ้มค่า

‘ทำตามความฝันของคุณ’ คือข้อความที่อยู่บนลูกเบสบอล เป็นเหมือนแรงบันดาลใจให้กับทั้งโดซานและดัลมี ถึงแม้ว่าความฝันที่ยิ่งใหญ่จะเต็มไปด้วยอุปสรรค และไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สุดท้ายการได้ลงมือทำ ก็เหมือนกับได้เริ่มเติมเต็ม และไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็เป็นสิ่งที่คุ้มค้าเสมอ เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว ต้องรีบคว้าไว้ ดีกว่าใช้ชีวิตด้วยการตั้งคำถามว่า ‘จะเป็นอย่างไรนะ ถ้าวันนั้นทำแบบนั้น?’

 

5. ทำให้ดีที่สุด อย่าเสียใจกับทางเลือกที่เลือก เพราะนั่นคือการตัดสินใจของคุณ

ดัลมีเติบโตมาด้วยความแตกต่างจากพี่สาว วอนอินแจ (รับบทโดย คังฮันนา (Kang Han Na)) โดยสิ้นเชิง หลังจากเธอเลือกอยู่กับพ่อ แทนที่จะไปกับแม่ที่แต่งงานกับตระกูลร่ำรวย 

ดัลมีพูดเอาไว้ว่า “คุณจะไม่รู้สึกเสียใจตอนเลือกหรอก มันจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น แต่ฉันไม่เคยเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเอง ฉันพยายามอย่างดีมาตลอด และฉันจะไม่เสียใจ” การตัดสินใจเลือก บางครั้งก็เปลี่ยนชีวิตของคนเราไปได้เลย แต่แทนที่จะมัวเสียดายทางเลือกในอดีตที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ลองพยายามทำทางเลือกที่ตัวเองได้ตัดสินใจไปแล้วให้ดีที่สุด ทำปัจจุบันให้เต็มที่ เพื่อสร้างทางเลือกใหม่ให้กับอนาคต และไม่เสียดายเมื่อมองกลับมา

 

เครดิตภาพ Start-Up / Netflix

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X